‘พลังงาน’ บีบ ‘คลัง’ ลดภาษีดีเซล หวั่นกองทุนน้ำมันเริ่มจ่ายเงินกู้แสนล้าน

‘พลังงาน’ บีบ ‘คลัง’ ลดภาษีดีเซล หวั่นกองทุนน้ำมันเริ่มจ่ายเงินกู้แสนล้าน

ครม.ไฟเขียว คุมเพดานขายดีเซล 33 บาท ถึง 31 ต.ค.67 ตรึงค่าไฟ 4.18 บาท “พีระพันธุ์” ชี้กองทุนน้ำมันยังไหว ถก “คลัง” ลดภาษีช่วย ครม.ถกพื้นที่ทับซ้อนไทย - กัมพูชา เพิ่มแหล่งก๊าซ กดค่าไฟต่ำกว่า 4 บาท ด้านบัญชีกองทุนน้ำมันติดลบ 1.1 แสนล้าน ทยอยจ่ายเงินกู้ พ.ย.นี้

นโยบายการดูแลราคาพลังงานเป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลดำเนินการทันทีที่เริ่มบริหารประเทศเมื่อเดือนก.ย.2566 แต่ภาระการอุดหนุนที่สูงขึ้นต่อเนื่องทำให้รัฐบาลยกเลิกการลดภาษีสรรพสามิต เบนซิน และดีเซล และแม้ว่าทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะทรงตัว และราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสจะต่ำกว่า 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่รัฐบาลยังคงเดินหน้าดูแลราคาพลังงาน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชนทั้งในส่วนของค่าไฟฟ้า และค่าน้ำมันดีเซล ซึ่งเดิม ครม.มีมติเมื่อวันที่ 7 พ.ค.2567 กำหนดเพดานราคาน้ำมันดีเซลให้ไม่เกิน 33 บาท ต่อลิตร แต่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ก.ค.2567

โดยมาตรการต่อไปในส่วนของการดูแลราคาน้ำมันดีเซลรัฐบาลจะให้ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 33 บาท ต่อลิตร แต่อัตราการชดเชยต้องไม่เกิน 2 บาทต่อลิตร ต่อไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค.2567 ซึ่งต้องดำเนินการตามกฎหมาย และมติ ครม. ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย

นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบมาตรการลดภาระค่าไฟฟ้าให้แก่ประชาชน ในช่วงเวลา 4 เดือน (ก.ย.- ธ.ค.2567) ซึ่งเป็นมาตรการต่อเนื่องจากมาตรการให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าเดิม ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนส.ค. นี้ ประกอบด้วย 

1.บริหารจัดการอัตราค่าไฟฟ้าเรียกเก็บเฉลี่ย ให้อยู่ที่ระดับ 4.18 บาท ต่อหน่วย 

2.ตรึงอัตราค่าไฟฟ้า 4.18 บาท ต่อหน่วย 

3.ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 19.05 สตางค์ต่อหน่วย แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน

หารือคลังลดภาษีสรรพสามิตดีเซล

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ครม.รับทราบแนวทางการดูแลราคาดีเซล ซึ่งจะมีการกำหนดเพดานราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นราคาตามที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะรับภาระได้ 

ทั้งนี้ จะตรึงเพดานที่ราคานี้ไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค.2567 หลังจากนั้นจะดูสถานการณ์และมาตรการที่จะดูแลราคาน้ำมันต่อเนื่อง โดยจะหารือกับกระทรวงการคลังที่อาจจะมีการใช้แนวทางการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลเข้ามาเป็นมาตรการเสริม หรืออาจจะมีมาตรการอื่นเข้ามาช่วยตรึงราคาน้ำมันเพิ่มเติม

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า การใช้หนี้คืนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นั้นในส่วนของค่าไฟที่ 4.18 บาทต่อหน่วย เป็นการทยอยใช้หนี้ส่วนนี้คืนให้กับ กฟผ.อยู่แล้ว แต่เป็นการทยอยใช้คืนไม่ใช่การคืนหนี้ทั้งก้อนเป็นก้อนใหญ่ซึ่งจะกระทบกับค่าไฟแล้วประชาชนมาเป็นภาระกับประชาชน

