สหรัฐขึ้น 'ราคายา' กว่า 250 รายการ เริ่มแล้ว 1 ม.ค. นี้

สหรัฐขึ้น 'ราคายา' กว่า 250 รายการ เริ่มแล้ว 1 ม.ค. นี้

1 มกราคมนี้ สหรัฐดีเดย์ขึ้นราคายามากกว่า 250 รายการ ตั้งแต่ยาต้านมะเร็ง ยาแก้ปวดไมเกรน ไปจนถึงยาต้านโควิด Paxlovid

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า บริษัทยาหลายแห่งได้ปรับขึ้น "ราคายา" ในสหรัฐอย่างน้อย 250 รายการ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 นี้ ส่วนใหญ่จะปรับราคาขึ้นไม่ถึง 10% เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 4.5% หรือใกล้เคียงกับการปรับขึ้นราคาในปีที่แล้ว โดยการขึ้นราคานี้เป็นราคาที่แสดงไว้ ไม่รวมส่วนลดที่ให้กับบรรดาผู้จัดการสวัสดิการด้านเภสัชกรรมและส่วนลดอื่นๆ

สำหรับการปรับขึ้นราคายาในครั้งนี้นำโดยบริษัท "ไฟเซอร์" (Pfizer) ที่ขึ้นราคามากที่สุดกว่า 60 รายการ นำโดย Paxlovid ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสโควิด-19 ที่จะถูกขึ้นราคาอีก 3% ตามมาด้วยยาแก้ไมเกรน Nurtec และยาต้านมะเร็ง  Adcetris, Ibrance และ Xeljanz อีกระหว่าง 3-5% 

เอมี โรส โฆษกของไฟเซอร์ระบุผ่านอีเมลว่า "ไฟเซอร์ได้ปรับราคาเฉลี่ยของยาและวัคซีนสำหรับปี 2568 ต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อโดยรวม ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2.4% สำหรับผลิตภัณฑ์จำนวนมากในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย" โดยการขึ้นราคาครั้งนี้ช่วยสนับสนุนการลงทุนในการพัฒนายาและชดเชยต้นทุนที่แพงขึ้น

ด้านบริษัท "บริสตอล ไมเยอร์ส สควิบป์" (Bristol Myers Squibb) ขึ้นราคายาต้านเซลล์มะเร็งราคาแพงอย่าง Abecma และ Breyanzi อีก 6% และ 9% ตามลำดับ ทั้งนี้การรักษามะเร็งแบบเฉพาะบุคคล (personalized cancer treatments) มีค่าใช้จ่ายที่แพงมาก เช่น การรักษามะเร็งเม็ดเลือดด้วยวิธีนี้อาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึงเกือบครึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่บริษัท "ซาโนฟี่" (Sanofi) ปรับขึ้นราคาวัคซีนประมาณ 12 รายการระหว่าง 2.9% ถึง 9%

จากการวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษา 3 Axis Advisors พบว่าบริษัทที่ขึ้นราคายามากที่สุดในครั้งนี้คือ "ลีเดียนท์ ฟาร์มาซูติคอล" ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Essetifin จากอิตาลี โดยมีการขึ้นราคาประมาณ 15% กับยา Matulane ที่ใช้รักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กิน และขึ้นราคาประมาณ 20% ในยาหยอดตา Cystaran ที่ใช้รักษาโรคทางพันธุกรรมซิสติโนซิส 

ที่ผ่านมา การปรับขึ้นราคายาในปริมาณมากนั้นเคยเกิดขึ้นบ่อยครั้งในสหรัฐอเมริกา แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาบริษัทยาได้ลดการปรับขึ้นราคาลง หลังจากที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในช่วงกลางทศวรรษที่ผ่านมา

รอยเตอร์สยังได้วิเคราะห์ราคายาใหม่ที่วางจำหน่ายในสหรัฐปี 2566 พบว่า มีราคาเฉลี่ยแพงขึ้นประมาณ 35% เมื่อเทียบกับปี 2565 

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางการขึ้นราคาล็อตใหม่นี้ยังมีการ "ปรับลด" ราคายาบางรายการเช่นกัน อาทิ ยาเบาหวาน Januvia และ Janumet ของบริษัทเมิร์ค แอนด์ โค เพื่อให้สอดคล้องกับราคาที่วางจำหน่ายจริง