“พจน์ อร่ามวัฒนานนท์”นำทีมหอการค้า ดันเศรษฐกิจไทยเติบโตยั่งยืน

“พจน์ อร่ามวัฒนานนท์” ประธานกรรมการหอการค้าไทยคนใหม่ และเป็นคนที่ 26 รับไม้ต่อจาก”สนั่น อังอุบลกุล”ที่หมดวาระการดำรงตำแหน่ง โดย เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้แถลงข่าวเปิดนโยบายพร้อมรองประธานกรรม จำนวน  6 คน  ประกอบด้วย นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ,นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) , นายญนน์ โภคทรัพย์ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน ),

ดร.ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ บริษัท เวลส แอนด์ โกยูนิเวอร์ส จำกัด  ,ดร. กฤษณะ วจีไกรลาศ บริษัท บีเอสซี โอเปอเรชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด เป็นรองประธานกรรมการ และนายธวัชชัย เศรษฐจินดา หอการค้า จังหวัดลพบุรี  เป็นกรรมการเลขาธิการ

โดยประธานหอการค้าคนที่ 26 ถือเป็นผู้คว่ำหวอดในแวดวงเศรษฐกิจมายาวนาน สั่งสมประสบการณ์มากมาย ซึ่งได้ให้คำมั่นว่า พร้อมสานต่อการทำงานภายใต้แนวคิดของอดีตประธานหอการค้าไทยที่ผ่านมาทุกคน พร้อมชูนโยบาย“Unlocking New Growth ศักยภาพใหม่แห่งการเติบโต” ซึ่งจะเป็นยุทธศาสตร์หลักของหอการค้าไทยในการขับเคลื่อนประเทศให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก

“Unlocking New Growth ศักยภาพใหม่แห่งการเติบโต” ประกอบด้วย 4 แนวทางหลัก ที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่น ขยายโอกาสทางธุรกิจและเสริมสร้างเศรษฐกิจไทย คือ

1.  Build Business Confidence & Strengthen Trade & Investment in Global Supply Chains เสริมความเชื่อมั่นทางธุรกิจ และขับเคลื่อนการค้า การลงทุนของไทย สอดคล้องกับซัพพลายเชนโลก

2. Business Transformation: Innovation, Digital, AI, Robot, IoT & ESG Integration เร่งการเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจ และเศรษฐกิจยั่งยืน

3 . Talent Development ยกระดับศักยภาพคนไทยและสร้างเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพ เตรียมพร้อมสู่การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและเทคโนโลยีต้องการแรงงานที่มีทักษะแห่งอนาคต

4 .Empowering SMEs & Strengthening Public-Private Partnerships: ส่งเสริมสมาชิกเครือข่ายหอการค้าฯ, SMEs ให้เข้มแข็ง และเสริมสร้างความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน โดยเฉพาะเครือข่ายนานาชาติ

“ 4 แผนหลัก เพื่อเราจะ Ready for Future Transformation โดยใช้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้า แข่งขันได้ และเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้การดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยการทำงานของเราจะไม่ใช่แค่การเผชิญหน้ากับปัญหาในปัจจุบัน แต่ยังเป็นการวางรากฐานเพื่ออนาคตที่มั่นคงของเศรษฐกิจไทย ประเทศไทยต้อง “พร้อมสำหรับอนาคต ” นายพจน์ กล่าว

ขณะที่ “คีย์แมน”สำคัญที่ร่วมมาเปิดตัวพร้อมกับประธานหอการค้าคนใหม่ ได้เปิดแนวคิดทำงานเพื่อให้นโยบาย“Unlocking New Growth”เดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม

โดย ดร.ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ รองประธานกรรมการ กล่าว่า  เสาเกษตรและอาหาร  มีความสำคัญมากเพราะ มากกว่า90% เป็นธุรกิจคนไทยทั้งหมดในการผลักดัน  (Smart Farming), Future Food, Halal และการใช้เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมอาหาร และพร้อมที่จะเป็น Foods hub ของโลกขณะนี้มูลค่าส่งออกอยู่ที่ 1.9 ล้านล้านบาท คิดเป็น สัดส่วน 20% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด ในอีก5 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าว่ารายได้ส่งออกจะเพิ่มเป็น 2.5 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 25% ของมูลค่าส่งออกรวมทั้งหมด

ด้านนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร  รองประธานกรรมการ กล่าวว่า  สิ่งหนึ่งที่จะดำเนินการภายใต้การบริหารงานของกรรมการชุดใหม่คือ การพัฒนาเอสเอ็มอีในจังหวัดโดยจะสร้างแบรนด์สินค้าในจังหวัดนั้นให้เป็นที่รู้จัก โดยเบื้องต้นวางไว้ 4 จังหวัดคือ กาญจนบุรี อุบลราชธานี เชียงราย ระนอง  ซึ่งเราจะไปพัฒนาผู้ประกอบการในชุมชนนั้น เพื่อให้สร้างแบรนด์ของตนเอง โดยสินค้าที่วางไว้จะเป็นสินค้าด้านหัตกรรม เกษตรอาหาร  สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว หรือของที่ระลึก โดยทีมงานจะเข้าไปช่วยพัฒนาสินค้าและวางตลาดให้ คาดว่า น่าจะเห็นแบรนด์สินค้าในจังหวัดนำร่องภายในปีนี้ 

นายญนน์ โภคทรัพย์ รองประธานกรรมการ กล่าวว่า ในส่วนของการนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาใช้ในภาคธุรกิจนั้น ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีด้านโมบายแบงค์กิ้ถึง 85  % โดยทุกๆ 1 นาทีมีการทำธุรกรรมทางการเงินประมาณ 11,000 รายการ  เป็นการซื้อขายผ่านอีคอมเมิร์ซกว่า 15,000 ล้านบาท  ส่งสินค้า 6-7 ล้านชิ้นต่อวัน แต่ในการซื้อขายนี้ 1 ใน 3 เป็นสินค้าไทย ดังนั้นเราต้องควรสนับสนุนธุรกิจของคนไทยเข้ามาใช้เทคโนโลยีอีคอมมิร์ซ โดยต้องวางรากฐานทั้งปัจจุบันและอนาคต เพราะปัจจุบันดิจิทัลเทคโนโลยีมีการนำมาใช้ในหลายรูปแบบไม่เฉพาะการทำอีคอมเมิร์ซเพียงอย่างเดียว ดังนั้นจำเป็นต้องนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาใช้ในภาคธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจ

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการนำเสนอแนวทางการทำงานของคีย์แมนสำคัญ เพื่อต่อยอดนโยบาย“Unlocking New Growth ศักยภาพใหม่แห่งการเติบโต”

สุดท้าย ประธานหอการค้าไทยคนที่ 26 “พจน์ อร่ามวัฒนานนท์” กล่าวว่า  “ผมขอเชิญชวนเครือข่ายหอการค้าไทย และทุกภาคส่วน มาร่วมมือกันในการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับภาคธุรกิจไทย เพราะอนาคตของประเทศ ต้องขับเคลื่อนจากพวกเราทุกคน  “Unlocking New Growth: ศักยภาพใหม่แห่งการเติบโต” เสริมสร้างศักยภาพ-เปิดโอกาสธุรกิจ-พลิกวิกฤตให้เศรษฐกิจเดินหน้า”