สำหรับการแก้กฎหมายในการกำหนดเพดานราคาน้ำมันจะเร่งจัดทำกฎหมาย ซึ่งยอมรับว่ายังไม่ทันในช่วงสิ้นเดือนต.ค.นี้ แต่ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องเสนอเข้ารัฐสภาตามขั้นตอนทางกฎหมายโดยเร็ว 

ทั้งนี้เป็นเรื่องจำเป็นเพราะประเทศอยู่แบบนี้มา 50 ปีแล้ว โดยไม่มีกฎหมายที่จะกำหนดราคาน้ำมันของรัฐบาลเลย ทั้งที่เรื่องนี้กระทบประชาชนอย่างมาก ซึ่งกฎหมายต้องดูไปถึงอำนาจของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยที่เดิมเคยมีอำนาจทั้งในการกำหนดด้านราคาน้ำมัน และกำหนดสัดส่วนของการส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ด้วยซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องดูไปควบคู่กันไป

“เราอยู่กันมาแบบนี้นานกว่า 50 ปี พอน้ำมันแพงก็บ่นกัน แต่ข้อเท็จจริงคือ ราคาเนื้อน้ำมันจริงในประเทศ 20 กว่าบาทต่อลิตร เท่านั้น  แต่องค์ประกอบราคาน้ำมัน 1 ลิตร ประกอบด้วยส่วนผสมของเอทานอล และไบโอดีเซล รวมทั้งมีภาษี เช่น ภาษีสรรพสามิตน้ำมันลิตรละ 5.99 บาท ราคาน้ำมันจึงมาอยู่ที่ 38-40 บาท ซึ่งหากมีกฎหมายเราก็จะดูแลราคาน้ำมันให้ประชาชนได้”

ครม.หารือแนวทางกดค่าไฟเหลือ 3 บาท

รายงานข่าวระบุว่า ในที่ประชุม ครม.ได้หารือแนวทางการลดราคาค่าไฟลดมาให้อยู่ในระดับ 3 บาทเศษ ต่อหน่วยเช่นในอดีต ซึ่งได้หารือถึงขุมพลังงานใหม่ 

ทั้งนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวใน ครม.ว่าไทยต้องเร่งเจรจากัมพูชาเพื่อนำก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา มาใช้ ซึ่งรัฐมนตรีใน ครม.ต่างแสดงความเห็นด้วยอย่างกว้างขวาง เพราะจะทำให้ได้ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตไฟฟ้า และมีปริมาณมากที่ใช้ไปได้อีก 20 ปี 

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเพียงหารือกันในเรื่องนี้ แต่ยังไม่มีวาระเกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างไทย และกัมพูชาในการนำพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชามานำเสนอ ครม.ในครั้งนี้

สำหรับการตรึงค่าไฟฟ้าไว้ที่หน่วยละ 4.18 บาท กระทรวงพลังงานนำเสนอ ครม.ว่า ใช้วิธีให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ร่วมกันรับภาระเงินสะสมคงค้างสะสม สำหรับงวดเดือนก.ย.- ธ.ค.2567 แทนประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าไปพลางก่อน 

ส่วนการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย 300 หน่วยต่อเดือนที่ใช้ไม่เกิน โดยให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 19.05 สตางค์ต่อหน่วย เหลือจ่าย 3.99 บาทต่อหน่วย คาดว่าจะมีค่าใช้จ่าย 1,900 ล้านบาท ในเบื้องต้นจะใช้งบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ของปี 2567 จ่ายให้

ห่วงกองทุนน้ำมันเริ่มจ่ายเงินต้น

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน ระบุว่า จากการที่ ครม.รับทราบการตรึงราคาดีเซลต่ออีก 3 เดือน จนถึงวันที่ 31 ต.ค.2567 จากปัจจุบันที่กระทรวงพลังงานครบกำหนดกรอบราคาไม่เกิน 33 บาทต่อลิตรวันที่ 31 ก.ค.2567

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน ได้นำเสนอ ครม.เพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้คงที่ 33 บาทต่อลิตร เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน เนื่องจากปัจจุบันสัดส่วนการใช้น้ำมันดีเซลในประเทศไทยมีมากกว่า 70%

ทั้งนี้ จากแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกปัจจุบันแม้ยังผันผวนแต่ไม่ได้ปรับขึ้น โดยปัจจุบันสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.)  เก็บเงินเข้าสู่บัญชีของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้บ้าง จึงทำให้ตอนนี้นายพีระพันธุ์ มองว่าควรตรึงราคาดีเซลออกไปต่ออีก เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนมากกว่านี้ในช่วงที่เศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัว

“แม้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะเก็บเงินเข้ากองทุนได้บ้าง แต่ต้องควักจ่ายดอกเบี้ยเฉลี่ยเดือนละ 200-250 ล้านบาท ซึ่งการที่นายพีระพันธุ์ มองว่าจะตรึงถึงเดือน ต.ค.2567 เพราะว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจ่ายแค่ดอกเบี้ย แต่เดือนพ.ย.2567 เป็นช่วงปลายปีที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะเหนื่อยอีก เพราะต้องเริ่มใช้หนี้เงินกู้ที่ปัจจุบันกู้รวม 105,333 ล้านบาท โดยทยอยจ่ายหนี้ 5,000 ล้านบาท” แหล่งข่าว กล่าว

สิ่งสำคัญคือ รัฐบาลจะต้องหาเงินมาช่วยตรึงราคาน้ำมันร่วมด้วย เพราะปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมัน ณ วันที่ 14 ก.ค.2567 ติดลบที่ 111,855 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 64,252 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 47,603 ล้านบาท แม้สถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้เพิ่มภาระอะไรให้กองทุนน้ำมัน แต่ก็อย่าลืมว่ายอดเงินติดลบยังมีกว่า 1 แสนล้านบาท

“ปัจจุบันราคาดีเซลตลาดโลกยังมีความผันผวนสูง โดยในช่วงเดือนที่ผ่านมา แม้จะมีแนวโน้มที่ลดลงบ้างจนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลดอุดหนุนระดับ 4 บาทต่อลิตร และเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันสำเร็จ แต่อย่างที่บอก ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงผันผวน กองทุนน้ำมันยังคงต้องมีการทั้งควักจ่ายเฉลี่ยแล้วก็ไม่ได้ทำให้หนี้ลดลง” แหล่งข่าวกล่าว

ปิดทางใช้งบกลางดูแลราคาดีเซล

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้จะพิจารณาแนวทางปรับราคาดีเซลมาตลอด จากการพยายามดำเนินการอีก 2 แนวทาง เพื่อไม่ให้กระทบราคาขายปลีกดีเซล ประกอบด้วย

1. การส่งหนังสือถึงสำนักงบประมาณ เพื่อขอใช้งบประมาณกลางปี 2567 วงเงิน 6,500 ล้านบาท แบ่งเป็นช่วยเหลือราคาดีเซล 6,000 ล้านบาท และช่วยพยุงราคาก๊าซหุงต้ม (LPC) ภาคครัวเรือนอีก 500 ล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นไปตามที่ ครม.อนุมัติไว้ภายใต้เงื่อนไขให้ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดูแลราคาน้ำมัน และ LPG ไปก่อน แต่เบื้องต้นได้รับการประสานอย่างไม่เป็นทางการว่า งบประมาณกลางมีจำกัด อาจไม่สามารถนำมาดูแลราคาดีเซล และ LPG ได้ ทำให้สถานการณ์ และปัจจัยต่างๆ ที่คาดการณ์ไว้เกี่ยวกับการขอใช้งบประมาณไม่น่าจะดำเนินการได้

2.การเสนอขอให้กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพสามิตลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซลลงในอัตราที่เหมาะสม โดยเบื้องต้นจากท่าทีของกระทรวงการคลัง ก็ไม่ได้ตอบรับการว่าจะลดภาษีน้ำมันดังกล่าว ซึ่งต้องเข้าใจถึงจำเป็นที่จะต้องจัดเก็บรายได้เข้ารัฐให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์