ส่องฟาร์มงูเห่า บ้านใหญ่ท้ารบ "อุ๊งอิ๊ง" แม่เหล็กไร้พลัง

ส่องฟาร์มงูเห่า บ้านใหญ่ท้ารบ "อุ๊งอิ๊ง" แม่เหล็กไร้พลัง

7 งูเห่าเพื่อไทยสะท้อน "อุ๊งอิ๊ง" บารมีไม่ถึง ดึงคนเก่าไว้ไม่ได้ แบรนด์ทักษิณไม่ขลังเหมือนเดิม ย้อนยุคสองนคราประชาธิปไตยรูปแบบใหม่

พ.ศ.นี้ ภูมิทัศน์การเมืองเปลี่ยน คิดใหม่ทำใหม่แบบทักษิณ มีคู่แข่งทั้งก้าวหน้าแบบก้าวไกล อิสระแบบชัชชาติ ได้กลายเป็นทางเลือกใหม่ อีกด้านหนึ่ง ระบอบบ้านใหญ่กลับเติบโตภายใต้ 8 ปี อำนาจนิยม 

ก่อนศึกงบประมาณ 2566 พรรคเพื่อไทยประกาศโหวตคว่ำงบประมาณฯ หวังเปลี่ยนรัฐบาล ผสมโรงกับการเคลื่อนไหวของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และกลุ่ม 16 ที่เป็นขั้วตัวแปร ทำให้การอภิปรายงบประมาณฯ เที่ยวนี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษ

แม้แต่ ทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังขยับจากนครดูไบ มาปักหลักที่สิงคโปร์ เพื่อเกาะติดสถานการณ์ศึกงบประมาณฯ ซึ่ง อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ก็เดินทางไปพบพ่อและอาด้วย อันเป็นเหตุให้อุ๊งอิ๊งติดโควิด และพลาดโอกาสไปพบครอบครัวเพื่อไทยที่ จ.สุรินทร์ 

ผลการโหวตร่าง พรบ.งบประมาณฯ ในวาระแรก ขั้วรัฐบาลผ่านฉลุย ด้วยการเห็นชอบ 278 เสียง ส่วนขั้วฝ่ายค้าน โหวตคว่ำ 194 เสียง และมี 7 ส.ส.พรรคเพื่อไทย โหวตสวนมติพรรค รับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ประกอบด้วย จักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี,จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ, ธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ ,ผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ, นิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก, วุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก และสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา

จะว่าไปแล้ว รายชื่อ ส.ส.ดังกล่าวนี้ ก็เป็นที่รับรู้ในหมู่แกนนำเพื่อไทยมาระยะหนึ่งแล้วว่า เตรียมจะไปร่วมงานกับพรรคอื่นในการเลือกตั้งครั้งหน้า มีเพียง สุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมาคนเดียว ที่เพิ่งมาชัดเจนในการลงมติครั้งนี้ 

เมื่อข่าว 7 งูเห่าแพร่สะพัด ทำให้พรรคเพื่อไทยเสียศูนย์ คนแดนไกลพลอยเสียหน้า ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จึงต้องมีมาตรการจัดการ ส.ส.ที่กระทำการขัดต่อข้อบังคับพรรค และอาจถึงขั้นต้องดำเนินการขับ ส.ส.เหล่านี้

เกรียง กัลป์ตินันท์ ในฐานะแม่ทัพอีสานใต้ พรรคเพื่อไทย ออกมาแถลงว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นแบบนี้ทุกยุคทุกสมัย ส.ส.ส่วนใหญ่ที่ออกไปก็สอบตก เห็นได้จากการเลือกตั้งปี 2562 ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และสมัยหน้า สนามศรีสะเกษ ก็คงเหมือนกัน 

ส่องฟาร์มงูเห่า บ้านใหญ่ท้ารบ \"อุ๊งอิ๊ง\" แม่เหล็กไร้พลัง

คำพูดของเกรียงอาจใช้ได้กับสนามอุบลราชธานี แต่ศรีสะเกษ, บุรีรัมย์ ,สุรินทร์ และนครราชสีมา ก็อาจมีลักษณะเฉพาะ ทั้งตัว ส.ส.ที่มีความนิยมสูง และผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่ยึดติดตัวบุคคลมากกว่าพรรค

บังเอิญ 6 ใน 7 ส.ส.เพื่อไทย มีความชัดเจนแล้วว่า จะย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยสมัยหน้า คนแดนไกลจึงตั้งเป้าสลายฐานสีน้ำเงินในอีสานใต้ ด้วยการส่งอุ๊งอิ๊ง ไปเยือนสุรินทร์ และศรีสะเกษ แต่อุ๊งอิ๊งติดโควิด จึงเป็นหน้าที่ของโอ๊ค พานทองแท้ เดินทางไปพบชาวบ้านอีสานใต้แทนน้องสาว

'แม่เหล็กไร้พลัง'

จริงๆแล้ว พรรคภูมิใจไทย ก็ได้รับบทเรียนอันเจ็บแสบมาแล้ว จากเมื่อครั้งที่ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดาของอนุทิน รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นำทัพผู้สมัคร ส.ส.ลุยสมรภูมิเลือกตั้งปี 2554 

อิทธิฤทธิ์ยิ่งลักษณ์ฟีเวอร์ ส่งผลให้พรรคเพื่อไทย กวาดมาได้ 15 ล้านเสียง ได้ ส.ส.เขต 204 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 61 คน รวม 265 คน ส่วนพรรคภูมิใจไทย ได้แค่ 1 ล้านกว่าเสียง ส.ส.เขต 29 คน และบัญชีรายชื่อ 5 คน รวม 34 คน เฉพาะภาคอีสาน เพื่อไทยได้ 104 ที่นั่ง ภูมิใจไทย ได้ 13 ที่นั่ง 

ทำไม ส.ส.เพื่อไทยจำนวนหนึ่ง จึงไม่เก็บรับบทเรียนข้างต้นนี้ ตัดสินใจแหกค่ายทักษิณไปอยู่ค่ายเนวินและประเมินอุ๊งอิ๊งแลนด์สไลด์ต่ำกว่ายิ่งลักษณ์ฟีเวอร์

วันนี้ ทักษิณ วางตัวลูกสาวคนเล็ก-อุ๊งอิ๊ง เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ปูทางสู่ยุทธศาสตร์เพื่อไทยแลนด์สไลด์ ขณะที่พรรคคู่แข่งมองว่า อุ๊งอิ๊งคือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่ทักษิณก็ยังไม่ได้คิดไกลไปถึงแคนดิเดตนายกฯ 

"ต้องแล้วแต่ตัวเขาและแล้วแต่พรรคเพื่อไทย ผมคงไม่ไปชี้นำว่า ลูกต้องไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ" ซึ่งคนแดนไกลรู้ดีว่า ส.ส.เพื่อไทยรุ่นใหญ่ๆ กำลังคิดจะตีจาก จึงส่งอุ๊งอิ๊งมาการันตีว่า ศึกครั้งนี้เถ้าแก่ใหญ่เอาจริงและลูกสาวเปรียบเป็นแม่เหล็กดูด ส.ส.ไว้ ไม่ให้ย้ายไปไหน

สาเหตุที่ ส.ส.บ้านใหญ่อีสานใต้ พรรคเพื่อไทย กล้าสวนกระแสอุ๊งอิ๊งออกไปสังกัดพรรคใหม่ ไม่ใช่เรื่องแจกกล้วยเพียงอย่างเดียว หากแต่ภูมิทัศน์การเมืองเปลี่ยน พ.ศ.นี้ มีพรรคก้าวไกลขึ้นมาเป็นคู่เปรียบเทียบกับพรรคเพื่อไทยในฝ่ายเดียวกัน อุ๊งอิ๊งเลยไม่โดดเด่นเฉิดฉาย เหมือนสมัยยิ่งลักษณ์

อีกด้านหนึ่ง พรรคภูมิใจไทยยุคอนุทิน ชาญวีรกูล พยายามหาจุดขายเรื่องนโยบาย และแสวงหา ส.ส.บ้านใหญ่ คนเด่น ฐานแน่น มาเป็นตัวหลักในสนามเลือกตั้ง เพื่อสู้กับกระแสพรรคอย่างเพื่อไทย และก้าวไกล

'ระบอบบ้านใหญ่'

ส.ส.เพื่อไทย 7 คน ที่โหวตสวนมติพรรค ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.ประเภทบ้านใหญ่ใจถึง และมีฐานการเมืองท้องถิ่นที่แข็งแกร่ง

บ้านใหญ่กันทรลักษณ์ หมายถึงตระกูล "ไตรสรณกุล" ที่มี วิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ 5 สมัย(บิดาไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกรัฐบาล) เป็นแกนกลางของตระกูล สมัยก่อนคนในตระกูลไตรสรณกุล ก็เคยลงสมัคร ส.ส.ทั้งสีเสื้อเพื่อไทย และภูมิใจไทย

สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า กงสีตระกูลไตรสรณกุล ตกลงที่จะมาทำงานการเมืองในนามพรรคภูมิใจไทย จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 4 สามีอุดมลักษณ์ ไตรสรณกุล และธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 5 จึงต้องย้ายจากเพื่อไทยมาภูมิใจไทย

บ้านใหญ่ราศีไศล ก็คือตระกูล "แซ่จึง" เสี่ยปวีณ แซ่จึง เล่นการเมืองท้องถิ่นมานาน ก่อนจะลงสมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ ในนามพรรคชาติไทย ก่อนจะย้ายมาพรรคไทยรักไทย โดยสลับให้ภรรยา ผ่องศรี แซ่จึง ลงแทนบ้างบางสมัย

เสียปวีณเป็นพันธมิตรกับเสี่ยวิชิต ร่วมกันยึด อบจ.ศรีสะเกษ ไว้เป็นฐานการเมืองระดับชาติ เมื่อภูมิใจไทยต้องการให้ตระกูล "ไตรสรณกุล" เป็นแกนนำยึดเก้าอี้ ส.ส.ศรีสะเกษทั้งจังหวัด เสี่ยปวีณจึงกระโดดเข้าร่วมวงไพบูลย์ด้วย


บ้านใหญ่นครนายก ก็มีตระกูล "กิตติธเนศวร" ที่ผูกขาด ส.ส.นครนายก มาหลายสมัย เสี่ยอ๋า-วุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก เพื่อไทย น้องชายเสี่ยแหมะ-สิทธิชัย กิตติธเนศวร อดีต ส.ส.นครนายก สมัยหน้าเสี่ยอ๋า จะกลับภูมิใจไทย (เคยสังกัดภูมิใจไทย ปี 2554)

เลือกตั้งครั้งหน้า นครนายกแบ่งเป็น 2 เขต เสี่ยอ๋าจะไปลงสมัครเขต 2 (อ.บ้านนา-อ.องครักษ์) ส่วนลูกชายเสี่ยอ๋อง-ปิยวัฒน์ กิตติธเนศวร ลงสมัคร ส.ส.เขต 1 (อ.เมือง-อ.ปากพลี) ในนามพรรคภูมิใจไทย

บ้านใหญ่บางระกำ ใครก็รู้จักตระกูล "ช่างพินิจ" เจ้าของบริษัทช่างพินิจ เอ็นจิเนียริ่ง (2539) นิยม ส.ส.พิษณุโลก 4 สมัย แจ้งเกิด ส.ส.สมัยแรกจากไทยรักไทย และอยู่ค่ายทักษิณมาโดยตลอด นิยมมีฐานเสียงอยู่ใน อ.บางระกำ และ อ.บางกระทุ่ม 

ปลายปี 2563 นิยมส่งหลานสาว ยลดา ช่างพินิจ ลงสมัครนายก อบจ.พิษณุโลก ตอนแรกใช้ชื่อทีมเพื่อไทย แต่ถูกทางพรรคห้ามใช้ จึงเปลี่ยนมาเป็นทีมคนรักพิษณุโลก หลานสาวนิยมแพ้ แต่ได้ 1.4 แสนคะแนน ส่วนแชมป์เก่า มนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายก อบจ.พิษณุโลก 3 สมัย ได้ 1.8 แสนคะแนน

บ้านใหญ่แก้งสนามนาง สุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา เขต 14 พรรคเพื่อไทย เป็นชาว อ.บัวใหญ่ แต่มาแจ้งเกิดทางการเมืองเป็น ส.อบจ.นครราชสีมา เขต อ.แก้งสนามนาง 

ปี 2554  สุชาติ ภิญโญ ลงสมัคร ส.ส.เขต 6 และได้เป็น ส.ส.สมัยแรก โดยมีน้องชาย สมชาย ภิญโญ ส.อบจ.นครราชสีมา เขต อ.แก้งสนามนางสมัยโน้น เป็นกองหนุน

ปี 2562 สองพี่น้องตระกูล "ภิญโญ" ลงสนาม ส.ส.ในสีเสื้อเพื่อไทย สุชาติลงสมัครเขต 14 และสมชายลงสมัครเขต 6 ปรากฏว่า สุชาติชนะได้เป็น ส.ส.สมัยที่ 2 ส่วนสมชายปราชัยที่เขต 6   

ชั่วโมงนี้ สมชาย ภิญโญ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยคมนาคม (วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล) ลงพื้นที่กับพัชราวรรณ นรากิจพงศ์ ส.อบจ.นครราชสีมา เขต อ.แก้งสนามนาง อยู่เป็นประจำ

ดังนั้น สุชาติ ภิญโญ คงสวมเสื้อภูมิใจไทยลงสนามสมัยหน้าแน่นอน โดยมีกำนันป้อ-วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม ภูมิใจไทย เป็นแม่ทัพใหญ่โคราช

จักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี เขต 6 พรรคเพื่อไทย ทายาทประจวบ ไชยสาส์น อดีต ส.ส.อุดรฯ หลายสมัย ยังไม่ชัดเจนว่า จะย้ายไปพรรคไทยสร้างไทย หรือพรรคภูมิใจไทย 

จักรพรรดิ ในฐานะผู้ดูแลบ้านใหญ่กุมภวาปี ไม่มีความกังวลเรื่องแดงอุดรจะไล่ล่า แม้อุ๊งอิ๊งจะมาเปิดตัวหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยที่อุดรฯ แต่จักรพรรดิก็ไม่ได้ไปต้อนรับ 

หนังตัวอย่างว่าด้วยบ้านใหญ่ใจถึง ที่กล้าแตกหักกับคนแดนไกล และไม่หวั่นไหวต่อกระแสอุ๊งอิ๊ง เพราะ 7 ส.ส.งูเห่า มั่นใจระบบการจัดการเรื่องงบประมาณสร้างผลงาน และการบริหารฐานเสียงตามสไตล์บ้านใหญ่บุรีรัมย์