เคาะ 3 มาตรการคู่ขนาน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ‘พาณิชย์’ เร่งฟื้นเศรษฐกิจใน 3 เดือน
นายกฯ สั่ง “พาณิชย์” เดินหน้าโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย 3 เดือน โดยกระทรวงพาณิชย์ช่วยเหลือค่าครองชีพ ลดรายจ่าย กระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการใช้จ่าย เพิ่มช่องทางการซื้อขาย ก่อนการคิกออฟโครงการเติมเงิน Digital Wallet "ภูมิธรรม" คาดลดรายจ่ายประชาชน 7 พันล้าน
วันนี้ (2 สิงหาคม 2567) เวลา 9.00 น. ณ ห้องสีเขียว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหา เสริมขีดความสามารถให้กับประชาชนผ่านการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยสาระสำคัญจากการประชุม ดังนี้
นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าในระหว่างที่รัฐบาลกำลังดำเนินการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ในช่วงไตรมาส 4 โครงการนี้จะลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เพิ่มช่องทางการซื้อขาย ซึ่งเป็นการบรรเทาค่าใช้จ่ายที่ประชาชนจับต้องได้ในช่วงเวลานี้
โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวถึงจัดทำโครงการฯ ว่าด้วยแนวความคิดตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือแบ่งเบา ผู้ประกอบการรายเล็ก เติมเงินในกระเป๋าให้กับประชาชน และลดภาระค่าครองชีพครั้งใหญ่ กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยจะขับเคลื่อนโครงการนี้ กำหนดระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 20 ส.ค. – 20 พ.ย. 2567 แบ่งเป็น 3 โครงการ ดังนี้
1.ลดต้นทุนผู้ประกอบการรายเล็ก จะร่วมกับภาครัฐทุกกระทรวง ทำการลดค่าเช่าร้านค้า ค่าเช่าแผงตลาด กว่า 30,000 แผง โดยมีตลาดที่อยู่ในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และตลาดในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่สำคัญ รวมทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์
2. จัดตลาดนัดพาณิชย์ทั่วประเทศ กำหนดไว้ 4 รูปแบบ คือ
1) ตลาดพาณิชย์ ให้ผู้ประกอบการรายเล็ก โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัด 76 จังหวัด จะร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนจัดหาพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวันในราคาถูก อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ทั้ง 76 จังหวัด ระยะเวลา 3 เดือน
2) ตลาดนัดพาณิชย์บวกการจำหน่ายสินค้าธงฟ้า เพื่อช่วยผู้ประกอบการรายเล็กได้ขายสินค้าและให้ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าราคาถูก กำหนดจัดในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ศาลากลางจังหวัด สถานที่ท่องเที่ยว นิคมอุตสาหกรรม ปั๊มน้ำมัน มหาวิทยาลัย ลานหน้าห้างค้าส่ง-ปลีก ลานหน้าห้างท้องถิ่น หมู่บ้านจัดสรร
3) ตลาดพาณิชย์ บวกธงฟ้า และหอการค้าแฟร์ ซึ่งจะเป็นงานใหญ่ ลดทั้งจังหวัด
4) ตลาดพาณิชย์เคลื่อนที่ บวกรถโมบายธงฟ้า จะส่งเข้าถึงพื้นที่ชุมชนห่างไกลทั่วประเทศ
3. ร่วมมือผู้ผลิตและผู้ค้าส่งรายใหญ่ จัดมหกรรมลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ ภายใต้ Campaign “ลดกระหน่ำทั้งประเทศ” และในช่วงเทศกาล โดยมีผู้ประกอบการเอกชนพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการส่วนนี้กับรัฐบาล
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเอกชนที่ให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือประชาชนตามโครงการฯ โดยในการประชุมฯ นายกรัฐมนตรีได้มอบข้อเสนอแนะ และพร้อมช่วยเหลือหากมีข้อติดขัด
"ภูมิธรรม"คาดลดรายจ่ายประชาชน 7 พันล้าน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้นำแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในช่วงไตรมาส 3 เดือนนี้ ตั้งแต่ 20 ส.ค. ถึง 20 พ.ย. ซึ่งจะดำเนินโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาความยากลำบากของประชาชนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ระหว่างรอโครงการ ดิจิทัลวอลเลตดำเนินการ ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้และลดรายจ่ายของประชาชน และจะเน้นในกลุ่มของผู้ประกอบการรายเล็ก (เอสเอ็มอี)
โดยกระทรวงพาณิชย์ จะร่วมกับผู้ประกอบการรายใหญ่ ทุกภาคส่วน เพื่อจะสร้างความสมดุลให้รายใหญ่ไปช่วยเล็ก และจะเป็นการก้าวไปสู่ในเรื่องของการค้าที่จะใช้ดิจิทัลเป็นหลัก
นายภูมิธรรม กล่าวว่า โครงการสู้เศรษฐกิจของรัฐบาล ช่วง 3 เดือนนี้ จะจัดการออกร้านให้แก่เกษตรกรรวมถึงผู้ค้ารายย่อย ซึ่งเป็นเรื่องที่เราเคยทำที่สยามสแควร์มาแล้วโดยไม่มีค่าเช่าแผง รวมถึงให้ค่าเอกชนนำสินค้ามาจำหน่ายแบบลดราคาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ทั้งนี้จากการพูดคุยกับกระทรวงมหาดไทย จะใช้พื้นที่ของศาลากลางจังหวัด จุดท่องเที่ยวและต่างหลักๆแต่ละพื้นที่ในการจัดกิจกรรมดังกล่าว โดยประสานงานผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด และให้พาณิชย์จังหวัดเป็นผู้ขับเคลื่อน ขณะที่กระทรวงกลาโหมจะมีพื้นที่ 3,000 กว่าแห่งให้ใช้ขายสินค้า รวมถึงจะนำรถยนต์ของกระทรวงกลาโหมมาใช้ในการเป็นรถโมบาย
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขจะให้ อสม.เป็นผู้ประสานงานในพื้นที่ เพราะคนที่เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าย่อยๆในพื้นที่ ส่วนพื้นที่ห่างไกลที่ยากจะจัดโครงการจะสนับสนุนให้มีรถพุ่มพวงเข้าไปและรัฐบาลจะสนับสนุนเรื่องสินค้า อาทิ เนื้อหมู เนื้อไก่ น้ำตาล น้ำมัน เป็นต้น โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ 20 สิงหาคมนี้ในทุกจังหวัด ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชนและสมาคมต่างๆ
นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวนายกฯ ได้กำชับให้การดำเนินโครงการจะต้องไม่กระทบกับร้านค้ารายย่อย ฉะนั้นเราจึงจะดึงราคารายย่อยเข้ามาร่วมในโครงการ ทั้งนี้มีการประเมินขั้นต้นว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ประมาณ 7 พันล้านบาท ซึ่งโครงการนี้จะเป็นพื้นฐานก่อนที่โครงการดิจิทัลวอลเลตจะออกมา
มหาดไทยชี้ช่วยเศรษฐกิจระยะสั้น
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจนี้ ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอต่อที่ประชุมว่าจะมีมาตรการระยะสั้น ระหว่างปัจจุบันถึงเดือน ต.ค.เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนประชาชนจะได้เงินจากโครงการดิจิทัลวอลเลตในไตรมาสที่ 4 ของปี อาทิ การทำให้สินค้าราคาถูกลง สนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็กให้มีช่องทางค้าขาย และขอให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ลดราคาสินค้า เพื่อให้ประชาชนได้ซื้อสินค้าในราคาต่ำลง
ทั้งนี้ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ก็ได้นำมาตราการที่ว่าไปกับชับทุกจังหวัดทั่วประเทศให้ช่วยประชาสัมพันธ์ และหาช่องทางรวมถึงจัดพื้นที่ให้มีการขายสินค้ามากขึ้น เช่น ศาลากลางจังหวัด รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และสั่งการให้องค์การตลาดของกระทรวงมหาดไทยลดค่าเช้าแผงในช่วง 3 เดือนนี้