'โกลด์แมน แซคส์' คาด 'ธปท.' เลื่อน! 'หั่นดอกเบี้ย' ไปปีหน้า
อาจต้องรอต่อไป! “โกลด์แมน แซคส์” คาด “ธปท.” เลื่อนคิวหั่นดอกเบี้ยออกไปเป็นปีหน้า เหตุรัฐบาลเตรียมออก “ดิจิทัลวอลเล็ต” ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นภายในปีนี้
โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ กลุ่มบริษัทการเงินรายใหญ่ของสหรัฐ คาดการณ์ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 จากเดิมที่เคยคาดการณ์เอาไว้ว่าจะเป็นช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลไทยวางแผนใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งช่วยลดแรงกดดันในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้กับ ธปท.
“เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะขยายตัวเร็วขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 เนื่องจากรัฐบาลใช้จ่ายงบประมาณมากขึ้นและจะกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ตภายในปีนี้” บรรดานักกลยุทธ์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุในวันอังคาร (28 พ.ค.)
ขณะนี้ นักกลยุทธ์โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ธปท.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในไตรมาส 2-3 ของปี 2568 จากที่เคยคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า ธปท.จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในไตรมาส 3/2567
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลไทยได้พยายามเพิ่มการใช้จ่ายประจำปี 1.22 แสนล้านบาท ในปีงบการประมาณปัจจุบันที่สิ้นสุดลงในเดือน ก.ย. เพื่อนำไปสนับสนุนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย โดยรัฐบาลไทยประมาณการว่ากรณีดังกล่าวจะทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 4.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จากการประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 3.7%
ก่อนหน้านี้ บรรดาเทรดเดอร์ได้ลดการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็ว ๆ นี้ หลัง ธปท.มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพียง 0.12% ในช่วง 6 เดือนข้างหน้าเทียบกับในเดือน มี.ค. ที่คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
หลังจากคงดอกเบี้ยนโยบายในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา แบงก์ชาติระบุว่า เศรษฐกิจไทยเผชิญความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น มาตรการกระตุ้นทางการคลัง ซึ่งอ้างอิงถึงโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตมูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท
ด้าน ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ประเทศไทย ประมาณการว่า ธปท.จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายออกไปเช่นกัน โดยคาดว่าจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายการเงินในเดือน ธ.ค.ปีนี้ จากที่เคยคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะเริ่มในเดือน มิ.ย.
นอกจากนี้ บรรดานักกลยุทธ์โกลด์แมน แซคส์ ยังมี “มุมมองเชิงลบ” ต่อทั้งอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา เนื่องจากการขาดดุลงบประมาณที่สูงขึ้นจะเพิ่มความต้องการเงินทุน ขณะที่ “เงินบาท” จะยังถูกกดดันต่อไปจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่กว้างระหว่างไทยกับสหรัฐ และส่วนต่างการเติบโตทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับประเทศอื่น ๆ ในระดับเดียวกัน
อ้างอิง: Bloomberg