“พิชัย นริพทะพันธุ์”รมว.พาณิชย์ เข้ากระทรวงวันแรก ลั่นแก้ปัญหาประชาชน

“พิชัย นริพทะพันธุ์”รมว.พาณิชย์ เข้ากระทรวงวันแรก ลั่นแก้ปัญหาประชาชน

“พิชัย นริพทะพันธุ์”รมว.พาณิชย์ ควง  2 รมช.เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ ลั่นทำงานเต็มที่ เร่งแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ช่วยเหลือประชาชน ชี้ไม่มีปัญหาทำงานร่วม 2 รมช.จากต่างพรรคเตรียมมอบนโยบายให้ข้าราชการ 16 ก.ย.นี้

ที่กระทรวงพาณิชย์  เมื่อเวลา 08.15  น.นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ถือฤกษ์ดีเข้ากระทรวงวันแรก และได้ไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ 6  จุด ประกอบด้วยศาลพระภูมิ ศาลเจ้าแม่ทุ่งน้อย อนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ พระประทานพร พระรูปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน และหลวงพ่อโอภาสี โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงฯ และผู้บริหารระดับสูงให้การต้อนรับ

จากนั้นนายพิชัย กล่าวว่า  ต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้แต่งตั้งให้ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งตนและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ทั้ง 2 คนรักกัน และพร้อมทำงานร่วมกัน ทั้งนี้จะทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นหลายอย่างต้องร่วมกันช่วยแก้ไข เพราะเศรษฐกิจไทยแย่มาโดยตลอด โดยกระทรวงพาณิชย์จะเป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เพราะที่ผ่านมาไม่ได้มีการเจรจาการค้ามาหลายปีแล้ว โดยตนมีแผนงานที่จะดำเนินการ แต่จะรอการแถลงนโยบายของรัฐบาลก่อน

“ภารกิจเร่งด่วนที่จะทำตอนนี้ขออุบไว้ก่อน รอให้มีการแถลงนโยบายของรัฐบาลก่อน ตอนนี้เพียงบอกได้แค่คอนเซ็บ เป้าหมายที่จะทำซึ่งเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้วแต่ได้พูดคุยเบื้องต้น กลับนายวุฒิไกร ลีวีระพันธ์ ปลัดกระทรวงไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะเรื่องของการช่วยเหลือประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ได้สินค้าราคาถูก โดยวันที่  16 ก.ย.นี้  จะมีการมอบนโยบายให้กับข้าราชการการ และจะมีการหารือแบ่งงานให้ 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการฯซึ่ง คงไม่มีปัญหาอะไร “นายพิชัย กล่าว

“พิชัย นริพทะพันธุ์”รมว.พาณิชย์ เข้ากระทรวงวันแรก ลั่นแก้ปัญหาประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นโยบาย ในการแก้ปัญหาให้กับกลุ่ม Sme ที่ขณะนี้กำลังประสบปัญหากับสินค้าทะลักจากต่างประเทศ จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร โดยนายพิชัย กล่าวว่า กลุ่ม Sme ได้รับปัญหาค่อนข้างเยอะและเข้าใจ แต่ต้องทำความร่วมมือกับแบงก์ชาติเพราะมีความจำเป็น การอยากช่วยเหลือเรื่องการตัดหนี้ ที่แบงก์ชาติ ยึดหลัก Moral hazard หรือ จะต้องไม่สร้างแรงจูงใจให้กับลูกหนี้ที่ไม่ได้รับผลกระทบให้หยุดชำระหนี้ แต่จริงๆ ต้องเข้าใจว่า ไม่ใช่ Moral hazard เพราะช่วงสองสามปีเกิดสถานการณ์ โควิด-19 ถือเป็นความโชคร้ายของเศรษฐกิจทั้งโลก ดังนั้น การช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการสามารถกลับมามีรายได้ ทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ถือหากปล่อยไปเศรษฐกิจก็จะแย่ลงเรื่อยๆ และหนี้ก็จะเพิ่มขึ้น ท้ายที่สุด ก็ต้องตัดหนี้อยู่ดีและให้ความช่วยเหลือ และคิดว่าความร่วมมือจากแบงก์ชาติและธนาคารพาณิชย์เป็นเรื่องสำคัญ

ส่วนการสินค้าจีนทะลักเข้าไทย นั้น ตนไม่อยากใช้คำว่า สินค้าจีนเพียงอย่างเดียว เพราะจะกลายเป็นต่อต้าน โดยจีนเองก็กังวล และเห็นไทยเป็นพี่เป็นน้อง และต้องหาทางออกร่วมกัน โดยมองว่า หากไทยเรามีแนวทางที่ชัดเจน ก็เชื่อว่า จะมีแนวทางฟื้นเศรษฐกิจได้เร็ว ซึ่งขณะนี้ จะเห็นเรื่องการลงทุนไหลเข้าประเทศเพิ่มขึ้น 40-50% และเชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่การดูแลราคาสินค้าเกษตร คงต้องดูว่า มีสินค้าเกษตรอะไรที่จะออกมา และเราจะต้องดำเนินการบริหารจัดการอย่างไร โดยจะดำเนินมาตรการเชิงรุกเป็นหลัก

นายพิชัย กล่าวว่า ส่วนที่สมาคมโรงสีจะขอเข้าพบเพื่อหารือเรื่องสินเชื่อสภาพคล่อง นั้นรับทราบแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ ได้บอกไปแล้วว่าธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงก์ชาติต้องเข้ามาดู ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มเกษตรกร โดยภาคธุรกิจทั้งหมดตอนนี้ขาดสภาพคล่อง ซึ่งแบงก์ชาติต้องเติมสภาพคล่องให้มากกว่านี้ และอย่าไปกลัวเรื่องหนี้เสียที่จะเพิ่มขึ้น ควรหาแนวทางแก้ไข และอย่าเอาเรื่องหนี้เสียไปเหมารวมกัน เพราะตอนนี้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น ดังนั้น ต้องหาแนวทางช่วยภาคธุรกิจให้ฟื้นตัวโดยเร็ว