เจาะประเด็น Zipmex จริงๆแล้วสินทรัพย์ดิจิทัลบนศูนย์ซื้อขายปลอดภัยแค่ไหน?

เจาะประเด็น Zipmex จริงๆแล้วสินทรัพย์ดิจิทัลบนศูนย์ซื้อขายปลอดภัยแค่ไหน?

ในวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมาทาง Zipmex Thailand ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้ใบอนุญาติจาก ก.ล.ต. นั้นได้ประกาศปิดการถอนเงินทั้งหมด พร้อมกับแจ้งผ่านทางช่องทางประชาสัมพันธ์ว่าทางบริษัทเกิดปัญหาด้านสภาพคล่องกับคู่ค้า

ก่อนระบุว่าสินทรัพย์ส่วนที่ไม่สามารถถอนได้นั้นคือสินทรัพย์ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ ZipUp ก่อนจะที่จะเปิดระบบฝากถอนในภายหลังในส่วนของ Trade Wallet อย่างไรก็ตามหลังจากเหตการณ์นี้ได้มีคำถามที่ตามมามากมายว่า แล้วสรุปสินทรัพย์ที่อย่ใน Exchange นั้นปลอดภัยแค่ไหน แล้วทำไม Zipmex Thailand ถึงสามารถเอาสินทรัพย์ของลูกค้าไปแสวงหาผลประโยชน์ได้

ทำไม Zipmex Thailand ถึงสามารถเอาสินทรัพย์ไปแสวงหาผลประโยชน์ได้

ตามหลักเกณฑ์ของ กลต. แล้วศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้ใบอนุญาติจาก กลต. นั้นจะไม่สามารถนำสินทรัพย์ของลูกค้าไปแสวงหาผลประโยชน์ได้เหมือนกับธนาคารซึ่ง Zipmex Thailand เองก็ไม่ได้รับข้อยกเว้นในจุดนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม Zipmex Thailand  นั้นได้ออก Product ที่ชื่อว่า ZipUp ขึ้นมาโดยทำให้ผู้ที่ฝากสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าไปใน Zipmex Thailand  นั้นสามารถได้รับโบนัสที่อาจจะมีความคล้ายคลึงกับดอกเบี้ย โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องล็อคเหรียญ ZMT ไว้จำนวนหนึ่งถึงจะได้โบนัสนี้ โดยทางบริษัท Zipmex ได้เคยออกมาให้เหตุผลว่าเงินที่นำมาเป็นโบนัสนั้นเป็นเงินที่ได้จากฝลประกอบการจากสาขาในต่างประเทศ

ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาทาง Zipmex Thailand  ได้ส่ง Email ถึงลูกค้า ZipUp ให้ยอมรับเงื่อนไขการให้บริการใหม่ซึ่งมีความใจความสำคัญว่าผลิตภัณฑ์ ZipUp นั้นจะถูกย้ายไปอยุ่ภายใต้ Zipmex Asia ซึ่งไม่ใช่บริษัทที่ได้รับใบอนุญาติจาก ก.ล.ต. ไทยแต่อย่างใด ทำให้อยู่นอกเหนือการกำกับดูแล ซึ่งจากข้อมูลที่ Zipmex เปิดเผยนั้นสินทรัพย์ดังกล่าวถูกนำไปฝากให้กับ Babel Finance จำนวน $45 ล้านและ Celsius $5 ล้านซึ่งทั้งสองบริษัทนี้มีข่าวเรื่องปัญหาเรื่องสภาพคล่องมานานกว่า 1 เดือนแล้ว

สินทรัพย์ที่ฝากอยู่บนศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ นั้นปลอดภัยหรือไม่?

หลายๆคนน่าจะเคยได้ยินเรื่องราวของการที่ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกมากมายนั้นถูก Hack หรือมีปัญหาต่างๆมากมายหนึ่งในเหตุการณ์ที่กระฉ่อนโลกที่สุดคือ Mt.Gox ในปี 2014 ที่มีการสูญเสียเงินกว่า 142,000 BTC ด้วยกัน

ซึ่งในทางปฎิบัติแล้วการที่เราฝากเงินในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลใดๆก็ตามนั้นเป็นการที่เรานำความปลอดภัยของสินทรัพย์ของเราไปฝากกับผู้อื่น ทำให้มีความเสี่ยงที่แตกต่างออกไปจากการที่เราเก็บรักษาสินทรัพย์ด้วยตัวเอง 

โดยหนึ่งในสิ่งที่หลายๆคนควรรู้คือคุณสามารถเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลไว้ด้วยตัวเองได้ด้วย Cold wallet ประเภทต่างๆ อย่างไรก็ตามผู้ใช้งานจำนวนมากก็ไม่ได้ตระหนักถึงการรักษาสินทรัพย์ด้วยตัวเอง นอกจากนี้แม้การเก็บสินทรัพย์ด้วยตัวเองอาจจะทำให้ผู้ใช้อุ่นใจ แต่ผู้ใช้งานก็ต้องรับผิดชอบสิน ทรัพย์นั้นด้วยตนเองเช่นกัน

หากผู้ใช้งานรับผิดชอบไม่ดีทำ Private key หายก็อาจจะทำให้เกิดความสูญเสียได้ ซึ่งในทางกลับกันการฝากเงินในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้ใช้งานจะได้รับความสะดวกสบายแต่ก็ต้องเชื่อในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นๆ

แต่ในทางเทคนิคแล้วระบบรักษาความปลอดภัยในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลมีการพัฒนามาเรื่อยๆ แม้ผู้เขียนอาจจะไม่สามารถรับปากได้ว่ามันมีความปลอดภัย 100% แต่มันก็มีความปลอดภัยมาก กว่าแต่ก่อนมาก โดยตามข้อกำหนดของ ก.ล.ต. แล้วสินทรัพย์ของลูกค้าที่ฝากให้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นจะต้องถูกเก็บไว้ให้กับผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Custody)

โดย 90% เก็บไว้ใน Cold wallet ที่อินเทอร์เนตเข้าถึงไม่ได้ ส่วนอีก 10% อยูู่บน Hot wallet ของระบบ ซึ่งในปัจจุบันในไทยทาง กลต. ยังไม่ได้มีการประกาศกฎเกณฑ์ในการให้ใบอนุญาติแต่อย่างใด ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจจึงต้องเลือกใช้ผู้ให้บริการในต่างประเทศเช่น Coinbase Custody หรือ BitGo

จากความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแล้วระบบ Custody นั้นมีความปลอดภัยที่สูงมาก เพราะการจะถอนเงินสินทรัพย์ได้นั้นจะมีการเขียนเงื่อนไขการถอนเช่น ถอนไปที่ไหน ถอนไปทำอะไร ไว้เรียบร้อยแล้ว การถอนยังใช้ระบบ Multisignate ที่จะต้องใช้การลงนามจากหลายฝ่ายจึงจะถอนเงินได้ และยังมีการทำประกันไว้อีกด้วย

นอกจากนี้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยจะต้องมีการเปิดเผย Address ที่ใช้ในการรับฝากสินทรัพย์ ซึ่งมันเป็นข้อมูลที่อยู่บน Public address ซึ่งหากมีการนำไปใช้ผิดจุดประสงค์ก็หากมีผู้ตรวจสอบจะสามารถล่วงรู้ได้ทันทีเพราะข้อมูลเป็นสาธารณะ

ข้อกฎหมายที่ควรรู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ในศูนย์ซื้อขาย

ตามกฎหมายแล้วสินทรัพย์ที่ฝากในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลกับเงินฝากในธนาคารนั้นนั้นมีความแตกต่างกัน เพราะในกรณีของเงินฝากธนาคาร ตามกฎหมายแล้วเงินเป็นของธนาคาร แต่ธนาคารมีหนี้ต้องคืนผู้ฝาก และผู้ฝากเป็นผู้มีอำนาจทำธุรกรรมกับธนาคาร  ในทางกลับกันจาก พรก สินทรัพย์ดิจิทัลที่ออกมาในปี 2018 นั้นระบุว่าสินทรัพย์ที่ฝากในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นเป็นของผู้ฝาก ไม่ใช่ของศูนย์ซื้อขาย

