ทองคำร่วง ดอลลาร์แข็งหลังเฟดคงดอกเบี้ย

ทองคำร่วง ดอลลาร์แข็งหลังเฟดคงดอกเบี้ย

ราคาทองคำร่วงลงในวันพุธ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยตามที่คาดการณ์ไว้ และไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

รอยเตอร์ส รายงานภาวะตลาดทองคำโลกวันพุธ (29 ม.ค.) ว่า ราคาทองคำในตลาดสปอต (Spot Gold) ร่วงลง 0.4% สู่ระดับ 2,753.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 14.56 น.ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (19.56 GMT) ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) สูงขึ้น 0.1% สู่ระดับ 2,779.80 ดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทองคำตลาดล่วงหน้าห่างกับทองคำในตลาดซื้อขายทันทีมากยิ่งขึ้น

 

 

ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.3% ทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น ทำให้ทองคำที่ไม่มีอัตราผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยน่าสนใจน้อยลง

“ตลาดสินทรัพย์ผันผวนเล็กน้อย หลังจากแถลงการณ์ดังกล่าวมีท่าทีแข็งกร้าวมากกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย โดยทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย” ไท หว่อง ผู้ค้าโลหะมีค่า อิสระกล่าว

เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ และแทบไม่มีข้อมูลว่าจะมีการลดต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มเติมเมื่อใดในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่เหนือเป้าหมาย การเติบโตของเศรษฐกิจยังคงดำเนินต่อไป และอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ

การตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้นได้รับการคาดหวังอย่างกว้างขวางหลังจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสามครั้งติดต่อกันในปี 2024 ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของเฟดลดลงถึง 1% เต็ม

“น่าจะเป็นการยืนยันถึงความเป็นอิสระของเฟดในระดับหนึ่ง ในขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้อัตราดอกเบี้ยลดลง” ปีเตอร์ แกรนท์ รองประธานและนักกลยุทธ์อาวุโสด้านโลหะของ Zaner Metals กล่าว

“แต่ผมคิดว่าแนวทางนโยบายยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ดังนั้นในแง่นั้น การหยุดลดอัตราดอกเบี้ยอาจจะคงอยู่จนถึงกลางปี” แกรนท์กล่าวเสริม

หลังจากการเปิดเผยแถลงการณ์ของธนาคารกลาง สัญญาซื้อขายล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนคาดว่า เฟดจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จนถึงเดือนมิถุนายน

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะบอกว่านโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะมีผลอย่างไร และธนาคารกลางจะใช้เวลาในการประเมินว่านโยบายของรัฐบาลชุดใหม่มีความหมายอย่างไร

ราคาทองคำเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากทรัมป์เรียกร้องให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ราคาทองคำแท่งมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นสูงในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากทองคำไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย