'คงกระพัน' เล็งปรับแผนลงทุน ‘ปตท.‘ รับเทรนด์โลก - ตอบโจทย์ธุรกิจยั่งยืน
"คงกระพัน" CEO ใหม่ ปตท. เตรียมทบทวนกลยุทธ์ธุรกิจตามแผนลงทุน 5 ปีใหม่ (2568 - 2572) ภายใน ส.ค. นี้ คาดมีความชัดเจนช่วงก.ย.- ต.ค.2567 นี้ พร้อมรับนโยบาย “แผนพลังงานชาติ 2024 เตรียมผลักดันการใช้ไฮโดรเจนในประเทศ หนุนไทยสู่เป้า Net Zero
นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจนั้น ปตท.เตรียมทบทวนกลยุทธ์ทางธุรกิจตามแผนการลงทุน 5 ปีใหม่ (2568-2572) ที่ 8.9 หมื่นล้าน ตามกรอบแผน 5 กลุ่มธุรกิจหลัก พร้อมงบลงทุนในอนาคตอีก 106,932 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภายในเดือนส.ค.2567 จะต้องนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ ปตท.(บอร์ด) บริหารอนุมัติ คาดว่า จะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงเดือนก.ย.- ต.ค.2567 นี้ ทั้งวงเงินลงทุนธุรกิจที่จะเร่งเดินหน้าต่อ และธุรกิจที่อาจจะปรับลดขนาด หรือถอยการลงทุนลง เป็นต้น ซึ่ง ปตท.จะดำเนินการอย่างระมัดระวัง และเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนหลังเห็นแผนการลงทุนที่ชัดเจนออกมาในอนาคต
"ตอนนี้เทรนด์การทำธุรกิจเปลี่ยนไป ปตท.จะต้องดูว่าการทำธุรกิจไหนที่ไม่ค่อยดีก็อาจจะต้องปรับกระบวนการ หรือแม้แต่การร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ เราไม่ใช่จะไม่ทำธุรกิจพลังงานเลย แต่จะเน้นไปที่ตอบโจทย์เทรนด์โลก"
นายคงกระพัน กล่าวว่า ปตท. พร้อมรับนโยบายรัฐบาลมาปฏิบัติตาม เพื่อร่วมผลักดันให้เป็นไปตาม “แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2567-2580 หรือ PDP 2024” ฉบับใหม่ โดยเฉพาะในด้านการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดให้มากขึ้นในสัดส่วน 51% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด
โดย ปตท. เป็นบริษัท พลังงานแห่งชาติ ดังนั้นจึงจะเข้ามามีบทบาทในการผลักดันการใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนในประเทศ และผลักดันโครงการดักจับ และกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Carbon Capture and Storage (CCS) (โดยในร่างแผน PDP 2024 กำหนดสัดส่วนการใช้ไฮโดรเจน 5% นำไปผสมในเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ สำหรับผลิตไฟฟ้า) เนื่องจากไฮโดรเจนถือเป็นพลังงานสะอาด ที่จะเข้ามามีบทบาทช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ไทยก้าวสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี พ.ศ.2608 และ CCS ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ในอนาคตด้วย
สำหรับปัจจุบัน ปตท. ได้เข้าไปลงทุนในแหล่งไฮโดรเจนในต่างประเทศเพื่อศึกษาและเรียนรู้เทคโนโลยี เช่น ในแหล่งตะวันออกกลาง หากเริ่มมีความคุ้มค่าต่อการลงทุน ปตท. ก็พร้อมขยายการลงทุนเพิ่ม ประกอบกับถ้ารัฐบาลไทยเริ่มส่งเสริมให้นำไฮโดรเจนมาผสมรวมในท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ทาง ปตท. ก็พร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเช่นกัน รวมถึงจะขยายการใช้ไฮโดรเจนไปสู่ธุรกิจโมบิลิตี้ (Mobility) ด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของราคาน้ำมันตลาดโลกที่ผันผวนนั้น ทาง ปตท. ได้ช่วยเหลือประชาชนด้วยการพยายามควบคุมราคาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ที่ผ่านมา ปตท. จะผลักดันให้ผู้ผลิตไบโอดีเซลช่วยซื้อปาล์มจากเกษตรกรในราคาที่ดีขึ้น เพื่อช่วยแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ และพยายามให้ผลประโยชน์ไปถึงเกษตรกรโดยตรงมากที่สุด
ส่วนกรณีที่ภาครัฐเดินหน้าผลักดันความร่วมมือในการสำรวจปิโตรเลียมในแหล่งพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา (OCA) ปตท.ยืนยันจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับภาครัฐแน่นอน เนื่องจากเป็นเรื่องความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ จะนำนโยบายรัฐบาลมาดำเนินการให้สอดคล้องกับบริบทของธุรกิจ ปตท. โดยคำนึงถึงประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียอย่างเหมาะสม บนพื้นฐานของความสมดุลทั้งด้านความมั่นคงทางพลังงาน กำไรที่เหมาะสม และการคำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์