‘โรเบิร์ต วอลเทอร์ส’ เผยเทรนด์ปี 68  นายจ้างมองหาแรงงาน ทัศนคติดี - มีทักษะ AI

‘โรเบิร์ต วอลเทอร์ส’ เผยเทรนด์ปี 68  นายจ้างมองหาแรงงาน ทัศนคติดี - มีทักษะ AI

โรเบิร์ต วอลเทอร์ส เผยเทรนด์การจ้างงานปี 2568 พบนายจ้างมองหาแรงงานที่มีทัศนคติดี เวลาการทำงาน และการทำงานยืดหยุ่น พร้อมมีทักษะการทำงานเป็นทีม การแก้ไขปัญหา ขณะที่หลายสาขามองหาแรงงานที่มีทักษะ AI เพิ่มขึ้น ขณะที่พนักงานจำนวนกว่า 80% มองการจ่ายโบนัสเป็นสวัสดิการ

KEY

POINTS

  • โรเบิร์ต วอลเทอร์ส เผยแนวโน้มตลาดแรงงานปี 2568 ขยายตัวตามทิศทางเศรษฐกิจ และตำแหน่งงานใหม่ๆ
  • เผยเทรนด์การจ้างงานปี 2568 พบนายจ้างมองหาแรงงานที่มีทัศนคติดี เวลาการทำงาน และการทำงานยืดหยุ่น พร้อมมีทักษะการทำงานเป็นทีม การแก้ไขปัญหา
  • ขณะที่หลายสาขามองหาแรงงานที่มีทักษะ AI เพิ่มขึ้น หากมีความสามารถการสื่อสารภาษาจีน จะได้เปรียบในในสาขาซัพพายเชนการผลิตอุตสาหกรรม 
  •  พนักงานจำนวนกว่า 80% มองการจ่ายโบนัสเป็นสวัสดิการที่จำเป็น  

เมื่อเร็วๆนี้ "โรเบิร์ต วอลเทอร์ส" บริษัทด้านการจัดหางานชั้นนำที่ได้รับความไว้วางใจทั่วโลก ได้เผยแพร่    ผลสำรวจเงินเดือนประจำปี 2568  ซึ่งเจาะลึกภาพรวมแนวโน้มเงินเดือนและตลาดการจ้างงานทั่วโลก  โดยการสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นในเดือนกันยายน 2567 โดยรวบรวมความคิดเห็นจากพนักงานและบริษัทในประเทศไทย เพื่อนำเสนอข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดการจ้างงาน ความคาดหวังต่อเงินเดือน และกลยุทธ์การรักษาพนักงานในปี 2568

นางปุณยนุช ศิริสวัสดิ์วัฒนา ผู้จัดการโรเบิร์ต วอลเทอร์ส ประจำประเทศไทย กล่าวว่าในปัจจุบัน บริษัทบางแห่งเริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาในตลาดการจ้างงาน อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีมาใช้ในวงกว้างยังมีข้อจำกัดด้านทรัพยากร โครงสร้างพื้นฐาน และทักษะพนักงาน  จากการที่ AI ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยในการทำงานมากขึ้น จึงมีผลกระทบต่อทักษะที่จำเป็นในตลาดแรงงาน ความเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้ความต้องการพนักงานที่สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ภาคบัญชีและการเงิน

ชี้ให้เห็นถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีในกระบวนการสรรหาบุคลากร โดยกล่าวว่า “ปัจจุบัน บริษัทส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงกระบวนการสรรหาให้มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลช่วยทำงานในบางขั้นตอน เช่น การประกาศรับสมัครงาน และการจัดตารางสัมภาษณ์ นอกจากนี้ การสัมภาษณ์งานแบบเสมือนจริงและการใช้การประเมินผลออนไลน์ได้กลายเป็นเรื่องปกติทั่วไป ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงผู้สมัครได้หลากหลายมากขึ้นโดยไม่มีข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ อย่างไรก็ตาม การใช้ AI ยังคงถูกใช้ในวงจำกัด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีและบริษัทจัดหางาน อย่างเช่น แพลทฟอร์มการหางานหรือบริษัทจัดหางานข้ามชาติเท่านั้น

ตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการในปี 2568

ความต้องการพนักงานในประเทศไทยคาดว่าจะสูงในหลายภาคส่วน โดยปัจจัยสำคัญที่กำหนดความต้องการ ได้แก่ การขาดแคลนทักษะและการเติบโตของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในประเทศไทยโดยตำแหน่งงานที่มีความต้องการสูง ได้แก่ ผู้จัดการโรงงานและผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ  ผู้เชี่ยวชาญด้านคุณภาพและการวิจัยและพัฒนา (R&D) 

ความต้องการเหล่านี้เด่นชัดในอุตสาหกรรมที่กำลังขยายตัว เช่น การผลิตอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) และ ยานยนต์

ในส่วนของสายงานทรัพยากรบุคคล (HR) ตำแหน่งที่ต้องทำหน้าที่บริหารคนและบริหารธุรกิจควบคู่กันไปหรือ HR Business Partner (HRBP) และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้และพัฒนา (Learning and Development) จะเป็นที่ต้องการสูง  ในส่วนของอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ (healthcare) มีความต้องการเฉพาะด้านในตำแหน่งนักการตลาดและผู้เชี่ยวชาญด้านการขาย เพื่อสนับสนุนการตลาดผลิตภัณฑ์และการขยายตลาด

ภาคการเงินมีความต้องการแรงงานเพิ่ม

ในขณะเดียวกัน ในภาคการเงินและธนาคาร  การออกใบอนุญาตธนาคารเสมือนจริง (Virtual Banking) โดยธนาคารแห่งประเทศไทยในปี 2568 จะช่วยผลักดันความต้องการบุคลากรในหลากหลายตำแหน่งในภาคการเงินและธนาคาร 

 

ในส่วนของนายจ้าง ทักษะด้านสังคมและอารมณ์ (soft Skills)ที่ถูกให้ความสำคัญมากที่สุดคือ การมีทัศนคติเชิงบวกและความยืดหยุ่น (56%) ตามมาด้วยทักษะความเป็นผู้นำและการทำงานร่วมกันเป็นทีม (51%) และทักษะการแก้ปัญหาและการคิดเชิงวิเคราะห์ (49%)

นอกจากนี้ยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นสำหรับพนักงานที่พูดภาษาจีนได้ โดยเฉพาะในสายงาน วิศวกรรม     ซัพพลายเชน และ ทรัพยากรบุคคล (HR) ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของบริษัทจีนในประเทศไทย

การดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ

ในขณะที่การแข่งขันเพื่อดึงดูดบุคลากรมีความเข้มข้นขึ้น และพนักงานจำนวนมากวางแผนที่จะเปลี่ยนงานในปี 2568 บริษัทต่าง ๆ ไม่เพียงแต่เพิ่มการจ่ายเงินเดือนที่สูงขึ้น แต่ยังลงทุนในด้านการรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กร  ด้วยสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยที่อยู่ในช่วงฟื้นตัว ทั้งนายจ้างและพนักงานต่างมีความระมัดระวัง และพยายามหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

การมอบสวัสดิการที่น่าสนใจให้กับพนักงานจะเป็นไฮไลท์สำคัญในปีหน้า โดยการเสนอสิทธิประโยชน์และโครงการที่ช่วยยกระดับความผูกพันของพนักงาน โดยนอกจากเงินเดือนแล้ว พบว่า 85% ของพนักงานมองว่า โบนัสเป็นสวัสดิการที่จำเป็น รองลงมาคือ 63% ต้องการชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่นและการทำงานทางไกล และ 60% สนใจในประกันสุขภาพที่ครอบคลุมมากขึ้น เมื่อพูดถึงสิ่งที่พนักงานต้องการจากนายจ้าง 46% ระบุว่าค่าตอบแทนและสวัสดิการที่ยอดเยี่ยม เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ตามมาด้วย เพื่อนร่วมงานที่สร้างแรงบันดาลใจและวัฒนธรรมองค์กรที่ดี (38%) และ การทำงานที่ยืดหยุ่น (34%)  พนักงานยังให้ความสนใจที่จะร่วมงานกับองค์กรที่มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมและการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมทั้งมอบความมั่นคงในงานและโอกาสเติบโตในสายอาชีพ  โดยเฉพาะในกลุ่มพนักงานรุ่นใหม่

