พาณิชย์ ขึ้นทะเบียน “กาแฟระนอง - กาแฟดอยมูเซอตาก” GI น้องใหม่

พาณิชย์ ขึ้นทะเบียน “กาแฟระนอง - กาแฟดอยมูเซอตาก” GI น้องใหม่

“พาณิชย์” ขึ้นทะเบียน GI “กาแฟระนอง - กาแฟดอยมูเซอตาก” กาแฟอัตลักษณ์ท้องถิ่น คุณภาพดี มีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว เป็นที่นิยมของผู้บริโภค พร้อมชวนคอกาแฟลิ้มลอง กาแฟ GI ไทย ในงาน Thailand Coffee Fest ‘Year End’ 2024 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 - 15 ธ.ค. 2567

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ยังคงเดินหน้าประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชมท้องถิ่น สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและชุมชมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เกิดจากภูมิศาสตร์ ภูมิปัญญาในแต่ละพื้นที่  

ล่าสุดกรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศขึ้นทะเบียน GI “กาแฟระนอง” และ “กาแฟดอยมูเซอตาก”

พาณิชย์ ขึ้นทะเบียน “กาแฟระนอง - กาแฟดอยมูเซอตาก” GI น้องใหม่

โดย“กาแฟระนอง” เป็นกาแฟโรบัสต้าที่ปลูกมายาวนานกว่า 100 ปี เป็นกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า ที่ปลูกและแปรรูปในเขตพื้นที่จังหวัดระนอง ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเล 200-800 เมตร ซึ่งเป็นระดับ     ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกาแฟโรบัสต้า แร่ธาตุในดินของพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำได้ดี    ทำให้ต้นกาแฟได้รับธาตุอาหารจากดินได้อย่างเต็มที่

ประกอบกับภูมิอากาศของพื้นที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมทั้งจากฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ทำให้ปริมาณน้ำฝนสูงและพื้นที่มีความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้กาแฟระนองมีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งจังหวัดระนองยังเป็นแหล่งผลิตกาแฟพันธุ์โรบัสต้าแหล่งใหญ่เป็นอันดับ 1 ของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และเป็นอันดับ 2 ของประเทศ   นับเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดระนองที่สร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 375 ล้านบาท

พาณิชย์ ขึ้นทะเบียน “กาแฟระนอง - กาแฟดอยมูเซอตาก” GI น้องใหม่

ส่วน “กาแฟดอยมูเซอตาก” คือ กาแฟพันธุ์อาราบิกาและกาแฟโรบัสต้า มีรสชาติกาแฟที่มีกลิ่นหอมผลไม้และถั่ว รสสัมผัสแบบเบาบาง มีแหล่งเพาะปลูกและแปรรูปในอำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก      ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ของดอยมูเซอซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ระดับ 800 เมตรขึ้นไป และมีความสมบูรณ์    ทางระบบนิเวศ ส่งผลให้กาแฟดอยมูเซอตากมีรสชาติกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกว่าพื้นที่อื่น  ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟ และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 257 ล้านบาท

นายนภินทร กล่าวว่า  ปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ร่วมมือกับสมาคมกาแฟพิเศษไทย และ The Cloud ส่งเสริมและขยายช่องทางการตลาดให้กับกาแฟไทย จึงได้ร่วมออกบูทในงาน Thailand Coffee Fest ‘Year End’ 2024 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 - 15 ธ.ค. 2567   ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นกำลังใจและสัมผัสรสชาติกาแฟ GI ไทยในงานดังกล่าว

ปัจจุบันมีกาแฟไทยที่ขึ้นทะเบียน GI แล้ว 10 รายการ ได้แก่ กาแฟดอยตุง  กาแฟดอยช้าง  กาแฟเขาทะลุ  กาแฟดงมะไฟ                  กาแฟเทพเสด็จ กาแฟวังน้ำเขียว กาแฟเมืองกระบี่ กาแฟถ้ำสิงห์ชุมพร กาแฟระนอง และ กาแฟดอยมูเซอตาก สร้างมูลค่าทางการตลาดกว่า 1,300 ล้านบาท