'พิชัย' แจงเหตุหุ้นไทยตกหนัก วอนนักลงทุนอย่าตกใจให้มองพื้นฐาน

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงสถานการณ์หุ้นไทยในวันที่ 8 เม.ย.2568 ที่ปิดตัวลบลงมากว่า 50 จุด

หากเราไปแกะเส้นทางการเงินดูในขณะนี้จะเห็นว่าดัชนีหุ้นที่ปรับลงมาจากการที่นักลงทุนขายหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯซึ่งนักลงทุนมักจะมีการเข้าไปซื้อเพื่อลงทุนในภาวะที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน 

ซึ่งการที่พันธบัตรสหรัฐฯมีการเข้าซื้อของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันมากขึ้นก็จะทำให้ยีลด์ของพันธบัตรลดลง ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่รัฐบาลสหรัฐฯจะต้องจ่ายลดลง เท่ากับสหรัฐฯสามารถลดหนี้ได้ และต้นทุนทางการเงินในการกู้ยืมของสหรัฐฯก็จะลดลงด้วย

เมื่อถามว่าจะมีการขยายระยะเวลาห้ามช็อตเซลล์ตลาดหุ้นออกไปหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่าคงไม่มีการขยายระยะเวลาออกไปเพราะว่าในการตัดสินออกมาตรการให้มีผลในวันนี้ (8 เม.ย.) นั้นก็ต้องใช้ความกล้าหาญในการตัดสินใจของตนเองมาก

เพราะว่าในส่วนนี้ปกติซ็อตเซลล์นั้นเป็นเครื่องมือที่จะใช้ในภาวะที่มีประสิทธิภาพ แต่ตอนนี้เห็นจากประเทศอื่นๆที่ดัชนีปรับลดลงอย่างมากจึงออกมาตรการชั่วคราวก่อนเพื่อให้ดัชนีไม่ถูกช็อตจากนักลงทุนที่จะเล่นหุ้นในขาลง แต่เราจะใช้มาตรการนี้แค่ 4 วัน ส่วนเรื่องระดับราคาก็มีการปรับเพดานและฟลอร์ของหุ้น ซึ่งในตอนนี้ก็ต้องการให้นักลงทุนไม่ตกใจจนเกินไป แล้วคิดว่าหุ้นที่เราถือนั้นดีอยู่หรือไม่ 

“ตอนนี้มาตรการที่ออกมาก็พยายามให้นักลงทุนได้คิด พยายามบอก อย่าตกใจ อย่าตกใจ ดูเรื่องพื้นฐานอย่างเดียว” นายพิชัย กล่าว 

เมื่อถามว่าจำเป็นต้องมีมาตรการอื่นเสริมหรือไม่ เช่น การลดดอกเบี้ยนโยบาย นั้น นายพิชัย กล่าวว่า การลดดอกเบี้ยนโยบายของไทย พึ่งพิง 2 ปัจจัย คือ ดูเรื่องเงินเฟ้อและดูเรื่องความเสี่ยงของการลงทุน และความปลอดภัยของสถาบันการเงิน แต่สิ่งสำคัญเรื่องดอกเบี้ยต้องดูที่ทิศทางการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ซึ่งเดาใจว่า สหรัฐอยากเห็นดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งในอัตราดอกเบี้ยของไทยก็ต้องทำให้สอดคล้องกับของโลกก็อาจจะปรับลงได้หากสหรัฐฯมีการปรับดอกเบี้ยลงมากๆ 

ส่วนอาจจะมีบางอุตสาหกรรมที่อาจชะลอการลงทุนในไทยนั้น นายพิชัย ยอมรับว่า คนที่จะลงทุนนอกประเทศ อาจจะขอหยุดหายใจคิดก่อน เพราะช่วงนี้ฝุ่นตลบ ต้องคิดว่า ควรจะลงทุนในไทยดีหรือไม่ หรือลงทุนในประเทศตัวเอง หรือลงทุนในสหรัฐ ต้องคิดจนตกผลึกก่อน