แก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ สั่งผู้ค้ำ ม.7 ห้ามกดราคาซื้อ B100 ต่ำกว่าประกาศ สนพ.
ครม.แก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ สั่งเข้มการซื้อไบโอดีเซล (B100) ต้องตามราคาประกาศของ สนพ.อย่างเคร่งครัด ห้ามมีส่วนลดโดยเด็ดขาดเพราะส่งผลกระทบต่อราคาปาล์มสดในตลาดที่ราคาตกต่ำ พร้อมงัดกฎหมายเล่นงานโดยเด็ดขาดหากยังมีการฝ่าฝืน
แหล่งจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2567ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีการหารือพบว่าปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ มาจากสาเหตุที่สำคัญหลายประการ เช่น ปริมาณปาล์มน้ำมันที่ออกมาสู่ตลาดมาก แต่อัตราการสกัดน้ำมันปาล์มดิบ (Vield) ต่ำ จากอัตราปกติควรอยู่ประมาณ 18% ซึ่งปัจจุบันอัตราการสกัดน้ำมันปาล์มดิบเฉลี่ยอยู่ประมาณ 15%
และอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อราดาปาล์มน้ำมันตกต่ำกว่าราดาที่ควรจะเป็นมาตลอดเวลา คือ การต่อรองราดาส่วนลดของผู้ด้น้ำมันตามมาตรา 7 โดยใช้วิธีการตลาดบังดับให้ผู้ผลิตไบโอดีเซล (B100) ขายต่ำกว่าราคาที่ประกาศจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เป็นผลทำให้กระทบต่อเนื่องเป็นห่วงโซไปสู่เกษตรกรผู้ปลูกปาล์ม ทำให้ปาล์มราดาตกต่ำ หรือเกษตรกรขายทลายปาล์มได้ต่ำกว่าราคาที่เป็นจริง
“ในที่ประชุมมีมติเห็นพร้อมตรงกันว่าต้องยกเลิกการขอส่วนลดจากผู้คำน้ำมัน เนื่องจากส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่ของผู้ผลิตไบโอดีเซล (B100) และมีผลกระทบโดยตรงไปยังเกษตรกร พร้อมทั้งออกแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร และผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด”
ทั้งนี้หากผู้ดำน้ำมัน ตามมาตรา 7 ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมติ ครม. เศรษฐกิจ อาจเข้าข่ายมีความผิดตามมาตรา 311 ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งมีโทษทางแพ่งและอาญา โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว. กระทรวงพลังงาน จะทำหน้าที่ในการประสาน และสั่งการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงพลังงานต่อไป เพื่อไม่ให้มีส่วนลดจากราคาประกาศ ราคา B100 โดยสนพ. อย่างเคร่งครัดโดยทันที
นอกเหนือจากนั้นการหามาตรการกระตุ้นการใช้น้ำมันปาล์มภายในประเทศเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ภาครัฐให้ความสนใจ โดยภาครัฐจะได้หาแนวทางต่าง ๆ ที่จะทำให้ปริมาณการใช้เพิ่มขึ้น เช่น การปรับเพิ่มสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจาก7% (B7) เป็น 10% (B10)
รวมถึงการส่งเสริมและผลักดันการใช้น้ำมันปาล์มดิบในอุตสาหกรรมอื่น นอกเหนือจากอุตสาหกรรมอาหารและพลังงานอีกทั้งยังมีแนวทางการส่งเสริมและผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ และน้ำมันไบโอดีเซล (B100)เพิ่มขึ้น โดยใช้มาตราการการอุดหนุนการส่งออก และขยายตลาดเพิ่มขึ้นในฝั่งยุโรป รวมถึงป้องกันการนำเข้าจากประเทตเพื่อนบ้านโดยผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมผู้แทนกระทรวงพาณิชย์, ผู้แทนกระทรวงพลังงาน จะเดินทางไปแก้ไขปัญหาโดยตรงกับชาวเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มในกาคใต้โดยจะเดินทางไปแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 นี้ และจะติดตามแผนการดำเนินการแก้ไขให้ราคาปาล์มกลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็วต่อไป