รัฐบาล ผนึกหอการค้า ดันนครศรีธรรมราช สู่เมืองหลัก ตั้งเป้า GPP โตเฉลี่ย 10%
ปธ.หอการค้า เผย หอการค้าและรัฐบาล เดินหน้ายกระดับ 10 จังหวัดเมืองรอง ลุยพื้นที่ “นครศรีธรรมราช” กางแผนขับเคลื่อนเมือง กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ดัน โครงการ QuickWin ตั้งเป้าให้ GPP ของจังหวัดเติบโตจาก 190,000 ล้านบาท ปี 2565 เป็น 286,000 ล้านบาท ภายในปี 2570
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับ นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อรับฟังแนวทางและข้อเสนอการยกระดับศักยภาพภายในจังหวัดของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งนำเสนอแผน ผลักดันการท่องเที่ยว เพิ่มการจ้างงาน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดเป้าหมายยกระดับ 10 เมืองสู่เมืองหลัก ตั้งเป้าหมายผลักดัน GPP โตเฉลี่ย 10% ถือเป็นการติดตามแผนความคืบหน้าการดำเนินงานในการขับเคลื่อนการยกระดับเมือง
โดยจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดที่ 3 ของพื้นที่นำร่อง 10 จังหวัด ได้แก่ นครพนม ศรีสะเกษ แพร่ ลำปาง นครสวรรค์ กาญจนบุรี ราชบุรี จันทบุรี ตรัง และนครศรีธรรมราช ซึ่งได้มีขับเคลื่อนไประยะหนึ่งแล้ว สอดคล้องกับรายงานฉบับล่าสุดของ World Bank ที่ระบุว่าไทยเป็นประเทศแห่งการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันเมืองรองของไทยหลายเมืองมีศักยภาพและเป็นกุญแจสําคัญในการพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืน
ทั้งนี้ Agoda ได้จัดอันดับจังหวัดที่ได้รับความนิยมด้านการท่องเที่ยว 5 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี นครศรีธรรมราช นครนายก ราชบุรี และเชียงราย ซึ่งหอการค้าไทย ก็ได้มีการจัดทำ Happy Model ผ่านกิจกรรม 4 ด้าน ได้แก่ กินดี อยู่ดี ออกกำลังกายดี และแบ่งปันสิ่งดีๆ เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาสู่การท่องเที่ยวคุณภาพสูง สามารถเพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการด้านท่องเที่ยวให้กับพื้นที่แต่ละจังหวัด
สำหรับแผนขับเคลื่อนการยกระดับเมืองและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน มุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของจังหวัด ผ่าน 3 แกนหลักสำคัญ ได้แก่ Unlock Potential การสร้างสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดี และ การช่วยเหลือเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับแผนการขับเคลื่อนการยกระดับเมืองและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนเป็นอย่างยิ่ง โดยมีเป้าหมายหลักสำคัญ 3 ประการ คือ 1. การร่วมมือกับภาคเอกชนที่ถือเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 2. เชื่อมโยงภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนเจ้าของจังหวัดที่มีความเข้าใจในแต่ละพื้นดีเป็นอย่างดี 3.ภาครัฐเข้ามาดูแลเรื่องการอำนวยความสะดวก ผลักดันการปลดล็อกข้อจำกัดในเรื่องของกฎหมาย กฎระเบียบที่ล้าสมัย ให้เศรษฐกิจจังหวัดขับเคลื่อนได้ง่ายที่สุด
ดังนั้น การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชในครั้งนี้ ถือเป็นการมารวมตัวกันเพื่อกำหนดเป้าหมายและปลดล็อคศักยภาพที่มีอยู่ของจังหวัด ทั้งการเป็นแหล่งผลิตพืชเศรษฐกิจสำคัญอย่างยางพารา ปาล์มน้ำมัน และไม้ผล รวมถึงเป็นแหล่งผลิตภัณฑ์ชุมชนและสินค้า GI คุณภาพ อาทิ เครื่องถมนคร และส้มโอทับทิมสยามปากพนัง โดยใช้กลไกการทำงานของภาคเอกชนเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องของตลาด การลงทุน และกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการอำนวยความสะดวกจากภาครัฐ เพื่อยกระดับศักยภาพของจังหวัดให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
โดยจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีการประกาศแผนพัฒนาจังหวัด 20 ปี สู่การเป็น “เมืองแห่งสุขภาพ
การท่องเที่ยวครบวงจร ศูนย์กระจายสินค้า เกษตรที่ทันสมัยและยั่งยืน สังคมอุดมสุข” ซึ่ง นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และ นายประยูร เงินพรหม ประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นตัวแทนในการนำเสนอโครงการ QuickWin ตั้งเป้าให้ GPP ของจังหวัดนครศรีธรรมราชเติบโตจาก 190,000 ล้านบาท ปี 2565 เป็น 286,000 ล้านบาท ภายในปี 2570 (โตเฉลี่ยปีละ 8.4%) ซึ่งจะเร่งการเติบโตจากภาคการท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรม
พร้อมกับดึงการลงทุนมาที่จังหวัดเพื่อยกระดับเมืองและเศรษฐกิจจังหวัด สอดคล้องกับ 3 แกนหลัก เมืองน่าเที่ยว – เมืองน่าอยู่ – เมืองน่าลงทุน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้ง Must see - Must Eat - Must Buy และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวสู่กลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง การทำ SandBox อาหารทะเลแปรรูปและแช่แข็ง รวมถึงการยกระดับภาคการเกษตรแปรรูปที่ใช้นวัตกรรมสูง ซึ่งต้องอาศัยการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบเพื่อทำให้ผลผลิตภาคการเกษตรเป็นไปตามหมาย โดยทั้งหมดนี้จะช่วยให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงในพื้นที่รองรับ Southern Economic Corridor (SEC) ที่ควรแตกต่างจากเขตพื้นที่การลงทุนพิเศษในภาคอื่น และมีส่วนช่วยดึงดูดแรงงานในพื้นที่ให้กลับมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจในจังหวัดต่อไป
ขณะที่กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหน่วยงานสนับสนุนและกำกับดูแลส่วนจังหวัด ได้มีการสั่งการให้ทั้ง 10 จังหวัดวางแผนการขับเคลื่อนฯ ในการพิจารณาศักยภาพขอจังหวัดในทุกมิติให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) โดยกระทรวงฯ พร้อมให้การสนับสนุนและขับเคลื่อนการดําเนินงานของคณะกรรมการฯ ผ่านกลไกคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนจังหวัด (กรอ.จังหวัด) เพื่อให้เกิดความร่วมมือทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคส่วนอื่นๆ ให้บรรลุวัตถุประสงค์การขับเคลื่อนเพื่อสร้างความเจริญมาสู่พื้นที่และยั่งยืน ต่อไป
สำหรับแผนขับเคลื่อนการยกระดับเมืองและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืนในพื้นที่นำร่อง
10 จังหวัด ได้เริ่มดำเนินการเปิดตัวไปแล้ว 3 จังหวัด ได้แก่ นครพนม กาญจนบุรี และนครศรีธรรมราช ซึ่งหลังจากนี้คณะกรรมการขับเคลื่อนฯ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีกำหนดลงพื้นที่ 7 จังหวัดนำร่องที่เหลือ ได้แก่ จังหวัด ศรีสะเกษ แพร่ ลำปาง นครสวรรค์ ราชบุรี จันทบุรี และตรัง