ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 แจก 5,000 ’คลัง‘ รอจัดงบฯโครงการหลังจ่ายเยียวยาน้ำท่วม
รัฐบาลเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง พร้อมแจกดิจิทัลวอลเล็ต 5,000 บาท เป็นการแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในเฟสที่ 2 ‘คลัง‘ รอเกลี่ยงบประมาณหลังเยียวยาน้ำท่วม รับต้องใช้งบฯฟื้นฟูน้ำท่วมสูงหลังจากเกิดความเสียหายจากอุทกภัยมาก
ความคืบหน้าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลหลังจากที่ได้เริ่มทยอยโอนเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต ให้กับกลุ่มเป้าหมายในกลุ่มเปราะบางและคนพิการ 14.55 ล้านคน ซึ่งจะโอนวันสุดท้ายในส่วนบัตรประชาชนลงท้ายด้วย 7-9 ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ รวมวงเงินในโครงการนี้ 1.455 แสนล้านบาท
ในส่วนของการกระตุ้นเศรษฐกิจในเฟสต่อไปนั้น แหล่งข่างจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่ารัฐบจะมีการหารือกันในคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทั้งนี้ยังไม่ได้ตัดโครงการดิจิทัลวอลเล็ตออกจากแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่อาจปรับลดขนาดของวงเงินลงจากเดิมที่จะแจกให้คนละ 10,000 บาท อาจเหลือคนละ 5,000 บาท
เนื่องจากรัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณมากขึ้นในการเยียวยา ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งสถานการณ์มีความรุนแรงและรัฐบาลกำลังพิจารณาเพิ่มหลักเกณฑ์ในการให้เงินเยียวยาเพิ่มเติมเนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์อุทกภัยมีความเสียหายเกิดขึ้นกับบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2568 รัฐบาลได้มีการจัดทำงบกลางฯที่จะใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งแต่เดิมจะไว้ทำโครงการ แจกเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต วงเงิน 152,700 ล้านบาท แต่ในส่วนนี้จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณบางส่วนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจมาใช้ในการเยียวยาอุทกภัย โดยอาจโยกงบฯส่วนนี้เข้าเป็นงบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินจำเป็นเร่งด่วนที่อยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เป็นแหล่งเงินของนายกฯในการใช้เยียวยา และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากภัยพิบัติ
ทั้งนี้ล่าสุดจากข้อมูลที่กระทรวงการคลังมีอยู่ ผู้มา ลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไว้มีประมาณ 36 ล้านคน โดยเมื่อตัดผู้ที่ได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแล้ว10 ล้านคน จะเหลือ 26 ล้านคน และเมื่อมีการคัดกรองสิทธิ์อีกรอบตามเงื่อนไขรายได้ และเงินฝากในบัญชี จากจำนวน 26 ล้านคนอาจจะเหลือประมาณ 22 - 24 ล้านคนซึ่งหากจะแจกเงินคนละ 5,000 บาท จะใช้เงินงบประมาณอีก 1.1 - 1.2 แสนล้านบาท
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในเฟสต่อไปว่า ยืนยันว่าจะได้รับอย่างแน่นอน ในรูปแบบดิจิทัล
ซึ่งมองประโยชน์ใน 2 มิติ คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ และการใช้ดิจิทัล ซึ่งจะมีประชาชนที่ต้องดูแลเหลือประมาณ 26 ล้านคน โดยตัดความซ้ำซ้อนจากกลุ่มเปราะบางที่เข้ามาลงทะเบียนแล้วได้รับสิทธิไปแล้ว
“จากยอดลงทะเบียน 36 ล้านคนพบว่ามีความซ้ำซ้อนจากสิทธิที่ได้รับในกลุ่มเปราะบาง 10 ล้านคน ส่วนกลุ่มเปราะบางที่เหลืออีก 4 ล้านคน ก็สันนิษฐานได้ว่า เป็นกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนด้วย ฉะนั้นจะเหลือประชาชนที่ต้องดูแลอีกประมาณ 26 ล้านคนบวกลบ แต่ต้องตรวจสอบสิทธิ์ตามเงื่อนไขก่อน“ รมช.คลังระบุ
ขณะที่ความคืบหน้าการเดินหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 จะต้องรอความชัดเจนจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวัน ส่วนจะจ่ายเงิน 10,000 บาท หรือ 5,000 บาท จะต้องดูความเหมาะสม เพราะการกระตุ้นเศรษฐกิจมีหลายมิติ
ทั้งนี้การแจกเงินในเฟส 2 ยืนยันว่ายังเดินหน้าอย่างแน่นอน ผ่าน ดิจิทัล แต่การจ่ายนั้นจะเป็นเท่าไหร่ จะขอดูความเหมาะสม และการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านอื่น ๆ ประกอบด้วย ขณะที่การบริหารจัดการงบประมาณไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน” นายจุลพันธ์กล่าว และว่า อย่างไรก็ตามเฟส 2 น่าจะไม่ทันภายในปีนี้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องระบบ ส่วนจะทันไตรมาสแรกของปี 2568 หรือไม่นั้น ไม่อยากให้ใช้เวลามาเป็นตัวเร่งรัด แต่จะรีบที่สุดตามความต้องการของประชาชน