เผ่าภูมิขอโทษปม 'คนไม่ฉลาด' รับสื่อสารพลาด ย้ำเศรษฐกิจไทยแกร่ง

เผ่าภูมิขอโทษปม 'คนไม่ฉลาด' รับสื่อสารพลาด ย้ำเศรษฐกิจไทยแกร่ง

เผ่าภูมิยอมรับ คำพูดเมื่อวานนี้สื่อสารสั้นเกินไป ยันไม่ได้ดูถูกนักลงทุน แต่อธิบายว่าภาวะตลาดหุ้นไทยไม่สะท้อนพื้นฐานเศรษฐกิจ ยันพื้นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแข็งแกร่ง

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นที่พูดเมื่อวานนี้ (4 มี.ค.)ว่า เจตนารมณ์ไม่ได้ต้องการวิพากษ์วิจารณ์นักลงทุน แต่ต้องการสื่อสารเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยระบุว่า จำเป็นต้องชี้แจงสองประเด็นหลัก ได้แก่ การสื่อสารที่สั้นเกินไป และการที่ตลาดหุ้นไม่สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจที่แท้จริง

ซึ่งกระทรวงการคลังมีหน้าที่บริหารเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนด้วยข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง

โดยสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้มีปัญหา 2 ประเด็น คือ

1. การสื่อสารที่สั้นเกินไป

2. เนื้อหาไม่ตรงกับเจตนารมณ์ที่ต้องการสื่อ หากเกิดความคลาดเคลื่อน ผมต้องขออภัย ผมต้องการอธิบายถึงภาวะเศรษฐกิจไทยในบริบทของตลาดหุ้น ซึ่งราคาหุ้นในปัจจุบันไม่ได้สะท้อนพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริง

ทั้งนี้กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่า GDP ไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 จะเติบโตถึง 3.4% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวรายไตรมาสที่สูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส

 

ทั้งนี้ยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น  เห็นได้จากทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2567 ที่ผ่านมา โดยพิจารณาจากตัวเลขการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) รายไตรมาสที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องดังนี้

  •  ไตรมาสที่ 1 เติบโต 1.7%  
  • ไตรมาสที่ 2 เติบโต 2.3%
  • ไตรมาสที่ 3 เติบโต 3.0%
  • ไตรมาสที่ 4 เติบโต 3.2%

โดย GDP ไตรมาสที่ 4 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 9 ไตรมาส และการลงทุนภาครัฐโตสูงสุดในรอบ 36 ไตรมาส ขณะที่ภาคส่งออกกลับมาเติบโตดีขึ้น

 

"การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทยไม่ได้สะท้อนพื้นฐานเศรษฐกิจที่แท้จริง แต่ได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ทั้งความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังมีโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงของระบบการค้าโลก และยังไม่ถูกกระทบอย่างรุนแรงเหมือนประเทศอื่น ๆ"นายเผ่าภูมิ กล่าว

 

เตรียมแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 ไตรมาสปี68 

นายเผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า กระทรวงการคลังเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในแต่ละไตรมาสเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทย

  • ไตรมาสที่ 1 ออกมาตรการลดหย่อนภาษี การแจกเงินหมื่นให้กับกลุ่มผู้สูงวัย และการค้ำประกันสินเชื่อรถกระบะ
  • ไตรมาสที่ 2 ยังคงมีการอัดฉีดเงินหมื่นบาทเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อรักษาโมเมนตัมการเติบโต
  •  ไตรมาสที่ 3 จะออกมาตรการปล่อยสินเชื่อชุดใหญ่ในวงกว้าง รวมถึงมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมยานยนต์
  • ไตรมาสที่ 4 มีแผนออกตราสารหนี้ดิจิทัลแอสเซ็ต เพื่อเพิ่มช่องทางการลงทุนและระดมทุนใหม่ ๆ ให้กับเศรษฐกิจไทย

นายเผ่าภูมิ ย้ำว่า แม้ตลาดหุ้นจะมีความผันผวน แต่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังคงแข็งแกร่ง รัฐบาลไม่สามารถบอกได้ว่า หุ้นน่าซื้อ หรือไม่ แต่เรามีหน้าที่ให้ข้อมูล เพื่อให้นักลงทุนมองเห็นโอกาสจากการปรับฐานของตลาดหุ้น และใช้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงในการตัดสินใจลงทุน

สำหรับปัจจัยความเสี่ยงที่ยังต้องติดตาม อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นยังมีปัจจัยที่ไม่ชัดเจน ได้แก่ สงครามการค้า ที่อาจมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งตลาดยังไม่สะท้อนปัจจัยนี้อย่างชัดเจน และ ปัจจัยทางการเมือง ในประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล นักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด