'คมนาคม' ดันเป้า ก.ย.68 รถไฟฟ้า 20 ตลอดสายในทุกสีทุกสาย เผย สภา กทม.พร้อมหนุน
“คมนาคม” เผยคืบหน้าผลักดันรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายในทุกสีทุกสาย ขีดเส้นเกิดภายใน ก.ย.2568 ชี้อยู่ระหว่างจัดทำ พรบ.ตั๋วร่วม และจัดตั้งกองทุนชดเชยรายได้เอกชน ระบุผลหารือสภา กทม.พร้อมหนุน
นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.2567) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้ประชุมร่วมกับสภากรุงเทพมหานคร (สภา กทม.) เพื่อหารือถึงนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ในการอำนวยความสะดวกการเดินทาง และลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม ได้รับรายงานจากกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ระบุว่า ภาพรวมการเดินทางของผู้โดยสารรวมทั้ง 2 สาย คือ รถไฟชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2567) พบว่า มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นรวมกว่า 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ซึ่งถือว่านโยบายดังกล่าว ช่วยให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น
ขณะที่รายได้ของรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วงถึงแม้ว่าขณะนี้จะลดลงจากเดิม แต่คาดว่าภายในระยะ 2 ปี 8 เดือน จะกลับสู่ภาวะปกติก่อนที่จะเริ่มนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย และจากจำนวนผู้ใช้บริการที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้รายได้มีโอกาสจะกลับสู่ภาวะปกติเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
ในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีอื่นๆ ที่ยังไม่ได้เข้าร่วมนโยบาย ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. … ก่อนที่จะเสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฯ ฉบับดังกล่าว จากนั้นจึงจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ และเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของของสภาผู้แทนราษฎร และประกาศในราชกิจจานุเบกษา
โดยเบื้องต้นคาดว่า กระบวนการดังกล่าว จะเสร็จสิ้นและมีผลบังคับใช้ภายในเดือน ก.ย. 2568 สอดรับกับเป้าหมายการประกาศใช้นโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายในทุกสีทุกสายได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งกระทรวงฯ ยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อสัญญาสัมปทานที่มีอยู่กับผู้ประกอบการเอกชน เนื่องจากภาครัฐจะจัดหางบประมาณที่จะนำไปชดเชยให้กับผู้ประกอบการเอกชน ในส่วนต่างค่าโดยสารที่สูงเกินกว่า 20 บาท
โดยแนวทางจัดหางบประมาณชดเชยเอกชน กระทรวงฯ จะจัดตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม นำรายได้จากการบริหารรถไฟฟ้าที่มีผลกำไรมาจัดสรรเข้ากองทุน รวมไปถึงแนวทางจัดหารายได้ในส่วนอื่นๆ โดยเบื้องต้นกระทรวงฯ ประเมินวงเงินที่ใช้หมุนเวียนในกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม เพื่อชดเชยส่วนต่างค่าโดยสารรถไฟฟ้าอยู่ที่ 7 – 8 พันล้านบาทต่อปี ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเสนอรายละเอียดต่างๆ ซึ่งคาดว่า จะเริ่มดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อจัดตั้งกองทุนฯ ได้ในช่วงเดือน ต.ค. 2568 – มี.ค.2569
ด้านนายวิพุธ ศรีวะอุไร รองประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับกระทรวงคมนาคม สภา กทม.พร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทในทุกด้านอย่างเต็มที่ เนื่องด้วยเล็งเห็นว่า นโยบายดังกล่าว เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกภาคส่วน รวมถึงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนได้เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและสุขภาวะที่ดีขึ้น โดยเฉพาะบริเวณใจกลางเมืองที่มีความแออัด รวมถึงเกิดทำเลการค้าขายใหม่ ผลักดันกำลังซื้อให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ สภา กทม. ต้องการให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดดำเนินการนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายครอบคลุมในทุกเส้นทางโดยเร็วที่สุด เพื่อความสะดวกต่อการเดินทางของผู้ใช้บริการ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ สภา กทม.จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด และประชุมหารือถึงแผนงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป