'เอกนัฏ' ตั้ง 'อรรถวิชช์' แก้ก.ม.ปฏิรูปอุตฯ เพิ่มโทษ-ปราบขบวนการทิ้งกากพิษ
“เอกนัฏ” เซ็นตั้ง "คณกรรมการปรับปรุงกฏหมายเพื่อการปฎิรูปอุตสาหกรรม" โดย "อรรถวิชช์" เป็นประธาน หวังรื้อระบบโทษที่ล้าสมัย เพิ่มโทษทางกฎหมาย พร้อมเยียวยาประชาชนเต็มรูปแบบ ลุยกำจัดกากพิษอุตสาหกรรมยั่งยืน ยันจัดทัพซี10 ให้เป็นหน้าที่ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังมอบเกียรติบัตรขอบคุณผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องในการบรรเทาสารเคมีรั่วไหลที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและระยอง ผ่านกิจกรรม “อุตสาหกรรมรวมใจ” ว่า วันนี้ 18 ก.ย. 2567 ได้ลงนามแต่งตั้งกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการปฏิรูปอุตสาหกรรม โดยมีนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เป็นประธาน และกรรมการประกอบด้วย ข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาและกระทรวงการคลัง รวมกรรมการ กว่า 10 คน
ทั้งนี้ เพื่อเป้าหมายในการปรับปรุงกฎหมายของกระทรวงอุตสาหกรรมทั้ง 14 ฉบับให้มีประสิทธิภาพ สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน และนำไปสู่การจัดตั้งกองทุนเพื่อการปฏิรูปอุตสาหกรรม ที่จะมีเงินสบทบหลักจากผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ที่กระทำความผิด เพื่อรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันจะนำเงินกองทุนสนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็กให้แข่งขันได้
สำหรับกรอบเวลาจะดำเนินการให้เร็วที่สุด อยากให้เสร็จวันนี้หรือพรุ่งนี้เลย แต่ก็ต้องให้คณะกรรมการได้มีเวลาทำงาน และจะติดตามความคืบหน้าทุกวัน สิ่งที่ต้องเร่งทำคือ กฎหมายกรมโรงงานจะต้องเพิ่มโทษ เพิ่มค่าปรับในระดับเหมาะสม ไม่ใช่หลักแสนบาทอย่างในปัจจุบัน เพราะกฎหมายเดิมบังคับใช้มานานนับ 20 ปี ซึ่งค่าปรับระดับ 1 แสนบาท เมื่อเทียบกับธุรกิจหลักพันล้านบาทถือว่าน้อยมาก ยืนยันไม่เพิ่มภาระผู้ประกอบการที่ทำดี แต่จะเพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการที่ทำผิด ให้มีความเกรงใจกฎหมาย ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนและสิ่งแวดล้อม
สำหรับเป้าหมายการปฏิรูปอุตสาหกรรมในครั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาการลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมและการจัดการกากพิษที่ไม่ถูกต้องให้หมดไป ขณะนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม เร่งสแกนพื้นที่เสี่ยงมีการลักลอบทิ้งกากทั้งหมดเพื่อป้องกันและเอาผิดผู้กระทำผิด ไม่ต้องเกรงใจผู้มีอิทธิพลใด ๆ ส่วนกรณีปัญหาลักลอบทิ้งในจ.ระยอง จะเร่งของบกลางเพื่อเข้าแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน จึงเป็นสาเหตุที่ต้องปรับปรุงกฎหมาย เพราะเมื่อเกิดปัญหากระทรวงไม่มีวงเงินเข้าจัดการ การตั้งกองทุนจึงจำเป็น เพื่อไม่ต้องรบกวนงบกลางเข้าแก้ไข
นายเอกนัฏ กล่าวถึงการจัดทัพข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรมระดับซี 10 ที่จะเกษียณอายุราชการรวม 4 ราย ว่า กำลังอยู่ระหว่างหารือกับนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม โดยการแต่งตั้งข้าราชการระดับซี 10 จะให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นผู้คัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่ง ตนในฐานะรัฐมนตรีพร้อมทำงานกับข้าราชการเพื่อขับเคลื่อนงานกระทรวงให้เกิดผลงานที่รวดเร็วที่สุด ส่วนผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรม (กนอ.) คนใหม่ ตนยังไม่ได้หารือกับคณะกรรมการบริหารกนอ. โดยส่วนตัวขอเป็นใครก็ได้ที่มีความขยัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ซี10 กระทรวงอุตสาหกรรมที่จะว่าง ประกอบด้วย 1. นายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ 2. นายวีระกิตติ์ รันทกิจธนวิชญ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง 3. นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และ 4. นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) โดยตำแหน่งอธิบดีคนใหม่ถูกจับตามากที่สุด เพราะจะต้องเข้ามาแก้ปัญหากากพิษ ปรับปรุงกฎหมาย เดินหน้าตั้งกองทุน ที่ นายเอกนัฏ ให้ความสำคัญอย่างมาก