อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ‘สาหัส’ จับตาผู้ผลิตชิ้นส่วนปิดโรงงาน

อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ‘สาหัส’ จับตาผู้ผลิตชิ้นส่วนปิดโรงงาน

ส.อ.ท.รับอุตสาหกรรมยานยนต์สาหัส หั่นเป้าผลิต 4 แสนคัน หลังยอดขายในประเทศทรุด แบงก์เมินปล่อยกู้ยอดขายในประเทศต่ำสุดรอบ 54 เดือน ส่งออกร่วงทุกตลาด จับตาผู้ผลิตชิ้นส่วนกระอักปิดโรงงาน หลังลดโอที ลดวันทำงานเหลือ 2 วัน สัญญาณร้าย ‘นิสสัน’ เตรียมเลิกจ้างในไทย 1,000 ตำแหน่ง

KEY

POINTS

  • อุตฯ ยานยนต์ไทยหดตัวต่อเนื่อง ส.อ.ท. รายงานการผลิตรถยนต์เดือน ต.ค.2567 พบการผลิตรถยนต์ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ต.ค.) ยอดผลิต 1.24 ล้านคัน เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนหด 19.28%
  • อุตฯ ยานยนต์มีแรงงาน 444,000 คน มีผู้ประกอบการแบ่งเป็นผู้ประกอบรถยนต์ 23 ราย, ผู้ประกอบรถจักรยานยนต์ 8 ราย, ซัพพลายเออร์ เทียร์ 1 รวม 476 ราย และซัพพลายเออร์ เทียร์ 2 ขึ้นไป 1,210 ราย
  • ส.อ.ท.ลดประมาณการการผลิตรถยนต์ปี 2567 ลงอีก 200,000 คัน จาก 1.7 ล้านคัน เหลือ 1.5 ล้านคัน  ปรับลดผลิตขายในประเทศ 550,000 คัน เหลือ 450,000 คัน ผลิตเพื่อส่งออกจาก 1.15 ล้านคัน เหลือ 1.05 ล้านคัน 
  • ยอดผลิตรถที่ลดลงกระทบเป็นซัพพลายเชนเพิ่มขึ้นจากเดิมลดเวลาการทำงานเหลือ 3 วัน/สัปดาห์ อาจลดเหลือ 2 วัน/สัปดาห์ "เอสเอ็มอี"สายป่านไม่ยาวอาจหยุดกิจการ

อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยหดตัวอย่างต่อเนื่อง โดลล่าสุดกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) รายงานการผลิตรถยนต์เดือน ต.ค.2567 พบว่าการผลิตรถยนต์ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ต.ค.) มียอดผลิต 1.24 ล้านคัน เทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วลดลง 19.28%

สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบันมีแรงงานรวม 444,000 คน มีผู้ประกอบการ แบ่งเป็นผู้ประกอบรถยนต์ 23 ราย, ผู้ประกอบรถจักรยานยนต์ 8 ราย , ซัพพลายเออร์ เทียร์ 1 รวม 476 ราย และซัพพลายเออร์ เทียร์ 2 ขึ้นไป 1,210 ราย

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ลดประมาณการการผลิตรถยนต์ปี 2567 ลงอีก 200,000 คัน จาก 1.7 ล้านคัน เหลือ 1.5 ล้านคัน  โดยปรับลดผลิตขายในประเทศจาก 550,000 คัน เป็น 450,000 คัน ส่วนการผลิตเพื่อส่งออกลดลงจาก 1.15 ล้านคัน เป็น 1.05 ล้านคัน 

ทั้งนี้ ได้ลดยอดผลิตเป็นครั้งที่ 2 จากรอบแรกปรับไป 200,000 คัน เท่ากับปีนี้ลดลงถึง 400,000 คัน คิดเป็นมูลค่า 240,000 ล้านบาท จากเป้าหมายแรกตั้งแต่ต้นปีตั้งไว้ที่ 1.9 ล้านคัน เพราะยอดขายในประเทศลดลงจากการเข้มงวดให้กู้ซื้อรถยนต์ของสถาบันการเงิน ซึ่งยอดการผลิตดังกล่าวต่ำสุดใน 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ 1.6 ล้านคัน

นอกจากนี้การส่งออกลดลงทุกตลาดจากผลกระทบสงครามอิสราเอลกับฮามาสที่อาจกระทบส่งออกตลาดดังกล่าว โดยต้องจับตาตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลางและยุโรปเป็นพิเศษ รวมทั้งต้องติดตามผลกระทบเศรษฐกิจโลกจากสงครามยูเครนกับรัสเซีย ที่อาจขยายประเทศอื่น ซึ่งยอมรับว่าสถานการณ์รถยนต์ไทยค่อนข้างสาหัส

อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ‘สาหัส’ จับตาผู้ผลิตชิ้นส่วนปิดโรงงาน

“ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศที่ลดลงมาจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ซื้อรถยนต์เพราะหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ (SM) ยังอยู่ในระดับที่สูงที่ 208,575 ล้านบาท หนี้เสียรถยนต์อยู่ที่ 259.330 ล้านบาท ในเดือน ก.ค.2567 ประกอบกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศไตรมาส 2 ปีนี้ แค่ 2.3% และคาดว่า 2567 จะเติบโตแค่ 2.7-2.8%” 

ห่วงโรงงานยุติกิจการเหมือนที่ผ่านมา

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ยอดผลิตที่ลดลงกระทบเป็นซัพพลายเชนเพิ่มขึ้นจากเดิมลดเวลาการทำงานเหลือ 3 วัน/สัปดาห์ อาจลดเหลือ 2 วัน/สัปดาห์

ส่วนเอสเอ็มอีที่สายป่านไม่ยาวก็อาจจะถึงขั้นหยุดกิจการชั่วคราวเหมือนเช่นที่ผ่านมา และอีกประเด็นที่ต้องจับตาดูงานมอเตอร์โชว์ที่ใกล้จะถึง โดยยอดจองยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ปีที่ผ่านมามีสัดส่วนเกือบ 40% ของจองในงาน ซึ่งต้องดูว่าปีนี้จะมากกว่าหรือไม่

“รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อกลุ่มผู้ใช้รถกระบะที่ยอดผลิตลดลง 40% มากสุดในกลุ่ม ที่ส่วนใหญ่ใช้ชิ้นส่วนในไทยถึง 80-90% หากมีมาตรการสนับสนุนที่ดีจะทำให้กลุ่มนี้ต้องการรถมาทำมาหากินมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ช่วยแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน รัฐเก็บภาษีเพิ่ม ทำให้สัดส่วน GDP เพิ่มมากขึ้น หนี้ครัวเรือนจะได้ลดลงอย่างยั่งยืน” นายเกรียงไกร กล่าว 

กลุ่มชิ้นส่วนฯ เพิ่มวันหยุดเป็น3วัน

นายสุพจน์ สุขพิศาล เลขาธิการ Cluster of FTI Future Mobility-ONE และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ ส.อ.ท.กล่าวว่า ออร์เดอร์ยอดขายชิ้นส่วนลดลง 30% ตั้งแต่ต้นปี โดยการลดกำลังการผลิตกระทบการทำงานล่วงเวลา (โอที) โดยบางบริษัทยกเลิกโอทีและบางบริษัทเพิ่มวันหยุดจาก 2 วันเป็น 3 วันต่อสัปดาห์

รวมทั้งบางบริษัทลดเวลาทำงานและเริ่มโครงการจ่ายเงินเดือน 75% ของเงินเดือนทั้งหมด ซึ่งกลับไปเหมือนช่วงวิกฤติโควิด-19 และน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ที่กระทบภาคการผลิต แต่สิ่งที่น่ากังวลอยู่ที่ไม่รู้จะจบเมื่อไหร่ เพราะช่วงโควิดและน้ำท่วมเป็น Short term อีกทั้งภาครัฐสนับสนุนเยียวยาแต่เหตุการณ์นี้ไม่มี

"ทุกคนหวังว่าไตรมาส 4 ปีนี้ เศรษฐกิจไทยจะฟื้นโดยมาจากปัจจัยงบประมาณภาครัฐ นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงภาคท่องเที่ยวที่เป็น High Season แต่ยอดผลิตรถก็ยังไม่เพิ่มขึ้น บริษัทผู้ผลิตจะต้องบาลานซ์กำลังคนกับยอดที่ห่ยไปด้วยเช่นกัน จึงน่าเป็นห่วงกลุ่มเอสเอ็มอีถึง 70-80% ของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ต้องบริหารจัดการองค์กรโดยเฉพาะเงินหมุนเวียน ถือเป็นจุดน่าเป็นห่วง”

ยอดผลิตรถยนต์ ต.ค.67 รวม 118,842 คัน

นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์ในช่วงเดือน ม.ค.-ต.ค.2567 มีจำนวน 1.24 ล้านคัน เทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วลดลง 19.28% แบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 384,952 คัน และผลิตเพื่อส่งออก 861,916 คัน

สำหรับยอดขายรถยนต์เดือน ต.ค.2567 มีจำนวน 37,691 คัน ลดลงจากเดือน ก.ย.2567 ที่ 36.08% ต่ำสุดรอบ 54 เดือนนับตั้งแต่ยกเลิกล๊อคดาวน์จากการระบาดโรคหวัด-19 เมื่อเดือน พ.ค.2563 จากการเข้มงวดในการให้กู้ซื้อรถยนต์ของสถาบันการเงินเป็นหลัก

