'วิ่ง ไล่ ลุง' จะเข้าเส้นชัยตามเป้าหรือแค่อีเวนท์สายลมแสงแดด

คนที่สบายใจก่อนใคร คือ น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ ที่เข้า “ภูมิใจไทย” ตามคาด ต่อด้วย น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี ที่ร่วมชายคา “พลังท้องถิ่นไท” ล่าสุด พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี ได้ตัดสินใจไปสวมเสื้อ “พลังประชารัฐ” เตรียมเปิดตัวเป็นทางการในวันนี้แล้ว ส่วน จารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี ที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเอาอย่างไร แต่แว่วๆ มาว่ามี บิ๊กรัฐบาล ฝากพรรคเล็กบางพรรครับไปดูแลแล้ว รอแค่ฤกษ์งามยามดีเปิดตัวเท่านั้น แต่จะใช่ “พลังท้องถิ่นไท” ตามกวินนาถไปหรือไม่คงต้องลุ้นกัน

อีเวนท์ปลุกมวลชนกดดันรัฐบาล อย่าง “วิ่ง ไล่ ลุง” ดูจะคึกคักผิดหูผิดตา ฟีดแบ็กหลายพื้นที่ได้รับเสียงตอบรับท่วมท้น ขนาดนิด้าโพลยังอดไม่ได้ที่จะต้องสำรวจความเห็นเรื่องนี้ พบว่า 40.86% เห็นด้วยมาก เมื่อเทียบกับ กิจกรรม “วิ่ง/เดินเชียร์ลุง” พบว่า คนเห็นด้วยมาก มีตัวเลขเพียง 18.92% สัดส่วนต่างกันพอสมควร

ขณะที่ ตัวเลขคนไม่เห็นด้วยเลยกับ “วิ่ง ไล่ ลุง” มี 31.32% ส่วน “วิ่ง/เดินเชียร์ลุง” ปรากฏว่าสูงถึง 49.76% เรียกว่าดูผลสำรวจแล้วถือว่ามีนัยพอสมควร

อย่างว่า คนอยู่มานาน 5 ปี ย่อมมีคนชมชอบไม่ใช่เรื่องแปลก และยิ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเข้าไปอีก หากจะมีคนไม่ชอบ หรือคนที่เคยชอบแล้วภายหลังเปลี่ยนไป จนเข้าขั้นเบื่อ

ท่ามกลางปัญหาปากท้อง เงินขาดมือ การเมืองอยู่ในวังวนเดิมๆ เป็นอย่างไรก็อย่างนั้น เรื่องนี้รัฐบาลอาจต้องยอมรับความจริง ฟังเสียงสะท้อนอย่างตรงไปตรงมา จะได้ปรับตัว ปิดจุดอ่อน-เสริมจุดแข็ง ให้สอดรับกับสถานการณ์ ดีกว่าตั้งป้อม ยึดมั่นถือมั่น นั่นยิ่งจะเติมเชื่อความเบื่อ กระตุ้นอารมณ์คนให้คุกรุ่นยิ่งขึ้นไปอีก

ตรงนั้นจะเป็นปัจจัยหนุนให้อีเวนท์ทำนอง “วิ่งไล่ลุง” ยิ่งจะขายดิบขายดี ยกระดับขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลก็จะยิ่งเหนื่อย หรือบางครั้ง การเคลื่อนไหวในรูปแบบแฟลชม็อบ ชักชวนกันผ่านโซเชียลมีเดีย วูบวาบเป็นครั้งคราว อาจจะเป็นหนึ่งในรูปแบบการดิสรัปชั่นในการเมืองไทยก็ไม่แน่ เพราะถ้าหาก “วิ่ง ไล่ ลุง” เรียกคนได้เป็นหมื่นมารวมกัน โดยที่ทุกคนพร้อมใจกันควักกระเป๋าสมัครเข้าร่วมงาน โดยปราศจากการจัดตั้ง ก็อาจลบคำสบประมาทของคนทำ ม็อบเสื้อสีต่างๆ ได้ลง “วิ่งไล่ลุง” จะเข้าเส้นชัยตามเป้า หรือจะเป็นแค่ อีเวนท์สายลมแสงแดด คงต้องจับตาดู