'เอกนัฏ' ควง DSI สอบสวนกลาง อายัดฝุ่นแดง ซินเคอหยวน 4.3 หมื่นตัน

'เอกนัฏ' ควง DSI สอบสวนกลาง อายัดฝุ่นแดง ซินเคอหยวน 4.3 หมื่นตัน

“เอกนัฏ” ส่งทีมสุดซอยลุยต่อ ควงดีเอสไอ สอบสวนกลาง กอ.รมน. และบก.ปทส.ยึดอายัดฝุ่นแดงโรงงานเหล็กฉาว 43,000 ตัน

นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งการให้ “ทีมตรวจการสุดซอยกระทรวงอุตสาหกรรม” ร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

\'เอกนัฏ\' ควง DSI สอบสวนกลาง อายัดฝุ่นแดง ซินเคอหยวน 4.3 หมื่นตัน

เพิ่มเติมหลังจาก เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 ตรวจพบว่า บริษัทฯ มีการลักลอบจัดเก็บฝุ่นแดงซึ่งเป็นกากอุตสาหกรรมอันตราย ปนเปื้อนโลหะหนัก ที่เกิดจากกระบวนการหลอมเหล็ก โดยกองเก็บไว้ภายในบริเวณโรงงานเป็นจำนวนมาก

นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวต่อว่า วานนี้ (3 เมษายน 2568) ทีมตรวจสุดซอยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.โรงงาน บุกเข้าตรวจสอบ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ต่อเนื่องอีกครั้ง หลังพบความผิดปกติของปริมาณฝุ่นแดง 

ซึ่งบริษัทฯ แจ้งว่าตั้งแต่ปี 2559-2565 มีเพียง 2,245 ตัน แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีการครอบครองจริง มากกว่า 43,000 ตัน มูลค่ากว่า 1.7 พันล้าน โดยหนึ่งในกรรมการบริษัทฯ อ้างว่าที่ข้อมูลตัวเลขคลาดเคลื่อนจากที่แจ้งไว้ เนื่องจากการเปลี่ยนพนักงานบันทึกข้อมูลหลายครั้ง ทำให้ไม่สามารถระบุผู้ให้ข้อมูลเดิมได้

เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง จึงได้ระงับการนำฝุ่นแดงทั้งหมดออกนอกบริเวณโรงงาน ยึดอายัดและเก็บตัวอย่างฝุ่นแดงเพื่อตรวจพิสูจน์ จนกว่าบริษัทฯ จะสามารถชี้แจงแหล่งที่มาได้อย่างชัดเจนภายในวันที่ 10 เมษายนนี้ พร้อมเตรียมเพิกถอนใบอนุญาตนำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงาน

“ข้ออ้างเรื่องความคลาดเคลื่อนของข้อมูลเนื่องจากการเปลี่ยนพนักงาน เป็นข้ออ้างที่บริษัทสีเทามักใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการชี้แจงข้อเท็จจริง และหากบริษัทฯ ไม่สามารถชี้แจงที่มาของฝุ่นแดงได้ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจะพิจารณาร่วมกับดีเอสไอ อาจรับเป็นคดีพิเศษ เพื่อให้การสะสางคดีเป็นไปอย่างรวดเร็วและเข้มงวด” นางสาวฐิติภัสร์ กล่าว