กยท.ชี้ EU เลื่อนบังคับใช้ EUDR ไม่มีผลต่อการกำหนดราคายาง
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เผย คณะกรรมาธิการยุโรป จ่อขยายระยะเวลาเริ่มใช้กฎEUDRไป 12 เดือน หวังสร้างความพร้อมให้ทุกประเทศก่อนบังคับใช้จริง ย้ำ!ไทยพร้อมรับมาตรการ เตรียมหารือทุกภาคส่วนสัปดาห์หน้า เพื่อกำหนดท่าที-แนวทางปฏิบัติร่วมกัน
นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการส่งเสริมการสนับสนุนดำเนินการตามกฎระเบียบว่าด้วยการไม่ตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR) ได้เสนอขยายระยะเวลาในการเตรียมปฏิบัติตามกฎระเบียบดังกล่าว สำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั่วโลก ทั้งประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป(อียู) และประเทศที่ไม่เป็นสมาชิก ไปอีก 12 เดือน เพื่อให้ทุกประเทศสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นตั้งแต่เริ่มต้นบังคับใช้ ซึ่งจะส่งผลให้เริ่มมีการบังคับใช้กฎระเบียบEUDRกับบริษัทหรือผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 และวิสาหกิจขนาดย่อมหรือผู้ประกอบการรายย่อย ในวันที่ 30 มิถุนายน 2569 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าวยังต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภายุโรปและคณะรัฐมนตรีแห่งสหภาพยุโรปอีกครั้ง ซึ่งการขยายระยะเวลาบังคับใช้กฎระเบียบดังกล่าว ถือเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุน ผู้ประกอบกิจการรายใหญ่และรายย่อย ไปจนถึงเกษตรกรชาวสวนยางในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย ให้สามารถเตรียมความพร้อมเพื่อให้มาตรฐานยางไทยเป็นไปตามกฎระเบียบEUDRได้อย่างครอบคลุมทุกมิติ
โดยขณะนี้การบริหารจัดการยางของไทยภายใต้กฎระเบียบEUDRสามารถทำได้อย่างเป็นรูปธรรม การเพิ่มระยะเวลาดังกล่าวจะทำให้ไทยสามารถสอบทานหรือพัฒนาระบบการจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มร้อย ซึ่งจะสำเร็จได้ต้องอาศัยจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วน กยท. จึงเตรียมเชิญตัวแทนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรวมถึงภาคเอกชนเข้าหารือเพื่อกำหนดเป้าหมายร่วมกัน
“ไทยมีความพร้อมในการจัดการยางตามกฎระเบียบEUDRอยู่แล้ว การจ่อเลื่อนกำหนดบังคับใช้กฎระเบียบฯ เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่พอจะทราบกันมาบ้างแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก เพราะสุดท้ายแล้วก็ยังคงมีการบังคับใช้กฎระเบียบนี้อย่างแน่นอน ไม่อยากให้มองว่าเรื่องนี้เป็นปัจจัยในการกำหนดราคายาง แต่ควรเห็นเป็นโอกาสในการพัฒนาความพร้อมยางไทยให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบันตลาดโลกยังคงมีความต้องการผลผลิต ยางEUDRเป็นจำนวนมาก เพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยาง”
“ข้อเสนอขยายระยะเวลาบังคับใช้กฎระเบียบนี้ เป็นการย้ำความชัดเจนที่จะให้ทุกประเทศใช้ช่วงเวลานี้เร่งดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบEUDRได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพพร้อมกันทั่วโลก เนื่องจากมีพันธมิตรระดับโลกหลายประเทศที่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความพร้อมต่อเรื่องดังกล่าว ”
สำหรับประเทศไทยนั้นกยท. ได้มีการกำชับให้ผู้ประกอบการ สถาบันเกษตรกร ตลอดจนเกษตรกรชาวสวนยางปฏิบัติตามกฎระเบียบมาอย่างต่อเนื่อง โดยไทยถือว่ามีความพร้อมในด้านนี้แล้ว และจะยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนตามกฎระเบียบอย่างจริงจังต่อไป และในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ กยท. เตรียมเชิญประชุมหารือแนวทางกับผู้ประกอบการ เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมทั้งกำหนดท่าทีร่วมกันสำหรับอนาคตของยางไทยในการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว ซึ่งหลังจากการประชุมหารือครั้งนี้ จะมาอัปเดตความคืบหน้าให้ทราบกันอีกครั้ง