คลัง อุบแหล่งรายได้หมื่นล้าน งบฯกลางปี 67 มั่นใจทั้งปีจัดเก็บรายได้ตามเป้า

คลัง อุบแหล่งรายได้หมื่นล้าน งบฯกลางปี 67 มั่นใจทั้งปีจัดเก็บรายได้ตามเป้า

“ปลัดคลัง” เผยนายกฯเรียกถกหน่วยงานภาษี ตามความคืบหน้าจัดเก็บรายได้ มั่นใจคลังยังจัดเก็บรายได้ตามเป้า อุบแหล่งเงินงบฯเพิ่มเติม 1 หมื่นล้าน “เอกนิติ” แจงสรรพสามิตรายได้ต่ำเป้าจาก การตั้งเป้าสูงมาก ชี้ปีนี้เก็บรายได้เพิ่มแล้วกว่า 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน

วันนี้ ( 5 มิ.ย.)  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เรียกหน่วยงานจัดเก็บภาษี ได้แก่ กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และกรมสรรพากร มาประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล ในเวลาประมาณ 15.00 น. โดยมีนายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมประชุม ที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล 

คลัง อุบแหล่งรายได้หมื่นล้าน งบฯกลางปี 67 มั่นใจทั้งปีจัดเก็บรายได้ตามเป้า

นายกรัฐมนตรีได้โพสต์ "X" ทวิตเตอร์ ว่าในวันนี้ได้หารือกับหน่วยงานในกระทรวงการคลัง เพื่อระดมความเห็นเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงการวางแผนปรับโครงสร้างรายได้เพื่อส่งเสริมวินัยการเงินการคลัง 

ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 15.40 น. นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าการประชุมในครั้งนี้เป็นการรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบเกี่ยวกับการดำเนินงานในการจัดเก็บรายได้ของกระทรวงการคลังซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีอยากทราบความคืบหน้าทางกระทรวงก็ได้รายงานให้ฟัง 

เมื่อถามว่าปัจจุบันการจัดเก็บรายได้ยังต่ำกว่าเป้ากระทรวงการคลังมีแผนจะดำเนินการอย่างไร ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังดำเนินการอยู่แล้วมีแผนในการทำงานอยู่ 

ส่วนเมื่อถามว่าในส่วนของงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2567 ที่มีการตั้งเป้าหมายในการจัดเก็บรายได้เพิ่มเติมไว้ 1 หมื่นล้านบาท จะมาจากแหล่งรายได้ใด นายลวรณ กล่าวว่า กระทรวงการคลังมีแหล่งรายได้อยู่แล้วครับ

 “เรามีเงินเรียบร้อยแล้วครับ” ปลัดคลังระบุ

เมื่อถามว่าแหล่งเงินจะมาจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ใช่หรือไม่ ตอบว่า ไม่ใช่ แต่ตรงนี้มีแหล่งเงินแน่นอนแล้ว 

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต ที่มีการจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท ว่า ในเรื่องนี้ส่วนหนึ่งมาจากเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้สูงมาก โดยให้กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้สูงขึ้น 25%

ทั้งนี้ การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในปีนี้หากเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาก็ยังถือว่าสูงขึ้น โดยการจัดเก็บรายได้ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2566 - พ.ค. 2567 ก็สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 11% โดยในช่วงเดือน ต.ค. 2566 - เม.ย. 2567 นั้นสูงกว่าเป้าประมาณ 9% เมื่อรัฐบาลยกเลิกมาตรการการอุดหนุนภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลก็ทำให้การจัดเก็บรายได้ของกรมฯเพิ่มขึ้นด้วย

ซึ่งในระยะต่อไปก็มั่นใจว่าการจัดเก็บรายได้ของกรมฯ จะค่อยๆเพิ่มขึ้นตามลำดับ ส่วนการประเมินการจัดเก็บรายได้ของกรมฯทั้งปีในปีนี้อยู่ระหว่างการประเมินแต่เชื่อว่าทิศทางจะดีขึ้นเรื่อยๆ  

“ขนาดที่ GDP โตได้ประมาณ 2% แต่เราก็ยังจัดเก็บรายได้ได้สูงกว่าเป้าและสูงกว่าจีดีพีมาก ตอนนี้ก็สูงกว่าปีก่อนถึง 11% ที่ผ่านมากรมฯ ได้สนับสนุนทั้งนโยบายการลดภาษีน้ำมัน และภาษีสรรพสามิตของรถ EV ซึ่งก็ช่วยให้ประเทศไทยนั้นมีการลงทุนของอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น อุตสาหกรรมรถ EV ที่เราเก็บภาษีแค่ 2% ส่วนภาษีรถยนต์สันดาปเราเก็บภาษีได้ 25-30%  ซึ่งแม้ว่าจัดเก็บภาษีน้อยลงก็ทำให้ยอด EV มียอดการเติบโตถึง 600% ในปีนี้ ช่วยสร้างอุตสาหกรรมใหม่”