'โฆษกคมนาคม' โต้ปม 'แลนด์บริดจ์ ฝันที่ยากจะเป็นจริง' เผยเตรียมเสนอ พรบ.SEC

'โฆษกคมนาคม' โต้ปม 'แลนด์บริดจ์ ฝันที่ยากจะเป็นจริง' เผยเตรียมเสนอ พรบ.SEC

“โฆษกคมนาคม” แจงปม “แลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร ฝันที่ยากจะเป็นจริง” ชี้ผลตอบรับโรดโชว์นักลงทุนต่างชาติ ส่งสัญญาณร่วมลงทุนแน่นอน พร้อมเปิดไทม์ไลน์อยู่ระหว่างเตรียมเสนอ พรบ.SEC ภายในปีนี้ ก่อนจัดทำเอกสารประกวดราคาปี 2568

นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ในฐานะโฆษกกระทรวงคมนาคม โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวโต้ นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ปมโครงการแลนด์บริดจ์ ยันไม่ต้องนอนฝัน แต่เป็นเรื่องจริง! โดยระบุว่า

ผมเห็นข่าวที่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว โดยระบุว่า “แลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร ฝันที่ยากจะเป็นจริง” อยากจะบอกว่า นอนมากไปหรือเปล่า จนไม่รีบตื่นมาดูความเป็นจริง ออกมาพูดแบบนี้ ส่อจะเป็นการยุแยงที่อาจจะทำให้ประชาชนและนักลงทุนเข้าใจผิดไปกันใหญ่

ผมในฐานะโฆษกกระทรวงคมนาคม คิดว่าปล่อยไว้ไม่ได้ เลยต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกันสักหน่อย เพราะหลังจากที่ผมได้สัมผัส และเห็นข้อมูลจริง ประกอบกับสอบถามมาจากผู้รู้จริง พบว่า สันนิษฐานที่นายสามารถออกมาเผยแพร่นั้น ไม่สะท้อนกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เหมือนตั้งข้อสังเกตุกันลอย ๆ และจะทำให้ประชาชนเข้าใจผิด!

ผมอยากอธิบายผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ส่งต่อไปยังพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่านว่า โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หรือที่เรารู้จักกันดีว่า “โครงการแลนด์บริดจ์” เชื่อมต่อ 2 ท่าเรือ คือ ชุมพร-ระนอง ที่รัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย อยู่ระหว่างการผลักดันโครงการฯ นั้น เพราะมองเห็นว่า หากโครงการนี้ดำเนินการสำเร็จแล้ว จะช่วยสร้างประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน และประเทศชาติอย่างสูงสุด

“แลนด์บริดจ์” ถือเป็นโครงการที่ออกแบบมาเพื่อลดระยะเวลาการขนส่งตู้สินค้าทางเรือ และสร้างผลกำไรให้กับผู้ประกอบการสายเรือ โดยจากการคำนวนในทุกมิติอย่างครบถ้วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่า สามารถช่วยลดต้นทุน และระยะเวลาในการขนส่งสินค้า หลีกเลี่ยงความแออัดของช่องแคบมะละกา ตามที่มีการคาดการณ์ที่เชื่อว่า ปริมาณการขนส่งจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

และที่นายสามารถ ระบุว่า การขนส่งสินค้าจากเรือฝั่งหนึ่งขึ้นรถบรรทุกหรือรถไฟไปอีกฝั่งหนึ่ง พอไปถึงจะต้องขนจากรถบรรทุกหรือรถไฟลงเรืออีก จะทำให้เสียเวลานานมากนั้น อันนี้ก็เกิดจากกรอบความคิดการขนส่งแบบเดิมๆ ที่จะต้องขน ซึ่งจากการที่ท่านรองนายกรัฐมนตรี สุริยะฯ ได้เดินทางไปดูการขนถ่ายสินค้าด้วยระบบอัตโนมัติที่เกิดขึ้นจริงในท่าเรือและรถไฟนั้น สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ในปัจจุบัน

\'โฆษกคมนาคม\' โต้ปม \'แลนด์บริดจ์ ฝันที่ยากจะเป็นจริง\' เผยเตรียมเสนอ พรบ.SEC

คุณสามารถ รู้ที่มาที่ไปของ “โครงการแลนด์บริดจ์” หรือเปล่าว่า โครงการนี้ เป็นโอกาสครั้งสำคัญในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ระดับภูมิภาค ทั้งในเชิงพาณิชย์ และเชิงยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงมหาสมุทรแปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดียเข้าด้วยกัน สามารถช่วยลดระยะเวลาการขนส่งทางทะเล และต้นทุนด้านโลจิสติกส์ เกิดเป็นศูนย์กลางการขนส่ง และการค้าแห่งใหม่ของโลกด้วย

แล้วที่บอกว่า โครงการแลนด์บริดจ์ ”เนื้อหอม“ ก็ต้องยอมรับว่า เนื้อหอมจริงๆ หลังจากที่ท่านนายกฯ ท่านรองนายกฯ ”สุริยะ“ ได้เดินหน้าไปโรดโชว์ และประชาสัมพันธ์โครงการให้นานาประเทศได้รู้จักโครงการฯ เพิ่มมากขึ้น พบว่า ขณะนี้มีนักลงทุนที่มีศักยภาพจากหลายประเทศ ต่างให้ความสนใจโครงการฯ อาทิเช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น กลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง ซึ่งอย่างที่ท่านนายกฯ เศรษฐา ว่าโครงการขนาดใหญ่ขนาดนี้ นักลงทุนคงไม่ได้ตัดสินใจจะลงทุนในระยะเวลาเดือน สองเดือนครับ

และล่าสุด คือ ตามที่ท่านรองนายกฯ สุริยะ ได้เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นการ และได้โรดโชว์โครงการแลนด์บริดจ์ด้วยนั้น พบว่า ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนภาคธุรกิจของจีนเข้าร่วมงานกว่า 30 บริษัทและสนใจมากๆ โดยเฉพาะบริษัท China Harbour Engineering ที่ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมากถึงมากที่สุด เรียกได้ว่า “ไม่ได้เงียบกริบ” อย่างที่นายสามารถเข้าใจผิดอย่างแน่นอน งานนี้! อาจจะมีคนเงิบ และรอฟังข่าวดีได้เลย

สรุป!

การดำเนินโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ได้พิจารณาถึงความเหมาะสม และความคุ้มค่าที่จะเกิดขึ้น อย่างละเอียดรอบคอบ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และประเทศชาติเป็นสำคัญ และผมมั่นใจว่า “โครงการแลนด์บริดจ์” จะมีนักลงทุนต่างชาติ มาร่วมลงทุนอย่างแน่นอน เพราะเป็นโครงการสำคัญ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ผลักดันให้ “ประเทศไทย” ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งและการค้าแห่งใหม่ของโลกครับ

ทั้งนี้ ในส่วนของสถานะโครงการแลนด์บริดจ์ปัจจุบันกระทรวงฯ ดำเนินการโรดโชว์เชิญชวนนักลงทุนแล้วเสร็จ ขั้นตอนต่อไปเตรียมเสนอ พ.ร.บ.เขตพิเศษภาคใต้ (SEC) ต่อสำนักงาน SEC ภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 และดำเนินการออกประกาศเชิญชวนนักลงทุนภายในปี 2568 พร้อมเปิดประมูลได้ภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2569 ส่วนการเวนคืนที่ดินจะดำเนินการได้ภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2569 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2569 โดยจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2573