'สรรพากร' เร่งมาตรการดึงบุคคล-ผู้ประกอบการ เข้าระบบภาษี

นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้ในช่วง 3 เดือนแรกชองปีงบประมาณ พ.ศ.2568 (เดือนต.ค.-ธ.ค.2567) อยู่ที่ 4.7 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 4 พันล้านบาท โดยเป็นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สูงขึ้น จากการบริโภคในประเทศ ขณะที่เก็บภาษีได้น้อยลงจากภาษีนำเข้า 2 พันล้านบาทต่อเดือน และภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี หรือ ภ.ง.ด.51 ลดลง 4 พันล้านบาท 

ทั้งนี้ ยังมองว่าการจัดเก็บรายได้ของ กรมสรรพากร จะยังเป็นไปตามเป้าหมายจนถึงไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ หรือช่วงเดือน ม.ค-มี.ค.2568 ซึ่งเป็นฤดูกาลในการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 

 

ขณะที่ในช่วงเดือน พ.ค.2568 จะมีความท้าทายในการจัดเก็บภาษีให้เป็นไปตามเป้า เนื่องจากเป็นการยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี หรือ ภ.ง.ด.51 ที่สะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมา ซึ่งธุรกิจบางภาคส่วนยังขยายตัวได้ไม่ดีนัก

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2568 สรรพากร มีเป้าหมายในการจัดเก็บรายได้ที่ 2.3725 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 5% โดยกรมสรรพากรจะพยายามทำให้เป็นไปตามเป้าหมาย 
 

สำหรับการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรมสรรพากรจะมีการดำเนินการในเชิงรุก ในการจัดกำลังคนให้พร้อมรับการตรวจวิเคราะห์ข้อมูล โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มกิจการซื้อมาขายไป ผู้ค้าออนไลน์ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และอินฟลูเอนเซอร์ จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนยื่นแบบภาษีเงินได้ตามจริง โดยหากตรวจพบในภายหลัง จะมีบทลงโทษสำหรับบุลคลที่มีเจตนาไม่เสียภาษี จะมีทั้งโทษปรับ 2 เท่าของภาษี และมีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี 

ทั้งนี้ ในปีภาษี 2566 มีผู้มีรายได้บุคคลธรรมยื่นแบบภาษีจำนวนรวม 11 ล้านคน โดยเป็นการขอคืนภาษีราว 4 ล้านคน คิดเป็นวงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ส่วนอีก 7 ล้านคน เป็นผู้ไม่มีภาระภาษีหรือต้องชำระภาษีเพิ่ม โดยสรรพากรจะเร่งดำเนินการคืนภาษีให้เร็วที่สุดผ่านระบบออนไลน์ 

จูงใจผู้ประกอบการเข้าระบบ

นายปิ่นสาย กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการลดหย่อนภาษี  Easy E-Receipt 2.0 สำหรับปีภาษี 2568ที่จะเริ่มในวันที่ 16 ม.ค.-28 ก.พ.2568 กรมสรรพากรได้เตรียมประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และร้านค้า OTOP ให้ลงทะเบียนเข้าระบบการออก E-Tax Invoice เพื่อจะได้มีสิทธิเข้าร่วมประโยชน์ในการมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในครั้งนี้ 

โดยผู้ประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านระบบดิจิทัล ทั้งบริการซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ ในการหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ทั้งยังทำให้สะดวกต่อการยื่นแบบภาษีและไม่ต้องเก็บเอกสารที่เป็นกระดาษอีก