ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น ท่ามกลางความกังวลภาษีทรัมป์

ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น ท่ามกลางความกังวลภาษีทรัมป์

ราคาทองคำพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดตลอดกาลในวันพฤหัสบดี ซึ่งเกิดจากความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากนักลงทุนกังวลเรื่องภาษีศุลกากรของสหรัฐ และยังเฝ้าติดตามรายงานเงินเฟ้อที่สำคัญเพื่อประเมินแนวทางนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)

รอยเตอร์ส รายงานภาวะตลาดทองคำโลกในวันพฤหัสบดี (30 ม.ค.)ว่า ราคาทองคำในตลาดสปอต (Spot Gold) พุ่งขึ้น 1.3% อยู่ที่ 2,794.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 13.57 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (18.57 GMT) หลังราคาแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,798.24 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน ราคาทองคำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐ(Gold Futures) เพิ่มสูงขึ้น 1.8% อยู่ที่ 2,845.20 ดอลลาร์

จิม ไวคอฟฟ์ นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Kitco Metals บริษัทผู้ค้าโลหะมีค่า กล่าวว่า “เรามองเห็นความไม่แน่นอนและความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับนโยบายการค้าและนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลทรัมป์ ... การซื้อขายทางเทคนิคใหม่กำลังเข้ามา เนื่องจากราคาทองคำและโลหะเงินมีแนวโน้มสูงขึ้นในขณะนี้”

เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ทำเนียบขาวกล่าวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ วางแผนที่จะขึ้นภาษีศุลกากรในเม็กซิโกและแคนาดาในวันเสาร์ และกำลังพิจารณาขึ้นภาษีศุลกากรบางส่วนกับจีนด้วย

ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.2% ทำให้ราคาทองคำถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน

“ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากนักลงทุนกำลังมองหาที่หลบภัยเพื่อฝ่ามรสุมแห่งความไม่แน่นอน” ซูซานนาห์ สตรีเตอร์ หัวหน้าฝ่ายการเงินและตลาดของกองทุน Hargreaves Lansdown กล่าว

เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในวันพุธ ซึ่งสอดคล้องกับที่คาดไว้ โดยประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่าจะไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก

ขณะที่ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐชะลอตัวในไตรมาสที่ 4 แต่บรรดานักวิเคราะห์คาดว่าอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งน่าจะทำให้เฟดยังคงเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างช้าๆ

ขณะนี้ นักลงทุนกำลังรอรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐประจำเดือนธันวาคมในวันศุกร์

ด้านสมาคมตลาดทองคำแห่งลอนดอน(London Bullion Market Association) ระบุว่า ตลาดทองคำของสหรัฐมีการซื้อขายที่ระดับพรีเมี่ยมนับตั้งแต่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อไม่นานนี้ และเสริมว่าทางสมาคมฯได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ CME Group และทางการของสหรัฐเพื่อติดตามแนวโน้มดังกล่าว

ราคาโลหะเงินพุ่งขึ้น 2.5% อยู่ที่ 31.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ไวคอฟฟ์ กล่าวเสริมว่า “ผมคิดว่าตลาดแพลตตินัมและแพลเลเดียมกำลังได้รับผลประโยชน์จากการซื้อทองคำและเงินที่พุ่งสูงขึ้น และนั่นคือสิ่งที่ผลักดันให้ตลาดเหล่านี้ปรับตัวสูงขึ้น”

แพลตตินัมพุ่งขึ้น 2.5% อยู่ที่ 970.15 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมพุ่งขึ้น 2.6% อยู่ที่ 987.25 ดอลลาร์