สหรัฐขึ้นภาษีป่วนเศรษฐกิจโลก ส.อ.ท. หวั่น GDP หด ท่องเที่ยวสะดุด

“ส.อ.ท.” ถกด่วนรับมือสหรัฐขึ้นภาษีไทย 36% หวั่นกระทบ GDP 1% ทันที หวั่นกระทบเศรษฐกิจโลก สินค้าราคาถูกทะลักไทย กระทบภาคท่องเที่ยว
KEY
POINTS
- ตัวเลขที่สหรัฐประกาศโดยมองว่า ไทยมีความได้เปรียบถึง 7
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ตามที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศขึ้นภาษีประเทศไทย 36% ซึ่งคิดแค่ครึ่งหนึ่งของวิธีคิดที่ทรัมป์มองว่าประเทศไทยได้เปรียบ ซึ่ง เดิมที่คณะวอร์รูม นำโดยกระทรวงพาณิชย์ และเอกชนได้ประชุมร่วมกัน และมีการแถลงข่าววานนี้ (2 เม.ย.2568) ว่าจะขึ้นระดับ 10-15%
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คณะทำงานได้รวบรวมตัวเลข และเห็นว่า ภาคเกษตรเป็นส่วนที่มีการเก็บภาษีจากสหรัฐมากกว่าที่สหรัฐเก็บจากไทยประมาณ 27% ส่วนหมวดอื่นนั้นไทยเก็บสูงกว่าในค่าเฉลี่ยอยู่ 6-7% ในขณะที่หัวเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 11% ดังนั้น จึงคิดว่าไทยจะโดนเก็บภาษีที่ 10-15%
ทั้งนี้ เมื่อตัวเลขที่สหรัฐประกาศออกมาโดยมองว่า ไทยมีความได้เปรียบถึง 72% ซึ่งก็ตกใจว่าสหรัฐคิดอย่างไร โดยสหรัฐอธิบายว่าประเทศไทยมีการเก็บภาษีที่ไม่เป็นธรรมหรือเอาเปรียบจำนวนหนึ่ง ในลักษณะกีดกันทางการค้าในรูปแบบที่ไม่ใช่ภาษี เช่น ในเรื่องของเนื้อสัตว์ สินค้าทางการเกษตร และการละเมิดสิทธิทางปัญญา อาทิ สินค้าก๊อปปี และมาจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าจำนวนมาก
“สหรัฐมองการละเมิดสิทธิทางด้านของแรงงาน โดยอาจจะใช้แรงงานที่ไม่ดีต่างๆ เป็นสิ่งที่สหรัฐอธิบาย ดังนั้น ในรายละเอียดจะต้องศึกษา ตัวเลขนี้สหรัฐเกรงใจแล้ว ยังถือว่าเป็นอัตราที่สูงแม้จะน้อยกว่าเวียดนามราว 10% ซึ่งประเทศในภูมิภาคโดนถ่วงหน้า ทั้ง มาเลเซีย บรูไน กัมพูชา ที่มากกว่าไทย มีน้อยที่สุด 10% ก็คือ สิงคโปร์ ซึ่งโดนทั่วหน้าทั้งไต้หวัน และอิสราเอล”
ทั้งนี้ ส.อ.ท. จะเรียกประชุมฉุกเฉินด่วนในวันที่ 4 เม.ย.2568 กลุ่มอุตสาหกรรม ที่ส่งสินค้าไปสหรัฐ เพื่อหารือถึงผลกระทบ และแนวทางการเตรียมรับมือ ดังนั้น วอร์รูมของภาครัฐก็จะต้องรีบเรียกประชุมด่วนกับภาคเอกชนเช่นกัน ซึ่งตอนนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างเตรียมตัวเลข และศึกษาจากคำพูดว่าวิธีการคำนวณของสหรัฐว่าใช้พื้นฐานอะไร และอะไรคือ ปัญหา และอุปสรรคที่แท้จริงมาตรการอย่างอื่นที่เราเตรียมไว้ที่ประชุมก่อนนั้นบ่งบอกให้เห็นถึงตัวเลขของเราที่ผิดหมด และส่งผลกระทบอย่างไร
ทั้งนี้ เมื่อคำนวณแบบเร็วๆ ความเสียหายเดิมหากโดนขึ้นภาษี 10-15% จะฉุด GDP ไทยระดับ 0.2-0.6% แต่เมื่อไทยโดน 37% แบบนี้ก็อาจจะฉุด GDP เป็น 1% หากยังไม่สามารถแก้ไขหรือเจรจาอะไรได้จะทำให้ยอดการส่งออกของเรากระทบแรง ทำให้ GDP ปีนี้ ของไทยต้องปรับลดลงไปกว่าที่เดิมหรืออาจจะต่ำกว่า 2% ก็ได้ ถือเป็นปัญหาใหญ่คงไม่ใช่เฉพาะการส่งออกของไทยไปสหรัฐ
ยังรวมไปถึงการค้าของโลกอาจจะชะลอตัว สินค้าที่ไทยจะส่งไปทั่วโลกด้วย ที่สำคัญสินค้าจากประเทศอื่น ที่ราคาถูกโดยเฉพาะจีนซึ่งโดนภาษีถึง 54% และเวียดนาม 46% จะเข้ามาในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้และมาในประเทศไทยด้วย สิ่งนี้เร็วเกินไปแต่คาดการณ์ว่าถ้าระยะยาวจะประสบผลกระทบแน่นอน
“สิ่งที่จะต้องเตรียมรับมือคือ สินค้าที่จะทะลักเข้ามา ไม่เช่นนั้นผู้ประกอบการในประเทศจะต้องปิดตัวลง กระทบจากเดิมที่เคยบอกว่าสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 30 อุตสาหกรรม สุดท้ายจะส่งผลกระทบต่อภาคท่องเที่ยวด้วยเพราะหากสถานการณ์เป็นแบบนี้หลายประเทศอาจจะชะลอการเดินทางลงเช่นกัน”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์