ราคาน้ำมันทรงตัว ตลาดจับตาหยุดยิง'อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์'

 รอยเตอร์สรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันพุธ (27 พ.ย.) หรือเมื่อคืนนี้ตามเวลาในไทย เนื่องจากตลาดประเมินข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ ขณะเดียวกันคาดการณ์การประชุมกลุ่มโอเปกพลัส (Opec+) ในวันอาทิตย์ (1 ธ.ค.) ซึ่งกลุ่ม Opec+ อาจเลื่อนแผนเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันออกไป

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้า เพิ่มขึ้น 2 เซ็นต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 72.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัสอินเตอร์มีเดียตของสหรัฐ  (WTI) ลดลง 5 เซ็นต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 68.72 ดอลลาร์

ราคาน้ำมันดิบทั้งสองตลาดปรับตัวลดลงในวันอังคาร (26 พ.ย.) หลังจากอิสราเอลตกลงทำข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ของเลบานอน ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน มีผลบังคับใช้ในวันพุธ หลังจากทั้งสองฝ่ายยอมรับข้อตกลงที่ทำขึ้นโดยสหรัฐและฝรั่งเศส

“ผู้ค้า ในตลาดกำลังประเมินว่าจะมีการปฎิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง หรือไม่” ฮิโรยูกิ คิกูคาวะ ประธานบริษัท NS Trading ซึ่งเป็น ส่วนหนึ่งของบริษัทหลักทรัพย์ Nissan Securities กล่าว

“เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะซื้อขายในช่วง 65-70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยคำนึงถึงสภาพอากาศในช่วงฤดูหนาวของซีกโลกเหนือ การเพิ่มขึ้นของการผลิตน้ำมันและ ก๊าซจากหินดินดานภายใต้การบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ใน สหรัฐและแนวโน้มอุปสงค์ในจีน”

หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคารโกลด์แมน แซคส์ และ มอร์แกนสแตนลีย์ กล่าวว่าราคาน้ำมันถูก ประเมินค่าต่ำเกินไป โดยอ้างถึงภาวะอุปทานน้ำมันต่ำใน ตลาดและความเสี่ยงต่ออุปทานของอิหร่านจากการคว่ำบาตร ที่อาจเกิดขึ้นภายใต้ประธานาธิบดีทรัมป์คนใหม่ของสหรัฐฯ

ด้านกลุ่ม OPEC+ ซึ่งประกอบด้วยองค์กรร่วมประเทศผู้ผลิต น้ำมันเพื่อการส่งออก (โอเปก) และพันธมิตรที่นำโดยรัสเซีย กล่าวว่ากลุ่มผู้ผลิตกำลังหารือเกี่ยวกับการเลื่อนการเพิ่ม ปริมาณการผลิตน้ำมันออกไปอีก ซึ่งกำหนดไว้ในเดือน มกราคม กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันซึ่งผลิตน้ำมันประมาณครึ่งหนึ่ง ของโลก ตั้งเป้าที่จะค่อยๆเพิ่มการผลิตตลอดปี 2024 และ 2025 แต่ความต้องการน้ำมันทั่วโลกที่ลดลงและปริมาณการ ผลิตนอกกลุ่ม OPEC+ ที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดข้อสงสัยในแผน ดังกล่าว การตัดสินใจจะมีขึ้นในการประชุมวันที่ 1 ธันวาคม

“ความนิ่งที่เห็นได้จากการเคลื่อนไหวของราคาและการขาด ปัจจัยใหม่ๆ บ่งชี้ว่าผู้ค้าน้ำมันมองว่าการประชุม OPEC+ จะ คงทำให้ความผันผวนในตลาดต่ำ โดยกลุ่มมีแนวโน้มที่จะ กลับไปมีเสียงอย่างเป็นเอกฉันท์ให้ชะลอแผนการยุติการลด การผลิตโดยสมัครใจ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันไปจนถึงไตรมาสแรกของปี 2025” คริส เวสตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ บริษัทหลักทรัพย์ Pepperstone กล่าว

ในสหรัฐอเมริกา ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะเรียกเก็บภาษี 25% สำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่นำเข้ามาในสหรัฐ ทั้งจากเม็กซิโก และแคนาดา แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์สเมื่อวันอังคาร ว่าน้ำมันดิบจะไม่ได้รับการยกเว้นจากภาษีศุลกากรดังกล่าว

แหล่งข่าวในตลาดรายงานเมื่อวันอังคาร โดยอ้างตัวเลขของ สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (American Petroleum Institute: API) ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง แต่สต็อกเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สต็อกน้ำมัน ดิบลดลง 5.94 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 พฤศจิกายน ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะ ลดลงประมาณ 600,000 บาร์เรล