5 โจทย์ทีมเศรษฐกิจ 'แพทองธาร' ภาคเอกชนหวัง 'พรรคร่วม' ทิศทางเดียวกัน

5 โจทย์ทีมเศรษฐกิจ  'แพทองธาร' ภาคเอกชนหวัง 'พรรคร่วม' ทิศทางเดียวกัน

กฤษฎีกา ตอบกลับ สลค.คาดสัปดาห์นี้ตั้ง ครม.ใหม่เรียบร้อย “แพทองธาร” คุมทีมเศรษฐกิจร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล ภาคเอกชน หวังทีมเศรษฐกิจไปทิศทางเดียวกัน จุดเด่นผนึกการเมืองรุ่นใหม่-เก่า หนุนเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ฟื้นเชื่อมั่นท่องเที่ยว หวังเงินดิจิทัลฟื้นภูมิภาค

การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีความคืบหน้า โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีจากทุกพรรคให้คณะกรรมการกฤษฎีกาคณะใหญ่ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2560 รวมถึงนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรีตรวจสอบแล้ว

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตอบกลับมายังเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แล้ว และถ้ามีข้อสงสัยทางกฎหมายจะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ยังไม่เสร็จสิ้น

“เราต้องทำด้วยความรอบคอบ โดยทางเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ส่งไปให้ตรวจสอบทุกกรณี แต่ไม่ได้ระบุตัวบุคคล คาดว่าการตจวจสอบของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะได้ข้อมูลครบถ้วนในสัปดาห์ที่จะถึงนี้” นพ.พรหมินทร์ กล่าว

รายงานข่าวระบุว่า คาดการณ์ว่าภายในสัปดาห์นี้การตรวจสอบคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีจะแล้วเสร็จ และคาดว่าเมื่อดำเนิการเรียบร้อย น.ส.แพทองธาร จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ช่วงกลางสัปดาห์หน้า

สำหรับโผรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ น.ส.แพทองธาร จะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจด้วยตัวเองโดยมีรัฐมนตรีในทีมเศรษฐกิจ ดังนี้ 

พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง 

นายสุริยะ จึงรุงเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม, นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

พรรครวมไทยสร้างชาติ ประกอบด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีวาการกระทรวงพลังงาน , นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม , นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

พรรคกล้าธรรม ประกอบด้วย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขณะที่กลุ่มธรรมนัส ประกอบด้วย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

พรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตีว่ากรกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

รายงานข่าวระบุว่า การบริหารนโยายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่จะดำเนินการต่อจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน โดยจะมีการดำเนินการต่อทันทีไมว่าจะเป็นนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท รวมถึงนโยบายการบริหารจัดการน้ำ

สำหรับบทบาท น.ส.แพทองธาร ในการทำงานเรื่องเศรษฐกิจพบว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 20 ส.ค.2567 ยืนยันว่า น.ส.แพทองธาร จะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเพราะนายกรัฐมนตรีเน้นการทำงานเป็นทีม รวมทั้งพรรคเพื่อไทยมีทีมงานด้านเศรษฐกิจและนำเชิญคนนอกมาช่วยงานหลายคน 

5โจทย์ทีมเศรษฐกิจ “แพทองธาร”

ทั้งนี้การขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลใหม่มีประเด็นที่ต้องติดตามและเตรียมพร้อมการทำงานใน 5 ประเด็นที่อาจส่งผลต่อการบริหารงานเศรษฐกิจในภาพรวมของนายกรัฐมนตรี ดังนี้

1.บทบาทนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ โดยการประกาศว่านายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเป็นการสื่อสารสังคมว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องติดตามสั่งการทุกประเด็นและนโยบายเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ เช่น การแก้ปัญหาหนี้ การแก้ปัญหาสินเชื่อ ดอกเบี้ยนโยบาย การรับมือภูมิรัฐศาสตร์ โดยอาจใช้กลไก ครม.เศรษฐกิจขับเคลื่อนงาน

2.การประสานนโยบายเศรษฐกิจกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยมีนโยบายของพรรคเพื่อไทยแต่ไม่มีรัฐมนตรีของพรรคดูแล เช่น นโยบายค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 400 บาททั่วประเทศในวันที่ 1 ต.ค.2567 ซึ่งกระทรวงแรงงานอยู่ภายใต้โควตาของพรรคภูมิใจไทย รวมถึงนโยบายพลังงานที่เป็นของพรรครวมไทยสร้างชาติ

3.บทบาทของนายกรัฐมนตรีในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีควรให้ความสำคัญกับคณะกรรมการเศรษฐกิจ เช่น คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) คณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) คณะกรรมการนโยบายน้ำแห่งชาติ (กนช.)

4.การวางกลไกติดตามงานนโยบายเศรษฐกิจ โดยจะต้องกำหนดกรอบเวลาและมีการติดตามงานอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลนายเศรษฐา มีข้อสั่งการมากแต่ขาดกลไกติดตามความคืบหน้าของข้อสั่งการ

5.การสื่อสารนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจจำเป็นที่นายกรัฐมนตรีต้องสื่อสารนโยบายเศรษฐกิจ รวมถึงนโยบายสำคัญที่ต้องสื่อสารเอง เช่น นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต

หวังทีมเศรษฐกิจไปทิศทางเดียวกัน

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เมื่อจัดตั้ง ครม.ใหม่เสร็จแล้วครเริ่มงานทันที  เพราะเศรษฐกิจไทยติดหล่มไม่ฟื้นตัวเต็มที่ โดยทีมเศรษฐกิจรัฐบาลต้องรวมผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความสามารถ เข้าใจปัญหาเศรษฐกิจและบริบทโลกยุคใหม่ 