สาเหตุที่กฎหมายเขียนในลักษณะนี้ เพราะมีผลต่างกับในแง่การยึดอายัดทรัพย์ การบังคับคดี และการเฉลี่ยหนี้ หากเงินเป็นของธนาคารในกรณีที่ธนาคารล้มละลายแล้วสินทรัพย์สูญเสียไปเช่นมีหนี้ 1000 แต่มีเงินอยู่แค่ 100 เท่ากับเจ้าหนี้ได้เฉลี่ยหนี้คืน 1 ต่อ 10 

แต่ในกรณีศูนย์ซื้อขาย กฎหมายเขียนว่าสินทรัพย์ยังเป็นของผู้ฝาก หากถ้าศูนย์ซื้อขายล้มละลายแล้วมีหนี้ 1000 แต่มีเงินอยู่แค่ 100 ถ้าเงิน 100 นั้นเป็นสินทรัพย์ของลูกค้า กฎหมายถือว่าเป็นของลูกค้า หากลูกค้าฝากสินทรัพย์ 10 บาท ลูกค้าก็จะได้คืน 10 บาท ไม่ต้องเอาไปเฉลี่ยให้เจ้าหนี้อื่น

เหมือนในกรณีของธนาคาร โดยในปัจจุบันในทางกฎหมายแล้วหากศููนย์ซื้อขายสินทรัพย์นั้นเกิดล้มละลายหรือมีความผิดพลาดในการเก็บรักษาสินทรัพย์ ผู้ฝากสินทรัพย์จะไม่ได้รับการคุ้มครองเรื่องเงินชดเชยเหมือนในกรณีของธนาคาร มีแต่ต้องฟ้องร้องด้วยวิธีตามปกติเท่านั้น

ในความเห็นของผู้เขียนแล้วเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นในอุตสหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลพอสมควร เพราะแม้ว่า ZipUp นั้นจะอยู่ภายใต้การดูแลจากบริษัทที่ไม่ได้รับใบอนุญาติ แต่ Zipmex Thailand นั้นก็ไม่น่าปฎิเสธการรับผิดชอบได้จากการที่บนหน้าเว็ปไซต์นั้นมีข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ ZipUp ระบุอยู่รวมทั้งการชักชวนหรือโฆษณาให้ฝากสินทรัพย์ใน ZipUp ก็ตาม

การสร้างมาตรฐานและการตรวจสอบที่ดีจึงเป็นส่วนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมนี้ในอนาคต ส่วนในแง่ผลกระทบต่อตลาดโลกนั้นเนื่องจากประเทศไทยกินส่วนแบ่งการตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับโลกน้อยกว่า 1% ด้วยซ้ำทำให้เหตุการณ์นี้ไม่มีผลใดๆ

ในแง่ของผู้ใช้งานแล้วทางผู้เขียนขอแนะนำให้ผู้ที่สนใจสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นศึกษาการเก็บสินทรัพย์ด้วยตนเอง เพราะแม้ว่าในปัจจุบันระบบการเก็บรักษาสินทรัพย์นั้นจะปลอดภัยกว่าในอดีตมาก แต่การเก็บด้วยตัวเองนั้นจะเป็นการกระจายความเสี่ยงของตัวเราเอง และจริงๆแล้วหากจุดประสงค์ของศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ถูกออกแบบมาสำหรับการซื้อขาย ไม่ใช่เพื่อการเก็บรักษา

ดังนั้นเราจึงควรจะเก็บสินทรัพย์ไว้ในศูนย์ซื้อขายเพื่อการซื้อขาย และโอนออกมาเก็บรักษาเองเมื่อต้องการเก็บออม