'พีระพันธุ์' ลดค่าไฟ 3 สตางค์ 'กฟผ.' แบกหนี้เพิ่ม 1,800 ล้านบาท
"พีระพันธุ์" สั่ง "กกพ" ลดค่าไฟลงอีก 3สตางค์ต่อหน่วย งวดเดือนม.ค.-เม.ย. 2568 ส่งผลให้ "กฟผ." แบกหนี้เพิ่มงวดละ 1,800 ล้านบาท
KEY
POINTS
- กกพ. ประกาศลดค่าไฟฟ้าม.ค.-เม.ย.67 ลง 3 สตางค์/หน่วย ทำให้กฟผ. รับภาระค่าเอฟทีเพิ่มอีก 1,800 ล้านบาท
- ปัจจุบันกฟผ.ยังคงแบกภาระค่าเอฟทีแทนประชาชนเดิมกว่า 1.5 แสนล้านบาท เหลือราว 70,000 ล้านบาท
- ทุก 1 สตางค์ที่ กฟผ. รับภาระแทนประชาชนจะเท่ากับ 600 ล้านบาท และเมื่อบวกเพิ่มกับหนี้ที่กฟผ. รับภาระแทนไว้จึงถือเป็นการเพิ่มภาระให้กับกฟผ.เพิ่มขึ้น
จากกรณีที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หารือกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อลดค่าไฟฟ้างวดม.ค.-เม.ย. 2568 จากค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในงวดปัจจุบัน (ก.ย.-ธ.ค. 2567) ซึ่งอยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย ลงอีก 3 สตางค์ต่อหน่วย หรือค่าไฟฟ้าจะลดลงเหลือ 4.15 บาทต่อหน่วย โดยจะมีผลตั้งแต่เดือน ม.ค-เม.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพและเป็นของขวัญปีใหม่ 2568 ให้กับพี่น้องชาวไทยทุกคน
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากการที่สำนักงาน กกพ. ประกาศลดค่าไฟฟ้างวดดังกล่าว 3 สตางค์ต่อหน่วย จะส่งผลให้กฟผ. ต้องรับภาระค่าเอฟทีแทนประชาชนเพิ่มอีก 1,800 ล้านบาท จากปัจจุบันที่ยังคงภาระแทนประชาชนจากกว่า 1.5 แสนล้านบาท เหลือราว 70,000 ล้านบาท ซึ่งส่งกระทบกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยเฉพาะการต้องจ่ายหนี้เงินกู้ที่มีการกู้มาเสริมสภาพคล่องด้วย
"การรับภาระของกฟผ. เพิ่มครั้งนี้ ต้องยอมรับว่าหากมองภาพรวมการลดค่าไฟเพียง 3 สตางค์ ซึ่งในมุมมองประชาชนที่ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าในแต่ละงวดเหมือนจะไม่มากก แต่ในแง่ของกฟผ. ทุก 1 สตางค์ที่รับภาระแทนประชาชนจะเท่ากับ 600 ล้านบาท ดังนั้น จึงต้องแบกภาระเพิ่มอีก 1,800 ล้านบาท และเมื่อบวกเพิ่มกับหนี้ที่กฟผ.รับแทนไว้ตั้งแต่หลังโควิด 19 กว่า อีกราว 70,000 ล้านบาท ถือเป็นการเพิ่มภาระให้กับกฟผ.เพิ่มขึ้น" แหล่งข่าว กล่าว
ทั้งนี้ ในการประชุม คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) วันที่ 27 ธ.ค. 2567 มีมติรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าFT) และได้พิจารณากรณีศึกษาการปรับค่าเอฟทีขายปลีก สำหรับเรียกเก็บในงวดเดือนม.ค.2568 และมีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเรียกเก็บเท่ากับ 36.72 สตางค์ต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยลดลง 3 สตางค์ต่อหน่วย จากงวดปัจจุบัน (ก.ย.-ธ.ค..2567) จาก 4.18 บาทต่อหน่วย เหลืออยู่ที่ 4.15 บาทต่อหน่วยมอบของขวัญปีใหม่ ลดค่าไฟ 3 สตางค์ต่อหน่วย เหลือ 4.15 บาท/หน่วย มีผล ม.ค-เม.ย.68
ในการพิจารณาทบทวนเพื่อปรับลดค่าไฟฟ้าในงวดเดือนม.ค.-เม.ย.2568 จากการรวบรวมความคิดเห็นทั้งหมดจากกระบวนการรับฟังความคิดเห็น รวมทั้ง กกพ. และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้พิจารณาร่วมกันถึงการทบทวนแนวโน้มต้นทุนค่าเชื้อเพลิง ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ในระยะถัดไปพบว่ามีแนวโน้มผ่อนคลายและกดดันต่อค่าไฟลดลง
จึงได้ปรับลดค่าไฟลงได้อีกเล็กน้อย เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านค่าไฟฟ้าของพี่น้องประชาชน และค่าไฟระดับ 4.15 บาทต่อหน่วย ยังคงเป็นอัตราที่ยังสามารถรักษาความมั่นคง เสถียรภาพ และความยั่งยืนให้กับระบบไฟฟ้าของประเทศระยะยาวได้
ก่อนหน้านี้ กฟผ. ยังได้ทำเรื่องมายัง กกพ. เพื่อขอให้พิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าตามสูตรอัตโนมัติประจำเดือนม.ค.-เม.ย.2568 เพื่อประกอบการพิจารณาในการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าให้แก่ประชาชนแล้วด้วย สำหรับรายละเอียดเอกสารเผยแพร่ค่าเอฟทีสำหรับงวดเดือนม.ค.-เม.ย.2568 สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์สำนักงาน กกพ.