‘คลัง’ คิกออฟ ‘ธนารักษ์เอื้อราษฎร์’ มอบที่ดินทำกิน 9 จังหวัด กว่า 7 พันไร่
‘เผ่าภูมิ’ เปิดโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ มอบสัญญาเช่าที่ดินทำกินให้ประชาชนใน 9 จังหวัด รวมกว่า 7 พันไร่ คิดอัตราค่าเช่าเริ่มต้นเพียง 0.25 บาท/ตร.ว.
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกะทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ ได้เปิดตัวโครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์ มอบสัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน” เพื่อ ต้องการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้แก่ประชาชน และบริหารจัดการที่ดินราชพัสดุให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยนำที่ดินราชพัสดุในความครอบครองของส่วนราชการ แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า กว่า 7,000 ไร่ มาปล่อยเช่าให้แก่พี่น้องประชาชน กว่า 1,900 ราย ใช้เป็นที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ด้วยอัตราค่าเช่าต่ำและผ่อนปรน
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง สั่งการให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ซึ่งการมอบสัญญาเช่าที่ดินจะเกิดขึ้นใน 9 จังหวัด ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา 248 ไร่ จ.เชียงราย 273 ไร่ จ.เชียงใหม่ 281 ไร่ จ.นครสวรรค์ 1,120 ไร่ จ.นครพนม 661 ไร่ จ.กาฬสินธุ์ 1,174 ไร่ จ.ปัตตานี 29 ไร่ จ.ราชบุรี 1,500 ไร่ และจ.สุราษฎร์ธานี 2,100 ไร่
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า สำหรับอัตราค่าเช่าที่ดินจะมี “ค่าเช่าต่ำและผ่อนปรน” แบ่งออกเป็น ที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย หากไม่เกิน 100 ตารางวา อัตราเช่า 0.25 บาทต่อตารางวาต่อเดือน หากเกิน 100 ตารางวา อัตราเช่า 0.50 บาทต่อตารางวาต่อเดือน
และหากเป็นที่ดินเพื่อประกอบการเกษตร เนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ อัตราเช่า 20 บาทต่อไร่ต่อปี และหากเกิน 50 ไร่ อัตราเช่า 30 บาทปีไร่ต่อปี โดยเป็นสัญญาเช่าครั้งละ 3 ปี เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการเช่าของกรมที่ดินให้กับประชาชน แต่สามารถขอเป็นสัญญาเช่า 30 ปีได้ หากผู้เช่าประสงค์
อย่างไรก็ดี เกณฑ์ของผู้ที่ได้รับสิทธิเช่าที่ดินตามโครงการนี้ จะต้องเป็นผู้ที่ครอบครองหรืออยู่อาศัยในที่ดินดังกล่าวมาก่อน ปี 2546 และพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้มีบ้านอยู่อาศัยหรือทำการเกษตรบนที่ดินดังกล่าวจริง และห้ามปล่อยเช่า หรือขายช่วงสัญญาที่ดินให้ผู้อื่น โดยผลการดำเนินการของโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน กรมธนารักษ์ได้มอบที่ดินให้ประชาชนแล้วเนื้อที่ 3.38 แสนไร่ จำนวน 1.34 แสนราย เหลือที่ต้องบริหารจัดการอีก 6 แสนไร่
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะทำให้กรมธนารักษ์มีรายได้ราว 100 ล้านต่อปี ซึ่งเป็นคิดสัดส่วนน้อย และไม่มีนัยยะสำคัญต่อการเป้าหมายการจัดเก็บรายได้กรม โดยรายได้ของกรมธนารักษ์สัดส่วนถึง 97% เป็นส่วนที่มาจากการปล่อยเช่าที่ดินเชิงพาณิชย์คิดเป็นมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งก็จะมีการบริหารจัดการ และปรับปรุงเงื่อนไขสัญญาตามอายุสัญญา ปรับขึ้นค่าเช่าตามความเหมาะสม โดยมอบเป้าหมายอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ทั้งหมด (ROA) เพิ่มขึ้น 3% ต่อปี