บทเรียน ‘สหฟาร์ม’ Over Invest ถึงเวลา GEN 2 'โชติเทวัญ' เคลื่อนธุรกิจ

บทเรียน ‘สหฟาร์ม’ Over Invest ถึงเวลา GEN 2 'โชติเทวัญ' เคลื่อนธุรกิจ

บริษัท สหฟาร์ม จำกัด ธุรกิจของตระกูลโชติเทวัญ จัดตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2512 โดยเริ่มเลี้ยงไก่สัปดาห์ละ 500 ตัว จากเงินลงทุน 5,000 บาท เนื่องจากครอบครัวยากจนและมีทุนน้อย ซึ่งได้ประยุกต์เครื่องมือเครื่องจักรจากภูมิปัญญาของตนเองผสมผสานกับประสบการณ์ด้านสาธารณสุข

ดร.ปัญญา โชติเทวัญ ผู้ก่อตั้งสหฟาร์ม กำหนดแนวทางการทำธุรกิจการเลี้ยงไก่ของตระกูลโชติเทวัญเพื่อผลิตอาหารโปรตีน สะอาดและปลอดภัยแก่ผู้บริโภค โดยได้ขยายธุรกิจต่อเนื่องเป็นธุรกิจไก่ครบวงจร ประกอบด้วย 

กิจการฟาร์มไก่ปู่-ย่าพันธุ์ , ฟาร์มไก่พ่อ-แม่พันธุ์ , ฟาร์มไก่เนื้อ , ไซโลเก็บเมล็ดธัญพืช, โรงงานผลิตอาหารสัตว์ , โรงงานผลิตยาสัตว์ , โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ เป็นผู้ผลิตไก่ปลอดสารพิษรายแรกของประเทศไทย ที่มีระบบ BIO-SECURITY ในคอมพาร์ทเม้นท์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีรายได้จากการส่งออกระดับหมื่นล้านบาทต่อปี 

สหฟาร์มกลายมาเป็นผู้ผลิตไก่รายใหญ่อันดับ 1 ของไทย ด้วยกำลังการผลิตมากกว่า 350,000-500,000 เมตริตัน ต่อปี มีการจ้างงานประมาณ 20,000 คน

ในช่วงที่อาณาจักรสหฟาร์มกำลังขยายตัวต้องเจอผลกระทบครั้งสำคัญ เมื่อมีการแพร่ระบสดของโรคไข้หวัดนกปี 2547 ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงไม่เฉพาะธุรกิจสหฟาร์มแต่กระทบถึงผู้เลี้ยงไก่ทุกราย

จุดหักเหสำคัญของสหฟาร์มเกิดขึ้นเมื่อธุรกิจมีปัญหาสภาพคล่องอย่างรุนแรงจนไม่สามารถชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้ และท้ายที่สุดเมื่อปี 2557 สหฟาร์มต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ โดยศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเมื่อวันที่ 23 ก.ค.2557 มีบริษัทอีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัด เป็นผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการและเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ

เจ้าหนี้ของสหฟาร์มครอบคลุมทั้งสถาบันการเงินและซัพพลายเออร์ เป็นหนี้ของบริษัทสหฟาร์ม จำกัด และบริษัทโกลเด้นไลน์ บิสซิเนส จำกัด โดยมีธนาคารกรุงไทยเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่ให้สินเชื่อหลักกับสหฟาร์ม และเห็นว่าปัญหาของสหฟาร์มมีทั้งปัญหาโครงสร้างการเงินและปัญหารบริหารจัดการ

รวมทั้งนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาให้ความเห็นก่อนที่สหฟาร์มจะเข้าแผนฟื้นฟูกิจการในเดือน ก.ค.2557 ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเฉพาะบริษัทที่ไม่เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ 

"สหฟาร์มมีการลงทุนที่มากเกินไป (โอเวอร์ อินเวสท์) เช่น สร้างโรงงานใหม่ ขยายกำลังการผลิต จึงไปกระทบระบบ กระทบผู้เล่นคนอื่น เป็นเหตุเฉพาะบริษัทไม่ได้เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ" นายประสาน กล่าวกับกรุงเทพธุรกิจเมื่อวันที่ 11 ก.ค.2557

สำหรับหนี้ของสหฟาร์มรวม 20,788 ล้านบาท แบ่งเป็น 

1.หนี้ของบริษัทสหฟาร์ม จำกัด 10,353 ล้านบาท 

2.หนี้ของบริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัด 10,435 ล้านบาท

ทั้งนี้ธนาคารกรุงไทยมีบทบาทสำคัญในการออกเสียงในการปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูกิจการ รวมถึงการกำหนดเงื่อนไขทางการเงินให้กับสหฟาร์ม เช่น การควบคุมรายรับและรายจ่าย ส่วนการชำระหนี้

สหฟาร์มอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการเต็มเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยแผนฟื้นฟูกิจการมีอายุ 5 ปี และต่ออายุได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 ปี รวมแล้วสหฟาร์มอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการ 7 ปี โดยบริษัทอีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัด ชี้แจงมาตลอดว่ามีการจ่ายหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการแม้จะอยู่ในช่วงโควิด-19

ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเมื่อวันที่ 18 ส.ค.2565 ยกเลิกการฟื้นฟูกิจการของ บริษัท สหฟาร์ม จํากัด ซึ่งทำให้อํานาจหน้าที่ในการจัดการกิจการและทรัพย์สินของสหฟาร์มกลับเป็นของผู้บริหารและผู้ถือหุ้นของสหฟาร์ม

“จารุวรรณ โชติเทวัญ” บุตรสาวถูกวางบทบาทในการขับเคลื่อนสหฟาร์มหลายด้าน เช่น ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่สหฟาร์มยังอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการ โดยพยายามสร้างโปรดักส์ใหม่ เช่น ผลิตภัณฑ์ไก่และไข่ ภายใต้แบรนด์ “พอลดีย์” วางตำแหน่งทางการตลาดพรีเมี่ยม

นอกจากนี้ได้วางแผนให้สหฟาร์มกลับมาเป็นผู้ผลิตสินค้าไก่เบอร์ 1 อีกครั้ง โดยทันทีที่ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ประกาศเป้าหมายตามแผนธุรกิจ 5 ปี (2565-2570) จะต้องทำให้ธุรกิจขยายตัวปีละ 10% เป็นอย่างน้อย เพื่อให้กลับมาเป็นเบอร์ 1 โดยตามแผนจะลงทุนปรับปรุงโรงงาน โรงเรือน ฟาร์ม เป็นส่วนใหญ่ และเมื่อผ่านพ้นปี 2570 ไปแล้วจะพิจารณาวงเงินการลงทุนขนาดใหญ่อีกครั้ง

ในด้านการบริหารธุรกิจได้หาทางลดต้นทุนการผลิตหรือลดการสูญเสีย รวมถึงการซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดมาใช้เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจโลกที่ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยคาร์บอนของโรงงานแต่ละแห่งที่มีกำลังการผลิตรวม 1 ล้านตัวต่อวัน

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเกษตรของกลุ่มสหฟาร์มเป็นอุตสาหกรรมการผลิตไก่ครบวงจร ตั้งแต่เริ่มต้น กระบวนการฟักไข่ การให้แสงสว่าง การทำให้ไก่อบอุ่น ขบวนการผลิตอาหารสัตว์และเครื่องจักร