กขค.เปิดข้อมูลควบรวมธุรกิจ ปี 67 มูลค่า พุ่ง 5.9 แสนล้านบาท

กขค.เปิดข้อมูลควบรวมธุรกิจ ปี 67 มูลค่า พุ่ง 5.9 แสนล้านบาท

เลขาธิการ กขค.  เผย มูลค่าการรวมธุรกิจ ปี 2567 สูงถึง 5.9 แสนล้านบาท ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์มูลค่า สูงเป็นอันดับหนึ่ง 1.8 แสนล้านบาท ธุรกิจการแพทย์ 1.2 แสนล้านบาทและธุรกิจประกันภัย 8.8 หมื่นล้านบาท

นายวิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.)เปิดเผยว่า   พ.ร.บ. การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 บัญญัติให้ผู้ประกอบธุรกิจที่รวมธุรกิจอันอาจก่อให้เกิดการลดการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญต้องแจ้งผลการรวมธุรกิจต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่รวมธุรกิจและผู้ประกอบธุรกิจที่จะดำเนินการรวมธุรกิจอันอาจก่อให้เกิดการผูกขาดหรือการเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาดต้องได้รับอนุญาตจาก กขค. ก่อน

ดังนั้น ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องศึกษาทำความเข้าใจก่อนการรวมธุรกิจเพื่อไม่ให้ทำผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว

ทั้งนี้ในปี 2567  มีการควบรวมธุรกิจมากถึง 147 เรื่อง และขออนุญาตการรวมธุรกิจ 16 เรื่องมูลค่าการรวมธุรกิจสูงถึง 5.9 แสนล้านบาท 

"ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ควบรวมธุรกิจเป็นอันดับหนึ่งมูลค่า  1.8 แสนล้านบาท ธุรกิจการแพทย์ 1.2 แสนล้านบาทและธุรกิจประกันภัย 8.8 หมื่นล้านบาท โดยมูลค่าการรวมธุรกิจในปี  67   มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 2 แสนล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีก จากทิศทางการปรับตัวทางการค้าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ"นายวิษณุ กล่าว

กขค.เปิดข้อมูลควบรวมธุรกิจ ปี 67 มูลค่า พุ่ง 5.9 แสนล้านบาท

ส่วนเรื่องร้องเรียนปี 67  มีทั้งสิ้น 34 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นการใช้อำนาจเหนือตลาดอย่างไม่เป็นธรรม และการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม หากรวมเรื่องร้องเรียนตั้งแต่ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ตั้งแต่เริ่มใช้บังคับจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 211 เรื่อง แบ่งตามพฤติกรรมการกระทำความผิด เป็นการใช้อำนาจเหนือตลาดอย่างไม่เป็นธรรม 64 เรื่อง การตกลงร่วมกัน 17 เรื่อง กรณีอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาตรวมธุรกิจ 1 เรื่อง และการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม สูงถึง 129 เรื่อง

นายวิษณุ กล่าวว่า  กขค. ได้กำกับดูแลเชิงโครงสร้าง โดยออกหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการรวมธุรกิจ พิจารณาอนุญาตรวมธุรกิจโดยคำนึงถึงความจำเป็นตามควรทางธุรกิจประโยชน์ต่อการส่งเสริมการประกอบธุรกิจ การไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้างแรง และไม่กระทบต่อประโยชน์สำคัญของผู้บริโภคส่วนรวม รวมทั้งมีอำนาจในการตรวจสอบธุรกรรมการรวมธุรกิจที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อส่งเสริมให้ระบบเศรษฐกิจมีโครงสร้างตลาดที่เอื้อต่อการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบธุรกิจทุกราย

นายวิษณุ กล่าวว่า ช่วงนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายสำหรับการเปิดรับสมัครเข้ารับการคัดเลือกเพื่อเสนอชื่อเป็นกรรมการใน กขค. จำนวน 3 คน แทน กขค. ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง จึงขอเชิญชวนผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี แต่ไม่เกิน 70 ปี สามารถปฏิบัติงานได้เต็มเวลา โดยมีความรู้ ความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์ไม่น้อยกว่า 10 ปี ในสาขานิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเงิน การบัญชี อุตสาหกรรม
การบริหารธุรกิจ การคุ้มครองผู้บริโภค และในสาขาอื่น อันจะเป็นประโยชน์ต่อการกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้า

สามารถสมัครได้ตั้งแต่ บัดนี้ ถึง วันศุกร์ที่ 3 ม.ค. 2568 ในวันและเวลาราชการ สนใจ! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2199 5405 หรือศึกษาข้อมูลจาก https://tcct.or.th/assets/portals/1/fles/TCCrecruit2025.pdf