'ส.อ.ท.' เปิด 3 ปัจจัย กระทุ้ง กกพ. คืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าภาคธุรกิจเพิ่ม
"ส.อ.ท." เปิด 3 ปัจจัย กระทุ้ง "กกพ." คืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าภาคธุรกิจเพิ่ม หวังเพิ่มสภาพคล่องเศรษฐกิจผ่านธุรกิจชั้นดี ด้วยเงินที่จมอยู่กับการไฟฟ้าของภาคธุรกิจเอง
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท. ขอขอบคุณสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในมติการลดเงินประกันการใช้ไฟฟ้าเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2567 เห็นชอบข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงเงื่อนไขการวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ ได้แก่ ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 3 กิจการขนาดกลาง ประเภท 4 กิจการขนาดใหญ่ และประเภท 5 กิจการเฉพาะอย่างที่มีประวัติการชำระค่าไฟฟ้าดี
โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ) ปรับปรุงเงื่อนไขการวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ที่มีประวัติการชำระค่าไฟฟ้าดีตามแนวทางที่ กกพ. ได้วางไว้
นายอิศเรศ กล่าวว่า ด้วยสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส.อ.ท. ขอเรียกร้องให้ภาครัฐช่วยลดเงินประกันให้มากขึ้น ด้วยเหตุผลสำคัญ 3 ปัจจัย คือ
1. ธุรกิจกำลังต่อสู้ กับภาวะเศรษฐกิจ ที่คุกคามมากมาย
ต้องการสภาพคล่องมากขึ้น
2. ภาครัฐ ควรสนับสนุนการอยู่รอดของภาคธุรกิจ มากกว่า ความมั่นคง (ที่มากเกินไป) ของรัฐวิสาหกิจที่จำหน่ายไฟฟ้า
3. การไฟฟ้าฯ สามารถติดตามและประเมินความเสี่ยงของลูกค้าภาคธุรกิจได้จากการชำระค่าไฟฟ้าทุกเดือน และมีมาตรการตัดไฟฟ้า เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงอยู่แล้ววงเงินไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท จากเงินประกันค่าไฟฟ้า 53,000 ล้านบาท ที่จมอยู่กับการไฟฟ้าจะถูกดึงกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อเสริมสภาพคล่องธุรกิจ