มาร่วมกันผ่าน ช่วงวิกฤติไปด้วยกัน!
ขณะที่ท่านอ่านคอลัมน์เวลานี้ คงเป็นช่วงกลางเดือนมี.ค.2563 ได้แต่หวังว่า สถานการณ์ไวัส โควิด 19
ที่ส่งผลกระทบทั้งวงกว้างและเชิงลึกทั่วโลก จะเริ่มคลี่คลายและควบคุมได้บ้าง...
Part 1. โควิด 19 แรงกว่า ดิสรัปชั่นในหลายปีที่ผ่านมา!
เทคโนโลยีใหม่ๆ แอพพลิเคชั่น และธุรกิจใหม่ๆที่เปลี่ยนโฉมธุรกิจทั่วโลกในหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบทั้งทางลบและทางบวกให้กับหลายธุรกิจในประเทศไทย แต่ก็ยังพอเรียนรู้ รับมือ ปรับตัวกันได้บ้าง
แต่สถานการณ์ ไวรัสโควิด 19 ที่ระบาดทั่วโลกในขณะนี้ เล่นเอาการถูกดิสรัปชั่นของธุรกิจไทยกลายเป็นเรื่องเล็กเรื่องที่ถูกลืมไปเลย เพราะไวรัสโควิด19 ส่งผลกระทบรุนแรงมากกว่าที่คาดคิด ยากที่จะคาดเดาว่าจะคลี่คลายอย่างชัดเจนเมื่อไหร่ จะรุนแรงมากขึ้น หรือค่อยๆคลี่คลาย ขึ้นอยู่กับ 2 ภาพหลักๆ
ภาพแรก สถานการณ์การระบาดของต่างประเทศทั่วโลกเป็นอย่างไร?
ภาพที่สอง สถานการณ์การระบาดของประเทศไทย เป็นอย่างไร?
Part 2. จะ “เอาอยู่” หรือไม่ ไม่ได้ขึ้นกับเราฝ่ายเดียว!?
ถ้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของทั่วโลกยังควบคุมไม่ได้ ยังแพร่ระบาดต่อเนื่อง จะส่งผลกับ สถานการณ์ในประเทศที่ต้องรับผลกระทบอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ถึงแม้สถานการณ์ในประเทศจะพยายามรับมือและควบคุมอย่างเต็มที่ก็ตาม ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถ้าสถานการณ์ในประเทศ ระบาดรุนแรงเพิ่มขึ้น อันนั้นหนักแน่!
แต่ถ้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของทั่วโลก ค่อยๆคลี่คลายและเริ่มควบคุมได้ ประกอบกับสถานการณ์การระบาดในประเทศไทย เริ่มควบคุม จำกัด และ กำจัด เชื้อไวรัสโควิท19 ได้ อันนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ความเป็นไปได้ในเวลานี้ (สัปดาห์แรกของเดือนมี.ค. 2563) ยังมองไม่ชัด
Part 3.โควิด 19 ทำให้หลายธุรกิจ “นิ่งสนิท!”
อย่างที่เคยเขียนไปในหลายสัปดาห์ก่อน ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ “ทันทีและรุนแรง” คือธุรกิจท่องเที่ยวที่รองรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ตามด้วยธุรกิจที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับลูกค้าชาวจีน ทั้งธุรกิจในประเทศและส่งออก
แต่ตอนนี้ แทบทุกธุรกิจแทบจะนิ่งสนิท นอกเหนือจากธุรกิจสายการบิน โรงแรม โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับกิจกรรม Event ต่างๆ หรือสถานที่ที่เป็นที่รวมตัวของคนจำนวนมากๆ ต่างก็หยุดชะงักเพราะยกเลิก และซบเซาเงียบเหงาไปตามๆกัน เรียกว่ากระทบลามเป็นลูกโซ่อย่างต่อเนื่อง (ยกเว้นผู้ผลิต/ผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัย /เจลล้างมือหรืออุปกรณ์ของใช้ต่างๆ ที่ช่วยป้องกันไวรัส จะขายดีจนผลิตไม่ทัน ยังไงก็อย่าฉกฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของผู้คนกันนะครับ) และธุรกิจส่งอาหารถึงบ้านของแอพต่างๆ ไปจนถึงธุรกิจที่ส่งบมอบความบันเทิงถึงบ้าน ส่งมอบความสะดวกแบบไม่ต้องออกนอกบ้านจะเติบโตสวนกระแส)
ส่วนภาคสังคม จำนวนคนตกงานจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และรายได้ของคนที่ยังมีงานทำอาจถูกปรับลดตามสภาวะของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าจะรุนแรงและยืดเยื้อยาวนานเท่าไร
Part 4. สามสถานการณ์ที่แทบทุกธุรกิจต่างก็เตรียมแนวทางรับมือ
สถานการณ์ วิกฤติขั้นสุด!
