กระทรวงเกษตรฯ เคาะ แล้งปี 2567/68 ปลูกข้าวโพดหลังนา 1 ล้านไร่
เกษตรฯ เดินหน้าโครงการ“ข้าวโพดหลังนา” จับมือสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ ตั้งเป้า แล้งปี 2567/68 ต้องได้ 1 ล้านไร่ ป้อนวัตถุดิบอาหารสัตว์ ทดแทนปลูกข้าวนาปรัง เรียกราคาขายตามราคาประกันราคา 9 บาทต่อกิโลกรัม
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เพื่อผลักดันโครงการปลูกข้าวโพดหลังนา กระทรวงเกษตรฯได้แต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ประเทศไทย โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานนอกสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วย สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ สมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
เพื่อบูรณาการการทำงานในการเพิ่มปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เพียงพอต่อความต้องการของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และขยายพื้นที่การปลูก ซึ่งมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ปลูก 1 ล้านไร่ ในฤดูแล้ง 67/68 นี้ เพื่อส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่น้ำน้อยปลูกทดแทนข้าวนาปรังเพื่อลดความเสียหายจากภัยแล้งและเป็นการประหยัดน้ำในฤดูแล้ง ที่สำคัญเป็นการบรรเทาปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบอาหารสัตว์
“ก่อนหน้านี้สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยและสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเข้าหารือถึงสถานการณ์การผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไทย ปี 2567/2568 โดยพบว่า ประเทศไทยมีพื้นที่การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 6.7 ล้านไร่และมีผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ประมาณ 5 ล้านตัน ขณะที่ความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในการผลิตอาหารสัตว์มีถึง 8.9 ล้านตันซึ่งยังขาดผลผลิตอีก 3.9 ล้านตัน “
จากนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการผลิตพืชแบบไม่เผาและขอให้ผู้ประกอบการผลิตอาหารสัตว์ไม่รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากแปลงที่มีการเผา กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมวิชาการเกษตรออกประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การขอรับรองกระบวนการผลิตข้าวโพดเมล็ดแห้งแบบไม่เผา เพื่อลดปัญหาฝุ่น PM2.5 (PM 2.5 Free Plus) และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ได้จัดประชุมคณะกรรมการวิชาการพิจารณามาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่องการผลิตพืชแบบไม่เผา โดยเริ่มที่สินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมีเป้าหมายให้เป็นมาตรฐานบังคับในอนาคต สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยคาดการณ์ว่า ข้าวโพดที่จะรับซื้อไม่ได้จะมากถึง 2 – 2.5 ล้านตันจาก 2 ส่วนหลักคือ
1. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไทยที่มีการเผาแปลงซึ่งต้องหยุดรับซื้อมีประมาณ 10-20% ของพื้นที่ปลูก จะมีปริมาณข้าวโพดที่ไม่สามารถซื้อได้ 0.5 – 1 ล้านตัน
2. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านจะลดลงหรืออาจนำเข้าไม่ได้เลยเพราะต้องพิสูจน์ข้าวโพดนำเข้าให้ได้ก่อนว่า ไม่มีการเผา ทำให้ปริมาณการนำเข้าเฉลี่ยปีละ 1.5 ล้านตันหายไป
นอกจากนี้ได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรตรวจสอบสต๊อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมถึงตรวจสอบว่า มีการกักตุนหรือไม่ ด้วย
“ผลผลิตข้าวโพดหลังนา ต้อง ขอความร่วมมือให้สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยประกันรายได้เกษตรกรข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ราคา 9 บาท/กิโลกรัม โดยไม่รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีการเผาและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ไม่สามารถตรวจสอบที่มาของการผลิตได้”