ในปี 2568 พนักงานส่วนใหญ่กว่า 80% กำลังมองหางานใหม่แสดงถึงความต้องการการเติบโตและความก้าวหน้าในการทำงาน นอกจากนี้ 79% ของพนักงานยังมั่นใจในโอกาสการจ้างงานที่มีอยู่ ซึ่งสื่อถึงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมตลาดการจ้างงานในอนาคต

กว่า 46% ของนายจ้างระบุว่า ความคาดหวังด้านเงินเดือนและสวัสดิการเป็นปัญหาสำคัญที่สุดในการดึงดูดบุคลากร  ปัญหาอื่น ๆ ที่พบได้บ่อย ได้แก่ การขาดผู้สมัครงาน (41%) และ การขาดประสบการณ์ในอุตสาหกรรม (37%)  อย่างไรก็ตาม กว่า 50% ของนายจ้างมองว่าการแข่งขันสูงในตลาดแรงงานซึ่งเกิดจากการที่พนักงานมักมองหาโอกาสในตำแหน่งใหม่อย่างต่อเนื่อง เป็นอุปสรรคสำคัญในการรักษาบุคลากร   ปัญหาอื่นๆเพิ่มเติม ได้แก่ การขาดโอกาสเลื่อนตำแหน่งและการเติบโตในสายอาชีพที่จำกัด (38%) และ ความยากลำบากในการเสนอค่าตอบแทนและสวัสดิการที่สามารถแข่งขันได้ (34%)

“บริษัทควรมุ่งเน้นที่การปรับปรุงกระบวนการสรรหาให้มีความรวดเร็ว คล่องตัวเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้สมัครงาน พร้อมทั้งเน้นความสำคัญของการสร้างความผูกพันกับพนักงานผ่านแนวทาง   ต่าง ๆ เช่น การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมความหลากหลายและความครอบคลุม  การให้สวัสดิการที่ยืดหยุ่น  รวมถึงการจัดโปรแกรมการยกย่องชมเชยและให้รางวัลที่เหมาะสม” นางปุณยนุช กล่าว

การอัดฉีดเงินเดือนเพิ่มขึ้นสำหรับผู้สมัครที่มีประสบการณ์

ผู้สมัครที่มีทักษะที่ตรงกับงาน คาดว่าจะได้รับการปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้นสูงสุด 20% ในสายงานที่ขาดแคลนบุคลากร เช่น การจัดการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ อาจมีการปรับเงินเดือนที่เพิ่มสูงขึ้นกว่านี้   สำหรับกลุ่มที่ยังต้องการการฝึกอบรมหรือการเตรียมความพร้อมเพิ่มเติม การปรับเงินเดือนเพิ่มอาจอยู่ที่ประมาณ 15%   ในส่วนของพนักงานที่ยังคงทำงานในตำแหน่งเดิม คาดว่าจะได้รับการปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้นประมาณ 2-4% ในปี 2568

นอกจากนี้  เป็นที่น่าสนใจว่า 70% ของพนักงานต่างคาดหวังการปรับขึ้นเงินเดือนในปี 2568 ซึ่งสอดคล้องกับแผนของนายจ้างในหลายภาคส่วนกว่า 3 ใน 4 ที่มีแผนจะปรับขึ้นเงินเดือนให้พนักงานในปีหน้า