ลุงตู่ขี่ทักษิณ ขึ้นนายก ได้หรือ?
รอแค่ประชาชนตอบรับพรรคพลังประชารัฐอย่างเป็นทางการ ในการรับการเสนอชื่อเป็นเบอร์ 1 ของบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี ชื่อของลุงตู่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็กลายเป็น “คนการเมือง” อย่างเป็นทางการ หลังจากจดจ้องหาจังหวะมานาน
ไม่น่าจะมีอะไรพลิกผัน แต่การขึ้นเป็นเบอร์ 1 บัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพลังประชารัฐ จะเป็นสปริงทำให้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการลือกตั้งต่อได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับคณิตศาสตร์ทางการเมือง คือผลการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมที่จะถึงนี้
ซึ่งถ้าเอาชัวร์ฐานนักการเมืองเก่าที่ย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐกับคะแนนนิยมในตัวลุงตู่เลือกประยุทธ์ จันทร์โอชา (ที่มาวินในทุกโพลล์) ต้องทำให้พรรคพลังประชารัฐขึ้นเป็นพรรคลำดับสองของการเลือกตั้ง นั่นหมายความว่าต้องได้ ส.ส.ทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อให้ได้เกิน 109 ที่นั่ง ถึงจะทำให้เข้าป้ายเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แม้จะแพ้อันดับหนึ่งอย่างเพื่อไทยและเครือข่ายของทักษิณ ชินวัตร ก็ตาม
แต่เอาเข้าจริง ยังหืดขึ้นคอสำหรับพรรคพลังประขารัฐที่จะได้ส.ส.ถึง 100 ที่นั่ง ต้องทำการบ้านอย่างหนักใน 7 สัปดาห์ที่เหลือ เพราะ ทักษิณ ชินวัตร ก็ไม่ใช่ “หมูให้เชือด” ในสนามเลือกตั้ง 6 ครั้งหลัง นับแต่เลือกตั้งปี 2544 ทักษิณ ชินวัตร ชนะหมด ทั้งเลือกตั้งโมฆะและไม่โมฆะ ยิ่งเกมนักเลือกตั้งที่ต้องใช้สารพัดวิชาทั้งใต้ดินบนดิน ซึ่งไม่มีในตำราพิชัยสงครามที่นักเรียนนายร้อย จปร.อย่างพลเอกประยุทธ์ท่องได้แล้ว ต้องบอกว่าเป็น “เวที” ที่ลุงตู่ไม่ได้เปรียบเสี่ยแม้วเลย
มีเสียงกระซิบกระเซ็นกระสายมาว่า ถึงแม้ไม่ชนะที่สองก็อาจจะมีการใช้ “ทฤษฏีเสียงข้างน้อย” ตั้งรัฐบาล ฟันธงตรงนี้ได้เลยว่า “ยาก” เพราะไม่ใช่คิดได้แล้วจะทำได้ เพราะเกมกดดันข้างนอกในการตีกันไม่ให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย ทักษิณ ชินวัตร เดินปูทางไว้แล้วหากพลเอกประยุทธ์ ดันใช้ทางเลือกนี้มีหวังเลือดเดือดอีกหน
ทางเดียวที่จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหนอย่างสง่างาม คืออย่างน้อยต้องนำทัพขึ้นเป็นเบอร์สอง หรืออย่างน้อยต้องได้ 100 ที่นั่ง.