ทั้งนี้ ส่งผลให้จำนวนบัญชีผู้กู้ซื้อรถยนต์ไตรมาส 3 มี 6.36 ล้านบัญชี ลดลงจากช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว 199,655 บัญชี หรือลดลง 3.0% จำนวนเงินหนี้รถยนต์ไตรมาส 3 อยู่ที่ 2.46 ล้านล้านบาท ลดลงช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว 5.8% โดยรถบรรทุกลดลงจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอเติบโตอัตราต่ำและหนี้ครัวเรือนสูง

‘นิสสัน’ เตรียมเลิกจ้างในไทย 1,000 ตำแหน่ง

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าว 2 รายที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 22 พ.ย.2567 ว่า บริษัทนิสสัน มอเตอร์ เตรียมเลิกจ้างหรือโยกย้ายพนักงานในไทย 1,000 คน เพราะบริษัทกำลังลดการผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลดพนักงานทั่วโลก 9,000 คน ที่เพิ่งประกาศไป

แหล่งข่าวระบุว่านิสสันวางแผนหยุดผลิตบางส่วนที่โรงงานหมายเลข 1 ในไทย ซึ่งในไทยมีโรงงานประกอบรถยนต์ 2 แห่ง และรวมสายการผลิตทั้งหมดเข้าที่โรงงานหมายเลข 2 ภายในเดือน ก.ย.2568 โดยโรงงานตั้งอยู่ที่สมุทรปราการ โรงงานแห่งที่ 1 กำลังการผลิต 220,000 คัน และแห่งที่ 2 มีกำลังการผลิต 150,000 คัน ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตใหญ่สุดของนิสสันในอาเซียน

โฆษกนิสสัน ปฏิเสธแสดงความเห็นการเลิกจ้างพนักงาน แต่ระบุว่ากำลังรวมโรงงานบางส่วนเพื่ออัปเกรดอุปกรณ์ และจะไม่ปิดโรงงานในไทย โดยโรงงานหมายเลข 1 ยังเป็นโรงงานผลิตหลักในไทย

ขณะที่ยอดขายนิสสันในไทยลดลง 30% เหลือ 14,000 คัน ในปีงบประมาณที่ผ่านมาซึ่งสิ้นสุดเดือน มี.ค.2567 แม้ผู้ผลิตรถสัญชาติญี่ปุ่นรวมถึงโตโยต้า มอเตอร์ และฮอนด้า มอเตอร์ จะครองตลาดในไทยมาหลายปี แต่ผู้ผลิตรถสัญชาติจีนเริ่มก้าวมาเป็นตัวเลือกอีวีอย่างรวดเร็ว เช่น BYD และ SAIC

‘ไทย’ จ่อเสียแชมป์เบอร์ 3 ตลาดรถอาเซียน

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียได้รายงานว่า ยอดขายรถยนต์ไตรมาส 3 ของไทยลดหนักถึง 28% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยลดลงมากสุดในกลุ่ม 5 ประเทศในอาเซียน ส่งผลให้ไทยเสี่ยงถูกฟิลิปปินส์แซงหน้าเป็นตลาดรถอันดับ 3 ในภูมิภาค

บรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดรถไทยที่ตกต่ำลง 28% ต่อปี หรือลดลง 9.5% เมื่อเทียบรายไตรมาส เป็นผลจากหนี้ครัวเรือนที่สูงมานานส่งผลให้สินเชื่อรถยนต์ในประเทศได้รับผลกระทบ

เว็บไซต์นิกเกอิเอเชียได้รวบรวมข้อมูลยอดขายเดือน ก.ค.-ก.ย. จากกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ใน 5 ประเทศอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม พบว่า ยอดขายรถยนต์รวมใน 5 ตลาดนี้อยู่ที่ประมาณ 763,000 คัน หรือลดลง 7% จากปีก่อน ซึ่งสวนทางทุกประเทศที่แม้ชะลอตัวแต่ฟื้นกลับมาได้ใน 1-2 ไตรมาส

ขณะที่ยอดขายของฟิลิปปินส์ที่เป็นตลาดรถอันดับ 4 ในภูมิภาคกำลังไล่ขยับขึ้นมาให้ยอดขายระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์ในไตรมาส 3 ปีนี้ ห่างกันแค่เพียง 12,604 คัน จากเดิมเคยห่างถึง 113,111 คัน เมื่อ 2 ปีก่อน

ตลาดรถยนต์ไทยชะลอลงอธิบายได้ผ่านหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 89.6% ของจีดีพีไตรมาส 2 ปีนี้ จากข้อมูลบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด พบหนี้เสียเดือน ก.ค.พุ่งขึ้นไปแตะระดับ 1.19 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 22% ของหนี้เสียในอุตสาหกรรมรถยนต์ ส่งผลให้ธนาคารระวังปล่อยสินเชื่อรถยนต์มากขึ้น