‘ศุลกากร’ เผยจัดเก็บรายได้ 9 เดือน แตะ 8.8 หมื่นล้าน สูงกว่าเป้า 3.3%

‘ศุลกากร’ เผยจัดเก็บรายได้ 9 เดือน แตะ 8.8 หมื่นล้าน สูงกว่าเป้า 3.3%

“ศุลกากร” เผยผลจัดเก็บรายได้ 9 เดือนแรกปีงบ 67 อยู่ที่ 8.8 หมื่นล้าน สูงกว่าเป้า 3.3% คาดทั้งปีจัดเก็บรายได้มากกว่าเป้า 3% จ่อคุมเข้มสกัดสินค้าเถื่อน

นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้ของกรมศุลกากร ในช่วง 9 เดือนแรก ปีงบประมาณ 2567 (ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2566 - 30 มิ.ย.2567) อยู่ที่ 88,432 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2,802 ล้านบาท หรือ 3.3% แต่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.7%

ทั้งนี้ เป็นการจัดเก็บรายได้แทนหน่วยงานอื่น จำนวน 381,231 ล้านบาท แบ่งเป็นจัดเก็บแทน กรมสรรพากร 293,928 ล้านบาท กรมสรรพสามิต 49,676 ล้านบาท และกระทรวงมหาดไทย 37,626 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ศุลกากรคาดการณ์ว่าจะจัดเก็บรายได้ทั้งปีมากกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณราว 3% หรือ 3,000 ล้านบาท จากการเร่งรัดรายได้เพิ่มเติมจากการประมูลขายของกลางและการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านด่านศุลกากร

ขณะเดียวกัน กรมศุลกากรยังคงดำเนินมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ เพื่ออุดรอยรั่วไหลในการจัดเก็บภาษีอากรอย่างต่อเนื่อง โดยขานรับนโยบายรัฐบาลและเพิ่มความเข้มงวดในการดำเนินงานตามด่านศุลกากรในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ อีกทั้งเพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวนและตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตามช่องทางเข้าออกตามแนวชายแดน ช่องทางธรรมชาติท่าข้ามต่างๆ ทั้งในเส้นทางหลักและเส้นทางรอง เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำความผิด 

โดยเฉพาะการลักลอบลำเลียงยาเสพติด สิ่งของ สินค้าผิดกฎหมายทุกชนิด อาทิ ยาเสพติด บุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ บุหรี่ กัญชา สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน (สมอ.) สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สินค้าเกษตรรวมถึงยางพารา สุกรและส่วนอื่นที่บริโภคได้ของสุกร น้ำมันเชื้อเพลิง 

นอกจากนั้นยังบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานข้อมูลด้านการข่าวและลงพื้นที่ปราบปรามผู้กระทำผิดในการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในและออกไปนอกราชอาณาจักร 

โดยในช่วง 9 เดือนแรกปีงบ 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2566-30 มิ.ย. 2567 กรมศุลกากรตรวจยึดสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในและออกไปนอกราชอาณาจักร จำนวนรวมทั้งสิ้น 3,611 คดี มูลค่า 1,282,489,631 บาท มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ยาเสพติด อาทิ เฮโรอีน โคคาอีน แมทแอมเฟตามีน กรมศุลกากรมีสถิติการจับกุมยาเสพติด ทั้งสิ้นจำนวน 109 คดี จับผู้ต้องหาได้ 46 ราย มูลค่ารวมกว่า 912,677,474 ล้านบาท

2. กัญชา (นอกเหนือจากช่อดอกและสารสกัดชนิดต่างๆ จากกัญชาที่ยังถือว่าเป็นยาเสพติด) ตรวจยึดได้ 565 คดี ปริมาณ 5,030 กิโลกรัม มูลค่า 14,424,148 บาท

3. บุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า /บาราคู่ บารากู่ไฟฟ้า ตรวจยึดได้ 280 คดีจำนวน 957,033 ชิ้น มูลค่า 82,741,307 บาท

4.บุหรี่ซิกาแรต ตรวจยึดได้ 1,496 คดี จำนวน 22,861,988 มวน มูลค่า 135,511,611 บาท

5.สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน (สมอ.) ตรวจยึดได้ 23 คดี จำนวน 230,711 ชิ้น และ 50,578 กิโลกรัม มูลค่า 65,546,176 บาท

6.สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตรวจยึดได้ 453 คดี จำนวน 338,512 ชิ้น มูลค่า 32,620,634 บาท

7.สินค้าเกษตร อาทิ มะพร้าวและมะพร้าวฝอย กระเทียม หอมหัวใหญ่ สัม หอมแดง ปาล์มน้ำมันและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม ยางพารา สุกรและส่วนอื่นที่บริโภคได้ของสุกร ตรวจยึดได้ 473 คดี ปริมาณ 1,839,872 กิโลกรัม มูลค่า 24,078,766 บาท

8.น้ำมันเชื้อเพลิง ตรวจยึดได้ 213 คดี ปริมาณ 137,273 ลิตร มูลค่า 3,743,208 บาท 

ทั้งนี้ กรมศุลกากรได้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติพิธีการให้มีความรวดเร็ว ลดขั้นตอน โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยในการปฏิบัติงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา กรมศุลกากรได้ออกประกาศกรมศุลกากรและประกาศกระทรวงการคลัง มีผลทำให้ของที่นำเข้าที่มีราคาตั้งแต่ 1 บาท ขึ้นไป ต้องชำระภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) โดยยังคงยกเว้นอากรให้สำหรับของที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. - 31 ธ.ค.2566 เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมระหว่างผู้ขายในต่างประเทศ

"โดยตั้งแต่ที่ประกาศมีผลบังคับใช้สามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้ 3.2 ล้านบาทต่อวัน ทั้งนี้ยอดการจัดเก็บภาษีไม่ได้เป็นเป้าหมายหลักแต่ต้องการสร้างความเป็นธรรมให้ผู้ประกอบการในประเทศ"