ไทย ดัน  “ธุรกิจสุขภาพและความงาม“เจาะตลาดเมียนมา

ไทย ดัน  “ธุรกิจสุขภาพและความงาม“เจาะตลาดเมียนมา

สคต.เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา จับมือ สภาธุรกิจไทย-เมียนมา จัดงาน  “Thai-Myanmarย์ Business Matching Health & Beauty 2024 “ ที่เมียนมา  เปิดเจรจาธุรกิจ  ด้านสุขและความงาม มียอดซื้อขายทันที 1 ล้านบาท ส่วนทั้งปีคาดเกิดมูลค่าซื้อขายมากกว่า 100 ล้านบาท

นายเอกวัฒน์ ธนประสิทธิ์พัฒนา ผู้อำนวยการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา (สคต.ย่างกุ้ง ) เปิดเผยว่าสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรุงเมียนมา กระทรวงพาณิชย์ และสภาธุรกิจไทย-เมียนมา โดยนายกริช อึ้งวิฑูรย์สถิตย์ ปรธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา  พร้อมภาคเอกชนได้ร่วมกันจัดงานThai-Myanmarย์ Business Matching Health & Beauty 2024 เมื่อวันที่  11 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมโนโวเทล ย่างกุ้ง เมียนมา  โดยนายมงคล วิศิษฏ์สตัมภ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ให้เกียรติ เป็นประธานพิธีเปิดงานมี 

รวมทั้ง ได้รับเกียรติจาก Dr. Win Shi Tu รองประธาน UMFCCI Dr. Aey Aey San ประธานสมาคมโรงพยาบาลเอกชนเมียนมา และDr. Shu La Han ประธานสมาคมเครื่องสำอางเมียนมา ขึ้นกล่าวเกี่ยวกับธุรกิจสุขภาพและความงามในเมียนมา

ไทย ดัน  “ธุรกิจสุขภาพและความงาม“เจาะตลาดเมียนมา

 นายเอกวัฒน์ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้สะท้อนความร่วมมือ สนับสนุนกันอย่างใกล้ชิดของทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชนเมียนมาภาคเอกชนไทย สมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยมีภาครัฐสนับสนุนและอำนวยความสะดวก ทั้งกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตไทย และ Team Thailand 

โดยวัตถุประสงค์การจัดงานครั้งนี้ คือการจับคู่ธุรกิจสุขภาพและความงามของไทยและเมียนมา โดยนอกจากส่งเสริมการส่งออกสินค้าหรือบริการจากไทยแล้ว สนับสนุนการนำเข้าวัตถุดิบ บุคลากร หรือส่งต่อคนไข้จากเมียนมา รวมทั้งการผลิตหรือลงทุนในเมียนมา ตลอดจนความร่วมมือกันเรื่องต่างๆ เช่น การยกระดับการผลิต เทคโนโลยี บุคลากร การบริหารจัดการ เพื่อประโยชน์ร่วมกัน (Mutual Benefit) ของไทยและเมียนมา 3 ระดับ ได้แก่ ประโยชน์กับลูกค้าประชาชน ประโยชน์กับธุรกิจ และประโยชน์กับประเทศ

 

ทั้งนี้ภายในงานดังกล่าวมีคณะนักธุรกิจไทย ร่วมงานออกบู้ท แสดงสินค้าและบริการ รวม 32 บริษัท โดยเป็นธุรกิจสุขภาพโรงพยาบาล 9 บริษัท และธุรกิจความงามเครื่องสำอาง 23 บริษัท โดยมีสินค้าและบริการที่น่าสนใจ เช่น โรลออนสารส้ม สบู่ น้ำหอม เครื่องสำอาง ยาดม ยาสีฟันสมุนไพร คอลลาเจน โรงพยาบาลชั้นนำและเฉพาะทาง ธุรกิจบริการดูแลผู้สูงวัย บริการผู้มีบุตรยาก เป็นต้น  รวมถึงธุรกิจโรงพยาบาล สุขภาพ ความงามและเครื่องสำอางของเมียนมา เข้าร่วมงานจำนวนมาก รวมกว่า  300 บริษัท คนร่วมงานคับคั่งตลอดทั้งวัน รวมกว่า 500 คน

“บรรยากาศเยี่ยมชมบู้ทและจับคู่ธุรกิจ เป็นไปอย่างคึกคัก ผู้ร่วมงานสนใจสินค้าและบริการของไทยอย่างมาก เกิดการจับคู่ธุรกิจรวมกว่า 700 คู่มียอดซื้อขายทันทีเกือบ 1 ล้านบาทและคาดการณ์มูลค่าซื้อขายมากกว่า 100 ล้านบาท ภายใน 1 ปี โดยธุรกิจไทยและเมียนมา จะต่อยอดสร้างความสัมพันธ์ สร้างเครือข่ายกันเพื่อเปิดโอกาสเจรจาจับคู่ธุรกิจกันเพิ่มเติมต่อไป” นายเอกวัฒน์ กล่าว