ยอดผลิตรถส.ค.67 ลดลง 20.56% หวังแจกเงินหมื่นดันยอดไตรมาสสุดท้ายปีนี้ฟื้น
"ส.อ.ท." เผยยอดผลิตรถยนต์ ส.ค.67 ที่ 119,680 คัน ลดลง 20.56% ขาย 45,190 คัน ลดลง 24.98% เหตุแบงก์เข้มงวดจากหนี้เสียรถไตรมาส 2 ถึง 2.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.7% หวังไตรมาสสุดท้ายปีนี้ดีขึ้นจากการแจกเงิน 1 หมื่นบาท ตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น ส่วนยอดผลิตอีวี 352 คัน เพิ่มขึ้น 17,500%
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์เดือนส.ค.2567 ทั้งสิ้น 119,680 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2566 ร้อยละ 20.56 เพราะผลิตเพื่อขายในประเทศ และผลิตเพื่อส่งออกลดลงร้อยละ 40.49 และ 6.62 ตามลำดับจากการผลิตรถกระบะลดลง และลดลงจากเดือนก.ค.2567 ร้อยละ 4.12 ส่วนยอดผลิตได้เดือนม.ค. - ส.ค. 2567 รวม 1,005,749 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 17.69
การผลิตเพื่อส่งออกเดือนส.ค.2567 ผลิตได้ 82,788 คัน เท่ากับร้อยละ 69.17 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2566 ร้อยละ 6.62 ส่วนเดือนม.ค. - ส.ค.2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 686,509 คัน เท่ากับร้อยละ 68.26 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 2.74
ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เดือนส.ค.2567 ผลิตได้ 36,892 คัน เท่ากับร้อยละ 30.83 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนส.ค.2566 ร้อยละ 40.49 และเดือนม.ค. - ส.ค. 2567 ผลิตได้ 319,240 คัน เท่ากับร้อยละ 31.74 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนม.ค. – ส.ค.2566 ร้อยละ 38.13
ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนส.ค. 2567 มีทั้งสิ้น 45,190 คัน ลดลงจากเดือนก.ค.2567 ร้อยละ 2.60 และลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 24.98 เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการให้สินเชื่อจากหนี้ครัวเรือนสูงโดยหนี้เสีย (NPL) รถยนต์ ณ ไตรมาส 2 ของปีนี้ สูงถึง 254,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.7 จากไตรมาส 2 ปีที่แล้ว
และเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตในอัตราต่ำที่ร้อยละ 2.3 ในไตรมาส 2 ของปีนี้ คาดว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะดีขึ้นจากรัฐบาลใหม่ที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งมีนโยบายหลายข้อที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เช่น การแจกเงินหนึ่งหมื่นบาทเป็นเงินสด ซึ่งจำนวนเงินกว่าหนึ่งแสนล้านบาท การแก้ใขหนี้ทั้งในระบบ และนอกระบบ เป็นต้น รวมทั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ก็ทันใช้ตั้งแต่เดือนต.ค.นี้ด้วย และดัชนี ตลาดหลักทรัพย์ก็เพิ่มขึ้น ธนาคารกลางสหรัฐลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงถึง 0.50 และอาจจะลดอีกครั้งในปีนี้
การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนส.ค.2567 ส่งออกได้ 86,066 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 3.04 แต่ลดลงจากเดือนส.ค.2566 ร้อยละ 1.70 จากปัญหาเรื่องพื้นที่ในเรือไม่เพียงพอ และล่าช้าจากสงครามอิสราเอลกับฮามาส และปัญหาสิ่งสกปรกในท่าเรือที่ติดในรถกระบะที่เตรียมขับขึ้นเรือ จึงผลิตรถกระบะเพื่อส่งออกลดลงร้อยละ 12.92 และส่งออกลดลงในตลาดออสเตรเลีย แอฟริกา ยุโรป รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนส.ค.2567 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 82,901.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค.2566 ร้อยละ 0.71
ทั้งนี้ เดือนส.ค.2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 8,804 คัน ลดลงจากเดือนส.ค.2566 ร้อยละ 3 เดือนม.ค. - ส.ค.2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 69,047 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 17.34 ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 ส.ค.2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 200,109 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 120.13
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์