ไทยจะทำมาหากินอย่างไร ในยุคที่เศรษฐกิจโลกปั่นป่วน
เราจะทำมาหากินอย่างไรในยุคที่ จีนแข่งขันรุนแรง และสหรัฐปิดตลาด? บางทีอาจต้องคิด “นอกกรอบ” ตัวอย่างเช่น งานวิจัยของ Agoda สรุปว่า “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” จะทำให้ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเพิ่มอีกปีละ 4 ล้านคน และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเกือบ 7 หมื่นล้านบาทต่อปี
“ไทย” เป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มี “กฎหมายสมรสเท่าทียม” และ เป็นประเทศที่ 3 ในเอเชียต่อจากไต้หวันและเนปาล “สมรสเท่าเทียม” ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ไทยดึงดูดนักท่องเที่ยว LGBTQIA+ ทั่วโลก ซึ่งตลาดมีมูลค่าเกือบ 7 ล้านล้านบาท โดยได้แบ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ประเทศไทยจะได้รับออกเป็น
- เพิ่มรายรับจากการท่องเที่ยว 7 หมื่นล้านบาท กระจายไปยังโรงแรมที่พัก อาหารและเครื่องดื่ม การเดินทางในประเทศ ความบันเทิง หรือการแพทย์
- สร้างงานประจำเพิ่ม 152,000 ตำแหน่ง โดยที่ 76,000 ตำแหน่งจะเกิดขึ้นโดยตรงในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และ 76,000 ตำแหน่งจะกระจายไปยังภาคส่วนต่างๆ
- GDP ของไทยเพิ่มขึ้น 0.3%
Agoda บอกว่า แม้ประเทศไทยจะเป็นจุดหมายท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลกอยู่แล้ว แต่การออกกฎหมายสมรสเท่าเทียม จะยิ่งยกระดับความน่าสนใจของไทยในสายตานักท่องเที่ยว LGBTQIA+ ที่มองหาที่เที่ยวที่เปิดกว้างและต้อนรับทุกคนอย่างแท้จริง
หากจะให้ตอบคำถามว่า ประเทศไทยจะหากินอย่างไรนั้น ผมจะนึกถึงอาหารและบริการ คือการท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่เสริมด้วยเอกลักษณ์ของไทยและการเปิดกว้างของสังคมไทย เช่น การสมรสเท่าเทียม ที่กล่าวถึงข้างต้น
Soft Power จะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนภาคบริการของไทย
ปีนี้ ประเทศไทยถูกจัดอันดับที่ 40 จาก 193 ประเทศ ในเชิงของ Global Soft Power Index 2024 ซึ่งมีตัวชี้วัด 3 ด้าน คือ
- ความคุ้นเคย (Familiarity) ไทยได้คะแนน 6.8 สูงกว่า นอร์เวย์ เบลเยี่ยม ออสเตรีย สิงคโปร์ และนิวซีแลนด์
- ชื่อเสียง (Reputation) ไทยได้คะแนน 6.3 เป็นที่ 3 รองจาก สิงคโปร์ และ มาเลเซีย
- ธุรกิจและการค้า ไทยได้คะแนน 4.9 (อินเดียและบราซิล ได้คะแนน 4.6) ปัจจัยคือ: เศรษฐกิจมั่นคง ง่ายต่อการทำธุรกิจ ศักยภาพในอนาคต
- มรดกทางด้านวัฒนธรรม ไทยได้คะแนน 4.8 (นอร์เวย์และอียิปต์ ได้คะแนน 4.7) ปัจจัยคือ: ศิลปะและความบันเทิง อาหารที่โลกชอบ น่ามาท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ วัฒนธรรมที่หลากหลาย
- ผู้คนและค่านิยมของคนไทย คะแนน 4.3 (สหรัฐ 4.4 เกาหลีใต้ 4.3 จีน3.6) ลักษณะเด่นคือ ความน่าเชื่อถือ ใจกว้าง เป็นมิตร รักสนุก ให้การยอมรับและมีส่วนร่วม
- จุดอ่อนของไทยคือ การศึกษาและวิทยาศาสตร์ 2.7 ธรรมาภิบาล 2.9 และ สื่อและการสื่อสาร 3.1
สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือต่อยอดสิ่งเหล่านี้ โดยใช้ความสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ให้ผู้คนจับต้องง่าย เข้าถึงกลุ่มคนทั่วโลก ตรงนี้จะเห็นได้ว่า อาหารไทยเป็นเป็นจุดเด่น แต่เราต้องรวมถึงการขายประสบการณ์ (experience) การสัมผัส (high touch) การให้บริการที่มีคุณภาพสูง (quality service) ขอเน้นว่า แนวทางคือการให้บริการที่น่าประทับใจ และขยับขึ้นไปทำบริการที่มูลค่าสูงขึ้นเช่น และ wellness economy
จุดขายและเสน่ห์ของไทย
เมื่อกลางเดือน ก.ค.ปีนี้ บริษัทแอปเปิล ทำคลิปที่ใช้โฆษณาอุปกรณ์ของแอปเปิล โดยทำ Series ที่สนุก และเป็นประโยชน์ โดยอาศัย ตัวละคร 4 คน คือชาวอเมริกันรุ่นใหมที่ไปตั้งบริษัท SME ชื่อว่า “Apple at Work; The Underdogs” (นักธุรกิจมวยรอง) ตอนที่ถ่ายทำในประเทศไทยนั้น เรื่องคือ บริษัทเผชิญปัญหาคือ รับคำสั่งจากบริษัทยักษ์ใหญ่ ให้ผลิตกล่อง สำหรับบรรจุสินค้าอย่างเร่งด่วน 500,000 กล่อง ทำให้เกิดความอลเวงในบริษัท เพราะไม่รู้ว่าจะหาผู้ผลิต กล่อง 500,000 กล่องนี้ได้อย่างทันท่วงทีในระยะเวลาอันสั้นได้อย่างไร
ในที่สุด ทั้ง 4 คนก็ตกลงว่า ต้องเดินทางมาใช้บริการของประเทศไทยอย่างเร่งรีบ ต้องขึ้นรถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก ขึ้นเรือ รถไฟ ในที่สุด ก็มีบริษัทไทยที่ตอบสนองได้ แต่ซ้ำร้าย ต่อมา บริษัทขนาดใหญ่ บอกว่า ต้องเพิ่ม จาก 500,000 กล่องเป็น หนึ่งล้านกล่อง ปรากฏว่า คนไทยช่วยเขาติดต่อ หาแหล่งผลิตและผลิตให้ได้ทันเวลาสำเร็จตามความต้องการทุกประการ และแม้ว่าจะเป็นการผจญภัย พบอุปสรรคมากมาย แต่ก็ได้มาท่องเที่ยวในประเทศไทย สนุก ได้กินอาหารอร่อย ได้ประสบการณ์ที่ดี และที่สำคัญ ได้รับความช่วยเหลือ และการต้อนรับที่อบอุ่นจากคนไทย
ผมคิดว่า คลิปนี้ เป็นการประชาสัมพันธ์จุดแข็งของประเทศไทยได้อย่างดีเยี่ยม ประเทศไทย “ทำได้” เป็นที่ ที่นักธุรกิจ พึ่งพาได้ ไม่ผิดหวัง และยังสามารถ ท่องเที่ยว และได้รับความเพลิดเพลิน ตลอดเวลาที่อยู่ในประเทศไทย
ต่อมา มีกระแสต่อต้าน แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับคลิปนี้อย่างมาก โดยตำหนิว่า ทำให้ประเทศไทยดูล้าหลัง ตึกโรงแรมเก่าฯ ไม่สวย รถแท็กซี่ รถไฟ เป็นรุ่นเก่า ไม่ได้ถ่ายทำให้เห็น ศูนย์การค้าสุดหรู และโรงแรม 6 ดาวของไทย แอปเปิลจึงเพิกถอนคลิปนี้ และกล่าวขอโทษประเทศไทย โดยอธิบายว่า “เราเพียงแต่ต้องการสรรเสริญ การมองโลกในแง่ดีและขนบธรรมเนียมประเพณีของไทย”
แต่ผมมองว่า เป็นการ สะท้อนการใช้ชีวิต การผจญภัยที่แปลกใหม่ และสนุก ไม่เหมือนใคร ที่หาได้เฉพาะในประเทศไทย การที่อุตสาหกรรมของไทย และคนไทย สามารถตอบสนองความต้องการของนักธุรกิจ แบบเฉพาะเจาะจง อย่างที่ไม่มีประเทศอื่นใดตอบสนองได้ คือจุดแข็งของไทย ประเทศที่ สนุก มีเสน่ห์ และ Success คือให้ความสำเร็จ
บริษัทแอปเปิล สามารถที่จะเลือกประเทศไหนก็ได้ เพื่อทำคลิปนี้ เลือก เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ หรือ เวียดนาม ก็ได้ แต่เขาเลือกประเทศไทย ว่าเป็นประเทศที่ตอบสนองความต้องการของนักธุรกิจแล้วยังทำให้นักธุรกิจของเขาได้รับประสบการณ์ดีๆ นี่แหละคือจุดแข็งของประเทศไทย ที่แอปเปิลโฆษณาให้เรา ฟรี ฟรี แต่เสียดายที่เรากลับไปต่อว่าเขา
ความหรูหรา ความทันสมัย ความยิ่งใหญ่ ทางด้านเทคโนโลยีนั้น คนอื่นมีมากกว่าเราอยู่แล้ว จีนโดดเด่นกว่าเรา สิงคโปร์โดดเด่นกว่าเรา เราจะคิดไปแข่งขันกับเขาทำไม เพราะ เพราะไม่ใช่จุดแข็งของเรา