เสียงร้อง ‘ประชาชน’ รื้อโครงสร้างพลังงาน ฉบับ ‘พีระพันธุ์’ เสร็จกี่โมง?

เศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควรรวมถึงเศรษฐกิจประเทศไทยที่ยกขบวนติดหล่มเป็นทอดๆ ในทุกภาคอุตสาหกรรม ปัจจัยหลักที่มีผลกระทบคือ “ต้นทุนการผลิต" ทั้งไฟฟ้า น้ำมัน ขนส่ง ดอกเบี้ย ได้ฉุดขีดความสามารถการแข่งขันแม้รัฐบาลจะพยายามตรึงราคาพลังงาน แต่ทุกอย่างก็ต้องมีขีดจำกัด

ล่าสุด นโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศจะมีผลวันที่ 1 ต.ค. 2567 นี้ จึงเป็นอีกเชื้อเพลิงที่ซ้ำเติมผู้ประกอบการ โดยเฉพาะSME รายย่อยกว่า 2.7 ล้านราย หรือ 85% ของผู้ประกอบการเอกชนทั้งประเทศ

ขณะนี้ คณะกรรมการภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้ส่งหนังสือไปยังผู้ว่าราชการทั้ง 77 จังหวัด แสดงจุดยืนต่อนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการค่าจ้าง และขอไม่ให้มีการปรับขึ้นค่าแรงงาน 400 บาท ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยให้มองถึงศักยภาพของการพัฒนาฝีมือแรงงาน

หากดูมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) การเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำครั้งนี้ จึงถือว่ายังไม่ใช่ที่สิ้นสุด เพราะกฎหมายที่แท้จริง การจะให้มีผลจะต้องใช้อำนาจของกระทรวงแรงงานเป็นที่ตั้งคราวนี้จะต้องมาลุ้นกันว่า “กระทรวงแรงงาน” จะแอคชั่นในเรื่องนี้อย่างไร

ดังนั้น ในเรื่องต้นทุนหลักจึงกลับมาที่ “ราคาพลังงาน” ที่ยังคงวนเวียนกลับมาหลอกหลอนผู้ประกอบการไม่จบไม่สิ้น ถือเป็นงานหนักที่ต้องพิสูจน์ฝีมือ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนปัจจุบัน

หากย้อนกลับไปช่วงรับตำแหน่งเดือนก.ย. 2566 หากนับปัจจุบันก็เกือบจะ1 ปีแล้ว สิ่งที่ “รมต.พลังงาน” มักย้ำเสมอคือนโยบาย “รื้อ ลด ปลด สร้าง” โดยจะเร่งรื้อกฎหมายเพื่อทำให้ราคาพลังงานที่ปัจจุบันต้องนำเข้าเป็นส่วนมาก และต้องอิงกับราคาตลาดโลก ต้องถูกลงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ดังนั้น ผ่านพ้นไปจะขวบปี คำว่าอยู่ระหว่าง “ทำ-ปรับแก้-รื้อกฎหมาย” ยังคงติดหูมาโดยตลอดแม้ในช่วงแรกที่ รมต.พลังงาน มาบริหารนโยบายจะสามารถลดราคาน้ำมันดีเซลให้ลดลงเหลือระดับ 30 บาทต่อลิตร ตามนโยบายหาเสียงของทุกพรรคการเมือง แต่ยังคงใช้กลไก “กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง” เข้ามาพยุงราคาจนปัจจุบันติดลบกว่า 1.1 แสนล้านบาท และให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับภาระค่า Ft คงค้างหลักแสนล้านบาทอยู่ดี

รมต.พลังงาน กล่าวยืนยันว่ากระทรวงพลังงานกำลังปรับกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงที่ต้องทำกฎหมาย เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับตลาดโลกยืนยันด้วยว่า กฎหมายที่ตั้งใจรื้อจะทันเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ในสมัยประชุมนี้แน่นอน เพราะตอนนี้กฎหมายได้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วและอยู่ระหว่างทบทวน แต่ก็จะมีกระบวนการทำประชามติ รับฟังความคิดเห็น ซึ่งตรงนั้นจะทำให้ช้า

พร้อมกำชับกลุ่มม็อบสิบล้อที่จะเข้ามาประท้วงว่า ขอให้ใจเย็น ๆ และให้รออีกนิดเดียวจะได้ใช้น้ำมันราคาถูกแล้วที่ผ่านมาไม่มีใครทำในส่วนนี้วันนี้ตนจะเข้ามาทำให้ได้

ไหนๆ เจ้ากระทรวงพลังงานได้รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่าปีนี้จะได้เห็นโครงสร้างพลังงานในแบบฉบับ “พีระพันธุ์” แน่นอน ขอให้ใจเย็นอีกนิด คงไม่นานเกินรอ ว่าแต่จะออกมาราคาถูกโดนใจประชาชนได้หรือไม่

...ที่สำคัญที่บอกว่ากฎหมายจะเสร็จแล้ว ประชาชนฝากถาม “กี่โมง”