“จีทูจีล็อตสอง”กับ“3พี่น้องตระกูลชิน”
ตามข่าวว่าอนุกรรมการ (ป.ป.ช.) ไต่สวน คดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตสอง “มีคำสั่งแจ้งข้อกล่าวหา” แก่ผู้ถูกกล่าวหาทุกรายแล้ว
ย้อนกลับไป ปลายเดือน ต.ค. 2561 กรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ มีมติให้ไต่สวน “สามพี่น้องตระกูลชิน” เป็นสเต็ปแรก
ประเด็นอยู่ที่ “จำนำข้าวล็อตสอง” มีผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติม เป็น “สามพี่น้องตระกูลชิน” ประกอบด้วย “พี่คนโต” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี “น้องคนสุดท้อง” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ“พี่คนกลาง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์
และยังมี “บุญทรง เตริยาภิรมย์” อดีต รมว.พาณิชย์ ตกเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีนี้ด้วย รวมผู้ถูกกล่าวหาทั้งสิ้น 71 ราย
สเต็ปต่อมา คือ คณะอนุกรรมการไต่สวน สอบสวนพยาน ตามที่เป็นข่าวว่า อนุกรรมการ ป.ป.ช.เข้าไปสอบปากคำ “บุญทรง” อดีต รมว.พาณิชย์ สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งอยู่ระหว่างถูกจองจำตามคำพิพากษาศาลฎีกานักการเมือง 42 ปี ในคดีระบายข้าวจีทูจีล็อตแรก ไปแล้ว จนมีคำพูดว่า “บุญทรง”ยอมคายข้อมูลทุจริตจีทูจี โยงนายเก่า เพื่อเอาตัวเองให้รอด นำมาสู่ข้อสรุปในคดี “จีทูจีล็อตสอง” ตาม ระเบียบป.ป.ช.ว่าด้วยการไต่สวนและสอบสวน พ.ศ.2561 ข้อ 72
ขั้นตอนต่อมา ระเบียบป.ป.ช.ฯ ข้อ 73 ให้ป.ป.ช.ส่งหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา ทางไปรษณีย์ไปยังที่อยู่ตามทะเบียนราษฎร์ของผู้ถูกกล่าวหาทุกราย
ขั้นตอนหลังจากนั้น ตามระเบียบข้อ 74 ผู้ถูกกล่าวหา จะมาชี้แจงด้วยตัวเอง หรือจะแก้ข้อกล่าวหาเป็นลายลักษณ์อักษร ก็ได้ โดยต้องชี้แจงภายใน 15 วัน แต่หากไม่พร้อม สามารถขอขยายเวลาได้ ตามระเบียบข้อ 78 ขอขยายได้ต้องไม่เกิน 30 วัน ยกเว้นมีเหตุจำเป็น แต่จะดูเหตุผล และรายละเอียดว่าเพียงพอ สมควร หรือมีเจตนาประวิงเวลา หรือเจตนาไม่สุจริต
กรรมการ ป.ป.ช.บอกว่า คดี“จีทูจีล็อตสอง” ยังอยู่ในชั้นอนุกรรมการไต่สวน เมื่อไต่สวนและรับฟังคำชี้แจง จึงจะมีมติส่งมาบอร์ดชุดใหญ่ ดังนั้น กระบวนการพิจารณาคดีนี้ ถ้านับจาก ป.ป.ช.รับไว้ไต่สวน เมื่อเดือนต.ค.2561 นี่เพิ่งจะผ่าน 5 เดือนเท่านั้น คดีนี้ยังต้องรอการให้ปากคำผู้ถูกกล่าวหา มีทั้ง นักการเมือง อดีตข้าราชการ เอกชน และกลุ่มคนต่างประเทศ แต่การแจ้งข้อหาในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง อาจเป็นความบังเอิญที่ อนุกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนเสร็จสิ้นพอดี
“ภูมิธรรม เวชยชัย” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย มีสิทธิที่จะไม่สบายใจ ไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาเป็นการเมือง ใช้ทำลายหรือสร้างให้เกิดความรู้สึกไม่ดี เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม อย่าเอาเรื่องคดีมาสร้างเงื่อนไขในการเลือกตั้ง และย้ำว่านโยบายจำนำข้าวไม่ได้มีความผิดพลาด
ในความไม่สบายใจของ “ภูมิธรรม” คงต้องย้อนกลับไปอ่านคำพิพากษาศาลฎีกานักการเมือง “คดีจีทูจีล็อตแรก” จะได้เข้าใจโดยถ่องแท้ว่า “จำนำข้าว-จีทูจีเก๊” สร้างความเสียหายให้ประเทศชาติเพียงไหน? จนมีคนโดนหลอกให้ไปต้องติดคุกติดตะรางแทน ส่วนตัวการใหญ่หลบหนีอย่างลอยนวล