จีนผ่อนนโยบายการเงินหนุนราคาน้ำมันพุ่งกว่า 1%

จีนผ่อนนโยบายการเงินหนุนราคาน้ำมันพุ่งกว่า 1%

ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นมากกว่า 1% เนื่องจากจีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าราย ใหญ่ได้ส่งสัญญาณว่าจะเริ่มใช้มาตรการการเงินที่ผ่อนคลายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010 เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

รอยเตอร์สรายงานว่า ในวันจันทร์ (9 ธ.ค.) ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ 72.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ หรือ 1.74% ปิดที่ 68.37 ดอลลาร์

“การผ่อนคลายนโยบายการเงินในจีนน่าจะเป็นปัจจัยผลักดัน ให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนความรู้สึกเสี่ยง” จิโอ วานนี สเตาโนโว นักวิเคราะห์บริษัทให้บริการทางการเงิน UBS กล่าว

การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนสะดุดลง เนื่องจากตลาด อสังหาริมทรัพย์ที่พังทลายส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและ การบริโภค

  การชะลอตัวของจีนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้กลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน โอเปกพลัส (OPEC+) ตัดสินใจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เลื่อนแผนการเพิ่มกำลังการผลิตออกไปจนถึงเดือนเมษายนปี หน้า

จีนจะการดำเนินนโยบายการเงินแบบ “ผ่อนคลายปานกลาง” ตามรายงานอย่างเป็นทางการจากการประชุมของเจ้าหน้าที่ ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นข้อความเดียวกับที่เคย ถูกประกาศครั้งสุดท้ายในปี 2010 ขณะจีนพิจารณามาตรการ สนับสนุนการฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลก

“อย่างไรก็ตาม การประกาศดังกล่าวมีรายละเอียดไม่มาก นัก” ทามาส วาร์กา จากบริษัทนายหน้าค้าน้ำมัน PVM กล่าว พร้อมเสริมว่า การสนับสนุนราคาที่เชื่อถือได้ในรูปแบบของ ความต้องการน้ำมันของจีนที่ฟื้นคืนมาจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของผู้บริโภคดีขึ้นเท่านั้น

นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนหลังจากการล่มสลายของ ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรียก็ช่วยหนุนราคา น้ำมันดิบเช่นกัน

กลุ่มกบฏซีเรียประกาศทางโทรทัศน์ของรัฐเมื่อวันอาทิตย์(8 ธ.ค.)ว่าพวกเขาได้โค่นล้มอัสซาดแล้ว ยุติเผด็จการที่ครอง อำนาจมามากกว่า 50 ปีด้วยการบุกโจมตีแบบสายฟ้าแลบ ซึ่งทำให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดความไม่มั่นคงระลอกใหม่ใน ภูมิภาคที่เคยเผชิญกับสงครามมาก่อน

 “สถานการณ์ในซีเรียได้เพิ่มความไม่แน่นอนทางการเมืองใน ตะวันออกกลางอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งช่วยหนุนตลาดนำ้มันได้บ้าง” โทโมมิชิ อากูตะ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากบริษัทวิจัยและที่ ปรึกษา Mitsubishi UFJ Research and Consulting กล่าว

“อย่างไรก็ตาม การปรับลดราคาน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย และการขยายเวลาการลดการผลิตของกลุ่ม OPEC+ เมื่อ สัปดาห์ที่แล้ว ตอกย้ำถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอจากจีน ซึ่งบ่งชี้ว่า ตลาดอาจอ่อนตัวลงในช่วงปลายปี” เขากล่าว พร้อมตั้งข้อ สังเกตว่านักลงทุนกำลังเฝ้าติดตามสัญญาณเบื้องต้นว่าจะมี ผลกระทบต่อตลาดจากนโยบายด้านพลังงานและ ตะวันออกกลางที่คาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเสนอหรือไม่

นอกจากนี้ บริษัทผู้ส่งน้ำมันออกรายใหญ่ Saudi Aramco ยังได้ลดราคาน้ำมันสำหรับผู้ซื้อในเอเชียในเดือนมกราคม 2025 ลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่ต้นปี 2021 เมื่อวันอาทิตย์

นักลงทุนยังเตรียมรับมือกับสัปดาห์ที่เต็มไปด้วยข้อมูล ซึ่งรวมถึงรายงานเงินเฟ้อที่สำคัญของสหรัฐ ในวันพุธ ซึ่งจะชี้ แนวโน้มเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