ปรับแผน ’ดิจิทัลวอลเล็ต‘! สุดท้าย ’รัฐบาล’ ก็ยอมทำตามที่ ‘แบงก์ชาติ’ บอก?

ในช่วงการจัดตั้ง “ครม.แพทองธาร1” มีประเด็นข่าวความเคลื่อนไหวของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่มีการเปลี่ยนแปลงไปไม่เว้นแต่ละวัน และยังไม่มีความแน่นอนของโครงการอยู่มาก

หากมองย้อนไปในช่วงเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมีข่าวตั้งแต่การยกเลิกโครงการไปพร้อมกับการพ้นตำแหน่งของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี การแจกเงินเป็นเงินสดครึ่งหนึ่งของวงเงินคนละ 10,000 บาท และล่าสุดคือกระแสข่าวว่าจะมีการแจกเงินจำนวนนี้ให้เฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ประเด็นที่มีกระแสข่าวเรื่องการแจกเงินที่เปลี่ยนจากการแจกเงินผ่านแอปทางรัฐเป็นเงินสดที่เหตุผลที่เข้าใจได้ เพราะมีความเกี่ยวข้องในแง่กฎหมายซึ่งเป็นประเด็นที่มีการเตือนรัฐบาลมาโดยตลอดก็คือ เรื่องของการใช้งบประมาณที่รัฐบาลมีกรอบวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมที่มีวงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้มีการจัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 เพิ่มเติม ซึ่งประเด็นที่ได้มีการเตือนว่าการเบิกจ่ายงบประมาณในส่วนนี้จะต้องมีการเบิกจ่ายภายในปีงบประมาณ 2567 หรือภายในวันที่ 30 ก.ย.2567

ทั้งนี้เมื่อมีประเด็นในข้อกฎหมายในส่วนนี้ประกอบกับการจัดทำระบบชำระเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่จะมาเชื่อมต่อกับแอปทางรัฐยังไม่แล้วเสร็จทำให้รัฐบาลเหลือทางเลือกสำหรับโครงการนี้ไม่มากนักคือ การแจกเงินสดให้กับประชาชนโดยตรง การทำโครงการคนละครึ่งผ่านแอปเป๋าตัง และการแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งมีฐานข้อมูลเดิมอยู่ประมาณ 14 ล้านคน

ที่จริงแล้วการปรับเปลี่ยนรูปแบบของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นสิ่งที่มีข้อเสนอมาเป็นระยะๆ โดยเฉพาะข้อเสนอจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ต้องการให้มีการจำกัดการกระตุ้นเศรษฐกิจ

โดยการแจกเงินแบบเฉพาะกลุ่ม ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท.ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2567 ว่า ในเรื่องจุดยืนแจกเงิน “ดิจิทัลวอลเล็ต” สนับสนุนการแจกเงินให้กลุ่มแบบเฉพาะเจาะจง (Targeted) ซึ่งเป็นจุดยืนของ ธปท.ในนโยบายนี้มาโดยตลอด

นอกจากนี้ผู้ว่าฯ ธปท.ยังเคยส่งหนังสือด่วนที่สุดลงเลขที่ ธปท.ฝกม. 285 /2567 เรื่อง โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต ให้ที่ประชุมคณะกรรมการโครงการดิจิทัลวอลเล็ตฯที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดย ธปท.มีความห่วงใย และตั้งข้อสังเกตในโครงการหลายข้อ โดยตอนหนึ่งของหนังสือได้ระบุว่า

ความจำเป็นในการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของรัฐบาลควรทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ในขอบเขตที่ครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความช่วยเหลือเท่านั้น (targeted) เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ อย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่รายได้ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 15 ล้านคน ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณ 150,000 ล้านบาทเท่านั้น

จะเห็นได้ว่าข้อเสนอของ ธปท.ที่ให้แจกเงินเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่มีรายได้น้อยอาจกำลังจะกลายเป็นแนวทางที่รัฐบาลนำมาใช้โดยจัดสรรเงิน 10,000 บาทให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่วนจะเป็นไปตามแนวทางนี้หรือไม่ต้องรอแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้คำตอบที่ชัดเจนในเรื่องนี้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์