‘ยุโรป-อเมริกา’ ผนึกกำลังปราบ ‘ค้ามนุษย์’ ผ่านออนไลน์

สำนักงานตำรวจสากลแห่งสหภาพยุโรป หรือ Europol ได้เข้าร่วมปฏิบัติการพร้อมกับตำรวจของฝรั่งเศส โปรตุเกส และบราซิลในการดำเนินคดีกับกลุ่มอาชญากรที่เกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์

โดยในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา มีการบุกจับกุมได้ทั้งหมด 14 แห่ง จับกุมผู้ต้องหาได้ 10 ราย ของกลางที่ยึดได้ ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดไดรฟ์ โทรศัพท์มือถือมากกว่า 40 เครื่อง ซิมการ์ด เอกสาร บัตรชำระเงิน และเงินสดประมาณ 20,000 ยูโร 

ทั้งนี้ตำรวจฝรั่งเศสได้เริ่มการสอบสวนเพื่อหาเบาะแสตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยอาชญากรชาวบราซิลแก๊งนี้ส่วนใหญ่จะบังคับชาวบราซิลที่อาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส สเปน และโปรตุเกสเป็นหลักในการก่อเหตุ

เครือข่ายอาชญากรได้ใช้ประโยชน์จากเหยื่อมากกว่า 100 ราย โดยโฆษณาชวนเชื่อผ่านเว็บไซต์เฉพาะ และจัดการบัญชีออนไลน์ของเหยื่อ 

 

นอกจากนี้ยังมีการเช่าอพาร์ทเมนท์และห้องพักในโรงแรมทุกสัปดาห์เพื่อใช้สำหรับทำกิจกรรมการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ และจากการตรวจสอบพบว่ามีสถานที่ประเภทดังกล่าวเกือบ 60 แห่งทั่วประเทศฝรั่งเศส และมีการคาดการณ์ว่าเครือข่ายอาชญากรน่าจะได้รับรายได้อยู่ที่ประมาณ 120,000 ยูโรต่อเดือน เลยทีเดียว

ข้อมูลจาก Europol ดูเหมือนว่าการดำเนินการดังกล่าวจะได้รับการจัดการอย่างดี โดยผู้ต้องสงสัยเลือกใช้แผนการเงินที่ซับซ้อนเพื่อนำผลกำไรที่ได้จากประเทศฝรั่งเศสส่งผ่านไปยังธนาคารในเบลเยียม สเปน และโปรตุเกสเพื่อส่งต่อไปยังบราซิล 

ตามข้อบังคับระดับโลกกำหนดให้สถาบันการเงินต้องติดตามความเคลื่อนไหวของเงินในลักษณะนี้ ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการฟอกเงินและการกระทำที่ผิดกฎหมาย เช่น การค้ามนุษย์และการแสวงประโยชน์ทางเพศ 

อย่างไรก็ตาม ประมาณ 50% ของกิจกรรมเหล่านี้ไม่สามารถตรวจพบได้ และผู้เชี่ยวชาญด้านการธนาคารส่วนใหญ่เชื่อกันว่าการปฏิบัติตามข้อกำหนดได้กลายเป็นแบบฝึกหัดเท่านั้น 

แต่ในระหว่างนี้ ตำรวจก็ยังคงเดินหน้าปราบปรามต่อไปและมีการเปิดการสอบสวนใหม่เพิ่มอีก 15 เรื่องเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ผู้ลี้ภัยชาวยูเครน

เราจะเห็นอาชญากรทางไซเบอร์ในปัจจุบันมีรูปแบบการล่อลวงที่หลากหลายเพื่อให้เหยื่อมีความเสียหายมากขึ้นอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องร่วมมือกันทั้งในประเทศและระหว่างประเทศเพื่อเข้าจับกุมเหล่าอาชญากรเหล่านี้ซึ่งมีวิธีการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา 

การร่วมมือกันนั้นต้องอาศัยทั้งส่วนภาครัฐและภาคเอกชน โดยต้องช่วยกันสอดส่องไม่ให้อาชญากรทางไซเบอร์หาผลประโยชน์อย่างผิดกฎหมาย ขณะนี้การก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์นั้นมีการลอกเลียนแบบการโจรกรรมอยู่ทั่วโลกและอีกไม่นานคงเข้ามาสู่ประเทศไทยของเรา