ทุกอย่างลุกลามรุนแรงจนหยุดชะงักเพราะโรคระบาด (คงไม่น่าจะมาถึงสถานการณ์นี้ แต่คิดเตรียมรับมือไว้ก็ไม่เสียหาย) สิ่งที่ธุรกิจของเราต้อง รับมือ ต้องปรับต้องเปลี่ยน เรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำมีอะไรบ้าง? เพื่อจำกัดและลดความเสียหายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้!?
สถานการณ์วิกฤติปานกลาง
คล้ายๆกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ สิ่งที่เราต้องปรับเปลี่ยน มุ่งเน้นเพื่อให้ประคองตัวผ่านช่วงเวลานี้ให้ได้ มีอะไรบ้าง?
สถานการณ์วิกฤติคลี่คลาย
สิ่งที่ธรุกิจเราต้องทำเพื่อพลิกสถานการณ์กลับมาให้เร็วที่สุด ต้องทำอะไรบ้าง?
Part 5. จากแต่ละสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 ทำให้ หลายธุรกิจ “ต้องปรับ....”
5.1.รักษาเงินสดของธุรกิจ เป็นเรื่องที่ทุกท่านทราบและต้องทำอยู่แล้ว
5.2.ปรับโครงสร้างหนี้ ในกรณีที่ธุรกิจกู้เงินจากสถาบันการเงินในช่วงที่ผ่านมา (สถาบันการเงินแทบทุกที่ ได้ออกมาตรการช่วยเหลือในเรื่องนี้ให้กับผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาจากสถานการณ์นี้อยู่แล้ว สามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้เลย)
5.3.ปรับรูปแบบการทำงานของพนักงาน ที่ในปัจจุบันเทคโนโลยีและการสื่อสาร เอื้ออำนวยให้บางสายงานไม่จำเป็นต้องมาที่ทำงาน
5.4.รักษาลูกค้าปัจจุบันของท่านให้ได้มากที่สุด โดยเข้าใจปัญหาของลูกค้าของธุรกิจท่าน ที่กำลังเผชิญปัญหาเดียวกันกับท่าน ช่วยกันประคับประคองให้ผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน
5.5.เป็นช่วงเวลาที่จะปรับเปลี่ยนมุมมอง ทัศนคติพนักงานทุกระดับ ทุกหน่วยงานในธุรกิจของท่านให้ร่วมแรงร่วมใจฟันฝ่า และช่วยเหลือพนักงานของท่านให้ผ่านพ้นไปได้ในกรณีที่ท่านยังสามารถประคับประคองเรื่องค่าใช้จ่ายได้ ก็คงต้องช่วยกันทั้งสองฝ่าย
Part 6.เราจะผ่านวิกฤติไปด้วยกัน!
ไม่ว่าวิกฤติอะไรก็ตาม จะรุนแรงขนาดใดก็ตาม เมื่อถึงเวลาก็จะค่อยๆคลี่คลาย และถ้าทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนร่วมแรงร่วมใจช่วยกันและอดทนฟันฝ่าสถานการณ์นี้ไปได้ วิกฤติไวรัส โควิท 19 ก็จะเป็นเหมือนวัคซีน ที่ทำให้ คนและธุรกิจ ที่ผ่านสถานการณ์ไปได้ แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นครับ
ขอเอาใจช่วยทุกท่านทุกธุรกิจให้ฟันฝ่าผ่านไปได้ด้วยกันนะครับ.