'สหรัฐ' สั่งปลดพนักงาน USAID แล้วกว่า 1,600 คน พร้อมพักงานระดับผู้บริหาร

รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า (23 ก.พ.) ว่า ได้สั่งบุคลากรทั้งหมดในหน่วยงานช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐ หรือ USAID ซึ่งรวมถึงระดับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำคัญ ให้พักงาน (แต่ยังได้รับเงินเดือน) และปลดพนักงานในหน่วยงานแล้วกว่า 1,600 ตำแหน่งในสหรัฐ

กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ของมหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ ได้พยายามปฏิรูปหน่วยงานระหว่างประเทศของสหรัฐ ซึ่งเป็นเครื่องจักรหลักที่ส่งมอบความช่วยเหลือต่างชาติ และเป็นเครื่องมือซอฟต์พาวเวอร์สำคัญที่ช่วยขยายอิทธิพลสหรัฐในต่างประเทศ

อีเมลที่ส่งไปยังพนักงานคนหนึ่งที่ถูกปลดออก ระบุว่า “ขอแสดงความเสียใจที่ต้องแจ้งว่าคุณได้รับผลกระทบจากการบังคับลดจำนวนพนักงาน” ซึ่งใครก็ตามที่ได้รับอีเมลนี้ จะถูกปลดออกจากรัฐบาลกลาง โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. เป็นต้นไป

ในเว็บไซต์ USAID ระบุก่อนเวลาเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ ตามเวลาตะวันออกสหรัฐ ว่า การจ้างงานโดยตรง ยกเว้นการจ้างงานเจ้าหน้าตำแหน่งสำคัญ จะต้องพักงาน และเตรียมปลดพนักงาน 1,600 คนในสหรัฐ ขณะที่อีเมลที่ส่งถึงพนักงานก่อนหน้านี้ระบุว่า จะมีการปลดพนักงานในสหรัฐ 2,000 คน

ด้านทำเนียบขาวยังไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เมื่อรอยเตอร์ติดต่อไป

อดีตเจ้าหน้า USAID 2 ราย คาดว่า พนักงานของหน่วยงานราว 4,600 คน ส่วนใหญ่ที่เป็นข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ต่างประเทศของสหรัฐ อาจถูกพักงาน

มาร์เชีย หว่อง หนึ่งในอดีตเจ้าหน้าที่ USAID กล่าวว่า รัฐบาลและรัฐมนตรีต่างประเทศ (มาร์โก) รูบิโอ คิดอะไรตื้นๆ เกี่ยวกับการลดขีดความสามารถของความเชี่ยวชาญและการตอบสนองต่อวิกฤติสำคัญในสหรัฐ และยกตัวอย่างว่า เมื่อเกิดการแพร่ระบาดโรคร้าย ประชากรต้องอพยพ ผู้เชี่ยวชาญจาก USAID จะลงพื้นที่และถูกส่งไปช่วยเหลือและรักษาเสถียรภาพเป็นกลุ่มแรกๆ

หลังจากทรัมป์ รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ก็ได้สั่งระงับการช่วยเหลือต่างประเทศเป็นเวลา 90 วัน ทำให้เงินทุนโครงการต่างๆ ตั้งแต่โครงการต่อสู้กับความอดอยากและโรคร้าย ไปจนถึงโครงการให้ที่หลบภัยกับผู้คนนับล้านที่พลัดถิ่นทั่วโลกต้องถูกระงับ แต่มีการยกเว้นระงับเงินทุน 5,300 ล้านดอลลาร์ ที่ส่วนใหญ่ไว้ใช้ในโครงการความมั่นคงและต่อต้านยาเสพติด

ทั้งนี้ โครงการใน USAID มีเงินทุนที่ยังไม่ถูกระงับน้อยกว่า 100 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเงินทุน 40,000 ล้านดอลลาร์ที่ได้รับต่อปี

 

อ้างอิง: Reuters