ทียู ทุ่ม 14 ล้านดอลลาร์ สร้างคลังสินค้าเย็นในกานา เก็บทูน่าใช้ได้ทั้งปี

ทียู ทุ่ม 14 ล้านดอลลาร์ สร้างคลังสินค้าเย็นในกานา เก็บทูน่าใช้ได้ทั้งปี

ไทยยูเนี่ยนเดินหน้าเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต เปิดตัวคลังสินค้าเย็นขนาด 8,000 ตัน แห่งใหม่ในกานา หวัง รักษาคุณภาพปลาทูน่าจากมหาสมุทรแอตแลนติก บริหารจัดการสินค้าให้มีเพียงพอต่อการผลิตของโรงงานต่อเนื่องตลอดทั้งปี

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดตัวคลังสินค้าเย็น (Cold Store) แห่งใหม่ของบริษัทฯ ที่มีความจุถึง 8,000 ตัน ใช้เม็ดเงินลงทุน ราว 14 ล้านดอลลาร์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับโรงงาน Pioneer Food Cannery (PFC) ของบริษัทฯ ในประเทศกานาโดยคลังสินค้านี้จะช่วยให้บริษัท สามารถบริหารจัดการควบคุมอุณหภูมิสินค้า รักษาคุณภาพปลาทูน่าจากมหาสมุทรแอตแลนติกให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานของโรงงาน ตลอดจนสามารถบริหารจัดการสินค้าให้มีเพียงพอต่อการผลิตของโรงงานต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของไทยยูเนี่ยนมากยิ่งขึ้น

ทียู ทุ่ม 14 ล้านดอลลาร์ สร้างคลังสินค้าเย็นในกานา เก็บทูน่าใช้ได้ทั้งปี

สำหรับการเปิดคลังสินค้าเย็นแห่งใหม่ในครั้งนี้ คลังสินค้าเย็นแห่งนี้จะมีขนาด 4 ห้อง มาพร้อมพื้นที่คัดแยกและสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำงาน ช่วยรองรับการเติบโตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยให้ไทยยูเนี่ยนและ PFC สามารถบริหารจัดการกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับปริมาณและความต้องการสินค้าได้ตลอดทั้งปี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด

 

ทั้งนี้ไทยยูเนี่ยนได้รับเกียรติจาก นายอับดุล-อาซิซ มูซาห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ นายซามูเอล เอ็น. เค. ควอร์เตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงประมง นายอาชาย โอดัมเพน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตเทมาอีสต์ นายจอห์นนี่ ลาดูเซ ผู้อำนวยการโรงงาน PFC เข้าร่วมเปิดงานพร้อมแสดงความยินดี 

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัจจุบันโรงงาน PFC มีบทบาทในฐานะผู้ผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ของไทยยูเนี่ยนทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยการลงทุนครั้งนี้จะช่วยรักษาความมั่นคงในห่วงโซ่อุปทาน เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนการลงทุนด้านความยั่งยืนเพิ่มเติมในโรงงาน PFC เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ยั่งยืน SeaChange® 2030 เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ การปรับปรุงระบบภายในโรงงานเพื่อลดของเสียฝังกลบเป็นศูนย์ ลดการปล่อยน้ำทิ้งเป็นศูนย์ และลดการสูญเสียอาหารเป็นศูนย์

 นายจอห์นนี่ ลาดูเซ ผู้อำนวยการโรงงาน PFC กล่าวว่า “คลังสินค้าเย็นแห่งใหม่เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานอย่างยั่งยืน เพราะด้วยที่ตั้งของคลังที่อยู่ใกล้กับโรงงานจึงช่วยลดระยะเวลาในการขนส่งสินค้าและลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่สิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน การมีคลังสินค้าเย็นขนาดใหญ่เพียงพอยังทำให้บริษัทมั่นใจได้ว่าจะมีปลาทูน่าเพียงพอกับความต้องการของคู่ค้าและผู้บริโภคตลอดทั้งปี

นอกจากนี้ เรายังคงเดินหน้าตามพันธกิจที่ให้ไว้กับประเทศกานา คือ การดูแลชุมชนผ่านการสร้างงานในพื้นที่ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้เกิดขึ้นในเมืองเทมาอีกด้วย”

เดิมโรงงาน PFC ใช้การเช่าคลังสินค้าเย็นที่กระจายอยู่ทั่วเมือง การสร้างคลังสินค้าเย็นใหม่เป็นของตัวเองที่อยู่ใกล้กับโรงงานจึงช่วยประหยัดต้นทุนค่าเช่าพื้นที่ ลดจำนวนเที่ยวการวิ่งของรถบรรทุกขนส่งสินค้าและวัตถุดิบ สามารถควบคุมคุณภาพของสินค้าได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากทุกอย่างผ่านกระบวนการภายในบริษัทตั้งแต่การเก็บรักษาจนถึงการจัดส่ง นับเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ PFC ให้ดียิ่งขึ้น

 โรงงาน PFC เปิดดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2516 และไทยยูเนี่ยนได้เข้าซื้อธุรกิจในปี 2553 นับเป็นโรงงานที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไทยยูเนี่ยน โดยตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกา และมีพนักงานราว 1,100 คน ปัจจุบันโรงงาน PFC เป็นผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ชั้นนำระดับโลกของกลุ่ม เช่น แบรนด์ John West ที่เป็นอันดับ 1 ในสหราชอาณาจักรและเนเธอร์แลนด์, แบรนด์ Petit Navire อันดับ 1 ในฝรั่งเศส, MareBlu อันดับ 2 ในอิตาลี

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มที่เป็นตราสินค้าเฉพาะ (Private Label) ทั่วทั้งยุโรป รวมถึง ผลิตสินค้าแบรนด์ Starkist ซึ่งเป็นแบรนด์ของ PFC และยังเป็นแบรนด์ผู้นำตลาดปลาทูน่ากระป๋องในประเทศกานาอีกด้วย