‘สถิตย์’ ปัดเสนอชื่อคนแทน ‘กิตติรัตน์’ ชิงประธานธปท. ชี้เป็นอำนาจปลัดคลัง
“สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์” ปัดเป็นคนเสนอคลังเปลี่ยนชื่อแคนดิเดตประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ชี้เป็นอำนาจของปลัดคลัง และผู้ว่าแบงก์ชาติเท่านั้น ไม่ใช่อำนาจประธานคัดเลือก ยันใช้อำนาจตามกรอบกฎหมายเผยการประชุมกรรมการคัดเลือกฯยังกำหนดวันลงคะแนนใหม่ 11 พ.ย.นี้
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานคณะกรรมการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งประธานและกรรมการในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย “กรุงเทพธุรกิจ” ถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าตนเองได้เป็นผู้เสนอให้กระทรวงการคลังเปลี่ยนชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากกระทรวงการคลังให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ ธปท.จากนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลังเป็นบุคคลอื่นเพื่อลดแรงกดดันจากกระแสต่อต้านนั้นไม่เป็นความจริง
เนื่องจากการเสนอชื่อบุคคลที่มาดำรงตำแหน่งประธานและกรรมการใน ธปท.เป็นอำนาจของบุคคลที่กำหนดไว้ตาม พ.ร.บ.ธปท.ซึ่งมีแค่ 2 บุคคลที่ทำได้คือปลัดกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย โดยตำแหน่งของตนเองเป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือก ไม่ใช่ผู้ที่สรรหาหรือเสนอชื่อซึ่งกระแสข่าวที่ออกไปว่าตนเองไปขอให้กระทรวงการคลังเสนอชื่อบุคคลใหม่จึงไม่เป็นความจริงเพราะการเสนอชื่อจากกระทรวงการคลังนั้นเป็นอำนาจของปลัดกระทรวงการคลัง
“กรรมการคัดเลือกไม่ใช่คณะกรรมการสรรหา คนที่สรรหาและเสนอชื่อเข้ามาเป็นคนที่มีหน้าที่ตามกฎหมาย ในที่นี้ก็คือปลัดกระทรวงการคลัง และผู้ว่าฯธปท.เท่านั้น ดังนั้นหากกระทรวงการคลังอยากจะเปลี่ยนชื่อบุคคลที่เสนอให้ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นบุคคลอื่นปลัดกระทรวงการคลังก็ต้องเป็นผู้ที่เสนอรายชื่อคนใหม่เข้ามาคณะกรรมการคัดเลือกก็จะพิจารณาไปตามที่มีการเสนอ”
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากระทรวงการคลังเสนอชื่อ นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาเป็นแคนดิเดตแทนนายกิตติรัตน์นั้นเรื่องนี้นายสถิตย์ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นการเสนอการเปลี่ยนแปลงรายชื่อจากกระทรวงการคลัง หากจะมีการเปลี่ยนจริงกระทรวงการคลังก็จะต้องแจ้งให้มาให้คณะกรรมการคัดเลือกรับทราบ
เมื่อถามถึงขั้นตอนหากจะมีการเสนอเปลี่ยนแปลงรายชื่อนั้นกระทรวงการคลัง และธปท.ต้องดำเนินการอย่างไร นายสถิตย์กล่าวว่าจะต้องมีหนังสือแจ้งให้กรรมการคัดเลือกเป็นลายลักษณ์อักษรซึ่งในหนังสือที่ส่งมาอาจจะยังไม่ต้องระบุรายชื่อคนที่จะเปลี่ยนเข้ามาแทนก็ได้แต่หากมีหนังสือแจ้งมากรรมการก็จะมีหนังสือตอบกลับไปว่าในเรื่องกรอบเวลาว่าจะให้ระยะเวลากี่วันในการที่จะส่งรายชื่อบุคคลใหม่เข้ามาเพื่อให้บุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมายที่กำหนดไว้
ซึ่งหากจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ต้องมีการส่งเรื่องเข้ามาก่อนวันที่ 11 พ.ย.นี้ซึ่งเป็นการประชุมรอบถัดไปของคณะกรรมการคัดเลือกฯ
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าในขณะนี้ นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ยังไม่ได้มีการดำเนินการในเรื่องการเปลี่ยนแปลงชื่อบุคคลที่กระทรวงการคลังเสนอไปเป็นประธานบอร์ดธปท.จากนายกิตติรัตน์ เป็นบุคคลอื่นแต่อย่างใด
ทำให้ขณะนี้แคนดิเดตประธานบอร์ด ธปท.ยังเป็น 3 บุคคลเดิม ได้แก่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอชื่อโดยกระทรวงการคลัง ส่วนอีก 2 ชื่อที่เสนอจาก ธปท.มี 2 คน ได้แก่ นายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน และนายสุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรรมการอิสระ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเสนอรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ด ธปท.นั้นพ.ร.บ.ธปท.กำหนดไว้ใน มาตรา 28/5 ให้ผู้ว่าการและปลัดกระทรวงการคลังพิจารณาเสนอรายชื่อบุคคลซึ่งมีสัญชาติไทยและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 18 และมีความรู้ความเชียวชาญ หรือประสบการณ์สำหรับการคำรงตำแหน่งในคณะกรรมการ ธปท. ต่อคณะกรรมการคัดเลือก เพื่อพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งคั่งเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ธปท.แล้วแต่กรณี โดยให้ผู้ว่าการเสนอเป็นจำนวนไม่เกินสองเท่า และปถัดกระทรวงการคลังเสนอเป็นจำนวนไม่เกินหนึ่งเท่าของจำนวนกรรมการที่จะได้รับแต่งตั้งตามลำดับ
เมื่อคณะกรรมการคัดเลือกพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งแล้ว ในกรณีประธานกรรมการ ให้เสนอชื่อต่อรัฐมนตรีคลังเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาและเมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบแล้วให้ทูลเกล้า ฯ เพื่อทรงแต่งตั้ง ในกรณีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ให้เสนอชื่อต่อรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแต่งตั้งต่อไป