ทั้งนี้ ภาคเอกชนคาดหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่นี้จะมีหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทำหน้าที่ประสานและกำกับการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจให้แต่ละกระทรวงทำงานไปในทิศทางเดียวกันและมีเป้าหมายที่ตรงกัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต

“อุตสาหกรรมที่เผชิญแรงกดดันรอบด้านจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโลก ต้นทุนการผลิตสูง กำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแอ ปัญหาหนี้ผู้ประกอบการและปัญหาอุทกภัย ซึ่งบั่นทอนขีดความสามารถแข่งขันภาคธุรกิจและเป็นโจทย์ใหญ่ที่ ครม.ชุดใหม่ต้องมาแก้ไขปัญหาโดยเร็ว”

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ และกรรมการบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะทำให้เม็ดเงินเข้าสู่ตลาดและเพิ่มกำลังซื้อจากปัจจุบันบรรยากาศเศรษฐกิจไม่ดีทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องกระตุ้น โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่จ่ายเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน ได้รับเงินสดก่อน 10,000 บาท

ชี้ทีมเศรษฐกิจผนึกคนรุ่นใหม่-เก่า

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลมีบทบาทสำคัญต่ออนาคตเศรษฐกิจ โดย ครม.เศรษฐกิจ อาจไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่การผสมผสานการทำงานระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นมากด้วยประสบการณ์ ซึ่งทำให้เกิดความหลากหลายและพลังที่จะแก้ปัญหา

ทั้งนี้ ต้องการให้ ครม.เศรษฐกิจ ผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและการกระจายรายได้สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน รวมทั้งมีมาตรการลดค่าครองชีพประชาชน และมาตรการเข้าถึงแหล่งทุนต้นทุนต่ำเอสเอ็มอีและการแก้ไขหนี้ทั้งระบบ รวมถึงมาตรการยกระดับขีดความสามารถเอสเอ็มอีและภาคแรงงานอย่างเป็นระบบ

"ครม. ชุดใหม่ ประชาชนอยากให้ตั้งรวดเร็วแต่ต้องรอบครอบและได้คัดสรรรัฐมนตรีที่พร้อมช่วยกันทำงานเป็นทีมสร้างผลงานแก้ปัญหาพัฒนาประเทศ สร้างงานสร้างอาชีพให้ประชาชนอยู่ดีกินดีเป็นที่ประจักษ์และเปิดใจรับฟังเสียงแนะนำของทุกภาคส่วน”

หนุนเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วาระเร่งด่วนของทีมเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ คือการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจควบคู่การแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างเพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น 

สำหรับนโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยปัจจุบันกรุงเทพฯ มีนักท่องเที่ยวต่อปี 20-30 ล้านคน จะกลายเป็น 50-70 ล้านคน และส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งในในฐานะดีเวลลอปเปอร์ต้องหาโลเคชั่นใกล้พื้นที่โครงการ และหากเป็นทำเลคลองเตยที่เป็นพื้นที่รัฐขนาดใหญ่พัฒนาโครงการได้มากและเชื่อมโยงกับย่านพระราม 4 และสุขุมวิท ถือเป็นโลเคชั่นที่ดี

สำหรับทำเลที่เหมาะสำหรับพัฒนาเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ในมุมมองของดีเวลลอปเปอร์ คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี (พัทยา) และ ภูเก็ต

“ธุรกิจหลักของเรา คือ ที่อยู่อยู่อาศัย ผมถนัด ณ วันนี้ ถ้ามีโอกาสเข้าไปร่วมทำ ก็ไม่ได้มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นที่กรุงเทพฯ หรือภูเก็ต หากจะมีเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ แสนสิริ สามารถพัฒนาโครงการรอบนอกได้ไม่จำเป็นต้องไปอยู่ในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อะไรที่ทำแล้วมีผลกำไร ถูกต้องตามกฎหมายเราก็พร้อมทำ”

หวังเงินดิจิทัลฟื้นกำลังซื้อภูมิภาค

นายวชิรวิชญ์ ศิริไชย นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลใหม่เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งเบิกจ่ายงบประมาณและเร่งดิจิทัลวอลเล็ตเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ซึ่งกำลังซื้อทั่วประเทศอยู่ภาวะหดตัวลงมากตามภาวะเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวหลายทำเลยังไม่กลับมาคึกคักตามที่คาดไว้ กระทบผู้ประกอบการและร้านค้าทั่วประเทศยอดขายลดลงพอสมควร

นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะดูแลประชาชนกลุ่มเปราะบาง ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเวลานี้ พร้อมปลุกความเชื่อมั่นประเทศ

“ซอฟต์พาวเวอร์”ปลดล็อกไทยผลิตกำไรสูง

นายภารุจ ดาวราย นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ DAAT กล่าวว่า ต้องการให้ภาครัฐเดินหน้านโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งปัจจุบันหลายภาคส่วนยังไม่เข้าใจมากนัก แต่ถือเป็นทางออกของประเทศในการยกระดับสร้างผลิตผลที่มีกำไรสูง เนื่องจากเป็นการนำไอเดีย วัฒนธรรม นำไปเสนอขายให้กับประชากรโลก เพื่อสร้างมาร์จิ้นที่สูงขึ้น

“เมื่อเป็นนโยบายจะมีผู้ทำโปรเจกต์ของบประมาณสนับสนุน หากปฏิบัติไปถูกทาง นำไอเดีย วัฒนธรรม ความคิดเป็นต้นทุนจะหากินได้จากส่วนต่างที่มากกว่าเดิม ซึ่งดีกว่าการพึ่งพาและยึดท่องเที่ยว การเกษตรเป็นพื้นฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจ"